Last updated: 18 มี.ค. 2563 | 670 จำนวนผู้เข้าชม |
ในวาระของการฉลองครบรอบ 60 ปี Grand Seiko ความงามตามธรรมชาติของ Shizukuishi ซึ่งถือเป็นถิ่นกำเนิดของนาฬิกาจักรกลของ Grand Seiko ได้ถูกนำมาเป็นต้นทางในการสร้างสรรค์นาฬิกาตัวเรือนแพลตตินัมรุ่นใหม่เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ โดยบนหน้าปัดนาฬิกาจะได้รับการสลักสัญลักษณ์ด้วยมือเพื่อสะท้อนถึงเรื่องราวในตำนานจนนำไปสู่การตั้งชื่อนาฬิการุ่นนี้ สำหรับกลไกเป็นแบบไขลานในรหัส 9S64 โดยการสร้างสรรค์ครั้งนี้ได้นำไปสู่การก่อกำเนิดของคอลเล็กชั่นใหม่ที่ชื่อว่า Elegance และนี่คือสัญลักษณ์อันทรงพลังของจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่วัฏจักรใหม่ในอีก 60 ปีต่อไปของ Grand Seiko
ตำนานแห่ง Shizukuishi
เมื่อประมาณ 1 พันปีที่แล้ว ได้มีการก่อเกิดของตำนานขึ้นมา เมื่อชายชราคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนดินแดนที่ในปัจจุบันคือ Shizukuishi ได้เริ่มได้ยินเสียงประหลาดที่ดังมาจากข้างในของต้นเซดาร์ขนาดใหญ่ ผู้คนต่างค้นหาร่องรอยของต้นกำเนิดนี้ซึ่งนำไปสู่การค้นพบถ้ำที่ลึกจนเหมือนกับไม่มีที่สิ้นสุด และเริ่มรับรู้ว่าเสียงประหลาดที่ว่านั้นคือเสียงของหยดน้ำ ซึ่งก็คือคำว่า ‘Shizuku’ ในภาษาญี่ปุ่น โดยหยดน้ำนี้ไหลจากเพดานของถ้ำลงบนก้อนหิน หรือ ‘ishi’ และทำให้เกิดเสียงดังก้องกังวานสะท้อนไปในถ้ำ พื้นที่แห่งนี้ในปัจจุบันคือ Shizukuishi และนี่คือตำนานที่อยู่เบื้องหลังการตั้งชื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสลักสัญลักษณ์ลงบนหน้าปัดและบนชุดเข็ม โดยชุดเข็มได้รับการออกแบบโดยมีจุดอ้างอิงจากรูปทรงของหยดน้ำและหลักชั่วโมงก็มีรูปทรงที่เปรียบเสมือนกับก้อนหินที่หยดน้ำนั้นหล่นลงมากระทบและกระจายออก
ในทุกรายละเอียดของการสร้างสรรค์กรรมวิธีในการผลิตนาฬิการุ่นนี้ได้รับการจัดการอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะในเรื่องของการแกะสลักที่ถือว่าเป็นการทำงานที่จะต้องเปี่ยมด้วยความรักอย่างแท้จริง อาจารย์แห่งการแกะสลัก Kiyoshi Terui และทีมงานเล็กๆ ของเขาทำการแกะสลักทุกรายละเอียดที่อยู่บนหน้าปัดนาฬิการุ่นนี้ด้วยมือของพวกเขา ซึ่งงานของพวกเขาไม่ได้มีแค่ชุดเข็มและหลักชั่วโมงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชื่อของ Grand Seiko และสัญลักษณ์ดวงดาวที่อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาด้วย ทุกจังหวะของการลงเข็มสลักจะต้องมีความแม่นยำและเที่ยงตรงอย่างสูง ซึ่งถือเป็นงานต้องการความละเอียดอ่อนขั้นสูงสำหรับการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนนี้โดยเฉพาะกับแผ่นประกอบบนหน้าปัดที่หลักชั่วโมงจะต้องวางอยู่ และหลักสำหรับนาทีซึ่งจะต้องถูกแกะสลักด้วยเช่นกันแต่ทว่ามีลักษณะที่โค้งตามปลายของแผ่นหน้าปัด โดยชุดแผ่นประกอบบนหน้าปัดนี้และตัวหน้าปัดหลักใช้ทองคำขาว 18k เป็นวัสดุในการผลิต และการแกะสลักหน้าปัดของนาฬิกาแต่ละเรือนจะต้องใช้เวลานานหลายวันกับการสร้างสรรค์งานที่ต้องมีความละเอียดและใช้ทักษะสูงในการทำงาน
ขั้นตอนในการแกะสลักอาจจะดูแล้วเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อนแต่ทว่ามันเปี่ยมด้วยพลัง แนวเส้นตรงของการลงเข็มสลักถูกเน้นให้เห็นความชัดเจนของเวลา ซึ่งทำให้นาฬิกาเรือนนี้คือตัวตนจริงๆ แห่งความงามของ Grand Seiko ในขณะที่นาฬิกาทั้งหมดมีรูปทรงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์จาก Elegance Collection
สำหรับเรือนเวลาที่มีความพิเศษไม่เหมือนใครเรือนนี้จะจำหน่ายในแบบผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20 เรือนเท่านั้น และจะเริ่มจำหน่ายที่บูติกของ Grand Seiko ในเดือนกรกฎาคม 2020 เป็นต้นไป
ความงามแห่งธรรมชาติของ Shizukuishi คือแรงบันดาบใจในการสร้างสรรค์นาฬิกาไขลานเรือนที่ 2 ที่มาพร้อมกับหน้าปัดแกะสลัก