A. LANGE & SOHNE - 1815 Rattrapante

Rattrapante หรือฟังก์ชัน Split Seconds เป็นระบบการจับเวลาที่ถือเป็นอีกหนึ่งความสลับซับซ้อนสูงในการประดิษฐ์กลไกนาฬิกาก็ว่าได้ และสำหรับหนึ่งในผู้ผลิตเรือนเวลาที่มีชื่อเสียงจากการนำเสนอระบบจักรกลดังกล่าวคือ A. Lange & Söhne โดยเริ่มต้นการสร้างสรรค์จักรกลจับเวลาแยกเข็มเป็นครั้งแรกในปี 2014 จากคอลเลกชัน Double Split มากไปกว่านั้นในปี 2018 ทางแบรนด์ยังได้เผยโฉมเรือนเวลา Triple Split ที่แยกเข็มจับเวลาเป็น 3 เข็มอีกด้วย ล่าสุด A. Lange & Söhne เสริมเรือนเวลารุ่นใหม่ให้กับตระกูล 1815 ด้วยคอลเลกชัน 1815 Rattrapante ในเวอร์ชันตัวเรือนแพลทินัม สะท้อนความเชี่ยวชาญในสร้างสรรค์ระบบจักรกลจับเวลาระยะสั้นอันสลับซับซ้อนของเมซงได้เป็นอย่างดี

ระบบจับเวลาแยกเข็มวินาที 2 เข็มมีจุดประสงค์ในการผลิตเพื่อใช้ในการจับเวลาระยะสั้นที่มีจำนวนรอบมากกว่า 1 รอบ โดยเข็มวินาทีทั้ง 2 เข็มจัดวางอยู่บนแกนเข็มเดียวกัน ณ จุดศูนย์กลางของหน้าปัด เมื่อกดเริ่มต้นจับเวลาเข็มทั้ง 2 ก็จะเริ่มเดินหน้าจับเวลาไปเรื่อยๆ และเมื่อมีการกดหยุดการจับเวลา เข็มหนึ่งเข็มจะหยุดนิ่งเพื่อให้ผู้ใช้งานได้บันทึกเวลา ในขณะที่เข็มอีกเข็มหนึ่งจะยังเดินหน้าต่อไป เมื่อเสร็จสิ้นการบันทึกเวลา สามารถกดปุ่มเพื่อให้เข็มที่หยุดนิ่งกลับไปทำการจับเวลาพร้อมกับเข็มอีกเข็มหนึ่งได้ทันที จึงถือเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์ต่อการจับเวลารอบของการแข่งขันต่างๆ ทีมช่างประดิษฐ์กลไกของ A. Lange & Söhne ได้รังสรรค์กลไกจักรกลที่ทำงานในระบบ Chronograph Split Second โดยเฉพาะ ซึ่งก็คือ Cal. L101.2

กลไกชุดนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้การจับเวลาแยกเข็มดำเนินไปอย่างเที่ยงตรงแม่นยำซึ่งควบคุมโดยระบบ column wheel 2 ชุดด้วยกัน กลไก Cal. L101.2 ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นภายใต้หลังคาโรงงาน A. Lange & Söhne ในทุกขั้นตอน สามารถกักเก็บพลังงานด้วยการไขลานด้วยมือ โดยสามารถสะสมพลังงานได้สูงสุด 58 ชั่วโมง ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนกลไกทั้งหมด 365 ชิ้น ติดทับทิมกันสึก 36 ชิ้น นอกเหนือจากประสิทธิภาพความเที่ยงตรงแล้ว กลไกชุดนี้ยังได้รับการตกแต่งอย่างประณีตในทุกแง่มุม โดยสะพานจักรและแกนต่างๆ ได้รับการผลิตจากเยอรมันซิลเวอร์ โดยชิ้นส่วนของกลไกชั้นบนสุดซึ่งเป็นส่วนของการทำงานกลไกโครโนกราฟ rattrapante ได้รับการขัดแต่งเป็นลวดลายแนวขวาง ในขณะที่เหลี่ยมมุมสันต่างๆ ได้รับการตัดแต่งและขัดเงาให้เรียบเนียนและเป็นการเน้นให้เค้าโครงแลดูชัดเจนยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของเหล่าช่างฝีมือที่ต้องใช้ความอุตสาหะเพื่อรังสรรค์ชิ้นส่วนกลไกต่างๆ อันมีขนาดเล็กให้ได้ผลงานที่มีความละเอียดประณีตที่สุด

1815 Rattrapante ในตัวเรือนที่ผลิตขึ้นจากแพลทินัมนี้ มีขนาด 41.2 มิลลิเมตร หนา 12.6 มิลลิเมตร ติดตั้งกระจกหน้าปัดและฝาหลังตัวเรือนด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พื้นหน้าปัดรังสรรค์ในสีเงิน argenté แสดงรายละเอียดของสเกล Tachymeterรอบขอบหน้าปัด รวมถึงสเกลเวลาบนวงหน้าปัดย่อยในรูปแบบสเกลรางรถไฟ แสดงเวลาด้วยเข็มสีน้ำเงิน และเข็ม split second สีเงิน ประกอบเข้ากับสายหนังจระเข้สีดำตัดเย็บด้วยมือ รัดสายด้วยหัวเข็มขัดแพลทินัม ความหรูหราสะท้อนศาสตร์และศิลป์แห่งการผลิตเรือนเวลาเยอรมันคอลเลกชันนี้ผลิตขึ้นเพื่อให้เป็นเจ้าของเพียง 200 เรือนเท่านั้น พร้อมสลักขอบฝาหลังด้วยข้อความ “Limited xxx/200” ยืนยันถึงจำนวนการผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะวางจำหน่ายเฉพาะบูติก A. Lange & Söhne เท่านั้น