Last updated: 12 มี.ค. 2563 | 663 จำนวนผู้เข้าชม |
Hamilton เป็นผู้ผลิตนาฬิกาหลายพันเรือนให้กับเหล่าทหารในกองทัพมาเป็นเวลามากกว่าศตวรรษ และได้ต่อยอดนำประสบการณ์เหล่านั้นมาสร้างนาฬิกาที่ตอบรับกับยุคสมัยปัจจุบันด้วยการผสมผสานความโดดเด่นด้านน้ำหนักที่เบา เน้นฟังก์ชันการใช้งาน และความทนทานสไตล์นาฬิกาทหาร จนออกมาเป็น Khaki Field Titanium Automatic โฉมใหม่
แรกเริ่ม Hamilton ผลิตนาฬิกาที่โดดเด่นในเรื่องกลไกที่แม่นยำให้กับทหารภายใต้การบัญชาการของนายพล ‘Black Jack’ Pershing ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อใช้บอกเวลาในการเคลื่อนไพร่พล ซึ่งนอกจากการให้ความสำคัญเรื่องการบอกเวลาที่เที่ยงตรงแล้ว ตัวนาฬิกายังได้รับการปรับเปลี่ยนจากนาฬิกาพกมาเป็นนาฬิกาข้อมือเพื่อให้ทหารสามารถอ่านเวลาได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Hamilton ยังเป็นผู้จัดหานาฬิกา เครื่องจับเวลา เครื่องตั้งเวลา และเครื่องมือให้ความแม่นยำอื่น ๆ มากมายให้แก่กองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1942 ทางแบรนด์ได้ทำการหยุดการผลิตนาฬิกาสำหรับผู้บริโภค เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตนาฬิกาจำนวนมากให้แก่ทางการทหาร โดยในระหว่างปี 1942-1945 Hamilton ได้ส่งมอบนาฬิกามากกว่าหนึ่งล้านเรือนให้แก่กองทัพ จนสามารถคว้ารางวัล Army-Navy ‘E’ Awards ถึง 5 รางวัลในฐานะผู้ผลิตยอดเยี่ยมแห่งปี
ในการผลิตนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาที่ใช้ในกองทัพ ไททาเนียมคือวัสดุนำสมัยที่ดีที่สุด ด้วยความทนทานแข็งแรงที่มาพร้อมน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ ทำให้ Khaki Field Titanium สามารถมอบอิสระในการเคลื่อนไหวแก่ผู้สวมใส่อย่างแท้จริง ตอบสนองรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่คล่องตัว Khaki Field Titanium ที่มีน้ำหนักเบานี้จึงเป็นนาฬิกาที่พร้อมลุยไปกับผู้สวมใส่ในทุกโอกาส
Khaki Field Titanium มาพร้อมตัวเรือนขนาด 42 มม. ที่ยกระดับวัสดุเป็นไทเทเนียม มีให้เลือกสองแบบสองสไตล์ที่แตกต่างกัน ทั้งสไตล์โฉบเฉี่ยวด้วยตัวเรือนที่ทำจากโลหะเคียงคู่มากับหน้าปัดสีเงิน หรือสไตล์ดุดันด้วยตัวเรือนเคลือบ PVD สีดำเข้าคู่มากับหน้าปัดสีดำ ทั้งสองแบบมาพร้อมกับสายหนังสัมผัสนุ่มสีน้ำตาล ที่เน้นความทนทานในการสวมใส่
สำหรับรุ่นหน้าปัดสีเงิน บริเวณเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีโดดเด่นด้วยสีเขียว Super-LumiNova® ส่วนรุ่นหน้าปัดสีดำมาในสีเบจ Super-LumiNova® โดยทั้งสองเป็นสีใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในคอลเลคชั่น Khaki Field Titanium Automatic สไตล์ทหารในตำนาน และยังชวนให้นึกถึงร่องรอยบนนาฬิกาของ Hamilton ที่ปัจจุบันกลายเป็นงานวินเทจชิ้นโปรดสำหรับนักสะสม โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ Super-LumiNova® และหน้าปัดสีตัดกัน คือ เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถอ่านเวลาได้ในทุกสภาพแสง และยังมาพร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติรหัส H-10 และกำลังลานสำรองที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 80 ชั่วโมง