JAEGER-LECOULTRE Reverso Classic Monoface Small Seconds

Last updated: 16 ต.ค. 2568  |  240 จำนวนผู้เข้าชม  | 

JAEGER-LECOULTRE Reverso Classic Monoface Small Seconds

มีผลงานไม่มากนักที่สามารถสะท้อนประวัติศาสตร์, นวัตกรรม, และความงามอันคลาสสิก ได้ในเวลาเดียวกัน Reverso จาก Jaeger-LeCoultre คือหนึ่งในนั้น ตั้งแต่ปี 1931 จนถึงปัจจุบัน มันยังคงเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ จดจำได้ง่ายที่สุดในโลก ด้วยเส้นสาย Art Deco อันโดดเด่นและกรอบที่พลิกกลับได้

ล่าสุด Jaeger-LeCoultre เปิดตัว Reverso Classic Monoface Small Seconds รุ่นใหม่ สานต่อจากการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2024 กับตัวเรือนที่ถ่ายทอดจากต้นฉบับในปี 1931 โดยรุ่นใหม่นี้คงจิตวิญญาณของรุ่นต้นฉบับไว้ครบถ้วน แต่เสริมความร่วมสมัยด้วยหน้าปัดใหม่ลายกิโยเช่แบบ “Coin Stack” แรงบันดาลใจจากขอบเหรียญซ้อนกัน กับตัวเรือนสตีลขัดเงาแบบหน้าปัดเดี่ยว ซึ่งหมายแสดงค่าเวลาบนหน้าปัดเดียว ส่วนอีกด้านที่พลิกกลับเก็บพื้นที่ไว้สำหรับแกะสลักหรือรังสรรค์งานศิลป์ตามที่ชอบ หรือปล่อยโล่งก็งดงามในแบบธรรมชาติ

กำเนิด Reverso: จากสนามโปโลสู่ไอคอนสากล
เรื่องราวของ Reverso เริ่มต้นใน ปี 1931 ในยุคที่ผู้ชายผู้รักการกีฬาเริ่มเป็นแฟชั่นใหม่ “Sporting Gentleman” แนวคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก นายทหารผู้เล่นโปโลในอินเดีย ที่เผชิญปัญหาว่านาฬิกาข้อมือทั่วไปจะเสียหายง่ายจากการกระแทกขณะเล่น polo

โจทย์นี้เรียกร้องให้เกิด นาฬิกาที่สามารถพลิกกลับได้ เพื่อปกป้องหน้าปัดหลัก แต่ยังคงความสง่างามไม่ลดทอน Reverso จึงถือกำเนิดเป็น งานออกแบบชั้นยอด ที่ผสานระหว่างฟังก์ชันและความงามอย่างลงตัว

การพลิกกลับของตัวเรือนได้รับ สิทธิบัตร CH159982 และกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น แม้เวลาผ่านเกือบศตวรรษ เส้นสาย Art Deco ที่เรียบง่ายและสมมาตรยังคงทำให้ Reverso เป็นสัญลักษณ์ของความคลาสสิกที่เหนือกาลเวลา

ไม่เพียงแต่การใช้งานเพื่อกีฬา Reverso ได้รับความนิยมจาก ผู้มีรสนิยมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักสะสม, นักออกแบบ, หรือนักธุรกิจ มันค่อย ๆ ขยายขอบเขตจากนาฬิกาสำหรับผู้ชายสู่คอลเลกชันสำหรับทั้งชายและหญิง โดยที่ เอกลักษณ์ของการพลิกกลับตัวเรือนและเส้นสาย Art Deco ยังคงเหมือนเดิม


Monoface Small Seconds: การตีความใหม่ที่ร่วมสมัย
Reverso Classic Monoface Small Seconds มาพร้อมหน้าปัดใหม่ที่แสดงบุคลิกหลากหลายของ Reverso สปอร์ตก็ได้ สง่างามก็ได้ ร่วมสมัยหรือย้อนยุคก็เข้ากัน ทั้งยังเหมาะกับผู้ชายและผู้หญิงโดยไม่สูญเสียเอกลักษณ์

ความพิเศษของรุ่นนี้อยู่ที่ลายกิโยเช่แบบใหม่ “Coin Stack” บริเวณกลางหน้าปัดและจุดเล็กวินาที ลวดลายนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของขอบเหรียญซ้อนกันอย่างประณีต ตัดกับพื้นผิวขัดแนวตั้งของเส้นชั่วโมงและวินาที พร้อมตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่ การออกแบบนี้ทำให้หน้าปัดดู มีมิติและลึกซึ้ง แต่ยังคงความเรียบง่ายและชัดเจน

ตัวเรือนขัดเงาขนาด 40.1 x 24.4 มิลลิเมตร หนาเพียง 7.56 มิลลิเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับสัดส่วนต้นฉบับปี 1931 การออกแบบนี้ช่วยให้สวมใส่สบายทั้งชายและหญิง ด้านหลังโลหะเรียบเปิดโอกาสให้เจ้าของแสดงตัวตน ไม่ว่าจะเป็น การสลักชื่อ, โลโก้, หรือระบายสี เพื่อเฉลิมฉลองความทรงจำสำคัญ

ภายใต้หน้าปัดที่งดงามในดีไซน์ใหม่นี้ คือขุมพลังของกลไกไขลานคาลิเบอร์ 822 สำรองพลังงานได้นาน 42 ชั่วโมง การไขลานมือให้ความรู้สึกใกล้ชิดและมีส่วนร่วมกับนาฬิกามากกว่ากลไกอัตโนมัติ ผู้สวมใส่จะสัมผัสถึง ความสัมพันธ์ระหว่างมือของตนกับงานฝีมือชั้นสูง ทุกครั้งที่ไขลาน

ตัวเรือนของ Monoface Small Seconds สามารถจับคู่กับสายหนังลูกวัวสีดำแบบเปลี่ยนได้ ซึ่งออกแบบโดย Casa Fagliano โรงงานทำรองเท้าโปโลชื่อดังของอาร์เจนตินา การร่วมงานนี้ทำให้เกิดความ สมดุลระหว่างความประณีตของยุโรปและสไตล์สปอร์ตแบบอาร์เจนตินา ที่พิเศษยิ่งกว่าคือสายเป็นแบบเปลี่ยนได้ง่ายดายด้วยตนเอง


ศาสตร์และศิลป์ของกิโยเช่ลายละเอียดที่เล่าเรื่อง
เทคนิคกิโยเช่เป็นงานแกะสลักลวดลายลงบนหน้าปัดหรือตัวเรือนด้วยเครื่องจักรเฉพาะ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญสูง ลวดลาย “Coin Stack” ของ Monoface Small Seconds นอกจากเพิ่มมิติและความหรูหราแล้ว ยัง สะท้อนการออกแบบแบบ Art Deco ที่เน้นสมมาตรและความชัดเจน

พื้นผิวของกิโยเช่ตัดกับเส้นขัดแนวตั้งบนหน้าปัด ทำให้เกิดความลึกที่สวยงาม ทั้งยังช่วยเน้นตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่ การผสมผสานนี้ทำให้หน้าปัดดูมีชีวิตชีวาและทันสมัย ในขณะเดียวกันก็เคารพจิตวิญญาณดั้งเดิมของ Reverso

Reverso Classic Monoface Small Seconds คือบทพิสูจน์ว่าความคลาสสิกและนวัตกรรมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียบง่ายแต่สง่างาม ออกแบบเพื่อผู้ที่ชื่นชอบ ความประณีต, ความสง่างาม, และความร่วมสมัย

จากสนามโปโลในอินเดียสมัย British Raj สู่เวิร์กช็อปใน Vallée de Joux นาฬิกาแต่ละเรือนเป็น เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์, ศิลปะ, และเทคนิคอันล้ำค่า ที่บอกเล่าได้ทั้งในเชิงวิศวกรรมและความงาม

ในยุคปัจจุบัน Reverso ยังคงทำหน้าที่ เป็นแรงบันดาลใจและสัญลักษณ์ของความทันสมัย เหมือนกับที่มันได้ทำมาตลอดเก้าทศวรรษที่ผ่านมา

เกี่ยวกับ Reverso
ตลอดเก้าทศวรรษ Reverso ได้พิสูจน์แล้วว่า คลาสสิกไม่จำเป็นต้องหยุดนิ่ง แต่สามารถปรับตัวต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียตัวตน ด้วยการผสานกับกลไก 79 แบบ และสิทธิบัตร 39 รายการ ด้านหลังโลหะว่างได้กลายเป็นผืนผ้าใบสำหรับความสร้างสรรค์ ทั้งการลงยาสี, สลัก, หรือประดับอัญมณี วันนี้ Reverso ยังเป็นสัญลักษณ์ของ ความทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ เช่นเดียวกับที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนาฬิกาในปี 1931

เกี่ยวกับ Jaeger-LeCoultre
ตั้งแต่ปี 1833 Jaeger-LeCoultre ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะ ผู้บุกเบิกนวัตกรรมและกลไกซับซ้อน ภายใน Vallée de Joux การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์กับความสงบของธรรมชาติทำให้เกิด กลไกที่ล้ำหน้าและแม่นยำ

จนถึงปัจจุบัน โรงงานได้สร้างสรรค์กลไกกว่า 1,400 แบบ และถือครองสิทธิบัตรกว่า 430 รายการ การรวมทักษะกว่า 180 แบบไว้ภายในเวิร์กช็อปเดียว ทำให้ทุกเรือนมีความประณีตสูงสุด ทั้งในด้านกลไกและความงาม Jaeger-LeCoultre จึงไม่ใช่เพียงผู้ผลิตนาฬิกา แต่คือศูนย์รวมความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ ที่เชื่อมอดีตกับอนาคตได้อย่างสมบูรณ์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้