Last updated: 10 ก.พ. 2566 | 277 จำนวนผู้เข้าชม |
Audemars Piguet (โอเดอมาร์ ปิเกต์) แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เผยโฉมเรือนเวลารุ่นใหม่ Royal Oak “Jumbo” Extra-thin (Ref. 16202) ที่มาพร้อมหน้าปัดลายเกรนสุดลิมิเต็ด ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 7121 นวัตกรรมล่าสุดของกลไกแบบบางพิเศษที่เปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2022 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ Royal Oak เรียบหรูด้วยตัวเรือนและสายที่รังสรรค์จากไวท์โกลด์ ในขนาดหน้าปัด 39 มิลลิเมตร โดยวางจำหน่ายเฉพาะที่บูติกของ Audemars Piguet เท่านั้น
หน้าปัดลายเกรนดีไซน์ใหม่
เรือนเวลาร Royal Oak “Jumbo” Extra-thin ที่มาพร้อมหน้าปัดลายเกรนดีไซน์ใหม่นี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกา Royal Oak (Ref. 14802) ซึ่งเปิดตัวในปี 1992 รังสรรค์ด้วยแพลตทินัม ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของ Royal Oak โดยเรือนเวลารุ่นใหม่นี้ยังคงความงามอันเป็นเอกลักษแห่งคอลเลกชันไว้อย่างดีเยี่ยม
Audemars Piguet ได้พัฒนาพื้นผิวหน้าปัดลายเกรนให้มีความละเอียดเพื่อดึงดูดแสงซึ่งทำให้หน้าปัดดูสว่างขึ้น รับกับแสงที่ตกกระทบในมุมต่าง ๆ อีกทั้งยังเคลือบหน้าปัดสีน้ำเงินลายเกรนนี้ด้วยสารเรืองแสง PVD ขับเน้นความแวววาว ชวนให้นึกถึงท้องฟ้ายามค่ำคืนอันงดงามแห่งเลอ บราซูส์
Royal Oak “Jumbo” Extra-thin รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวเรือนและสายนาฬิกาไวท์โกลด์ซึ่งคอนทราสต์กับหน้าปัดลายเกรนสีน้ำเงินสร้างมิติความงามอย่างมีชั้นเชิง โดดเด่นด้วยเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาไวท์โกลด์เคลือบด้วยสารเรืองแสงช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนในความมืด พร้อมหน้าต่างแสดงวันที่ซึ่งมาในเฉดมิดไนท์ บลูแมตช์กับสีของหน้าปัดอย่างกลมกลืน ในส่วนของตัวเรือนนั้นตกแต่งด้วยเทคนิคการขัดลายพื้นผิวแบบต่างๆ ส่งเสริมให้ขอบตัวเรือนขัดลายซาตินและเข็มขัดล็อกสายนาฬิกาโดดเด่นยิ่งขึ้น
คาลิเบอร์เจเนอเรชันใหม่
Royal Oak “Jumbo” Extra-thin รุ่นใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 7121 ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของกลไกแบบบางพิเศษที่เปิดตัวในเดือนมกราคม ปี 2022 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ Royal Oak และถือเป็นจุดกำเนิดของคอลเลกชัน 16202 อีกด้วย
Audemars Piguet ใช้เวลาค้นคว้าและพัฒนาคาลิเบอร์ 7121 นานถึง 5 ปี จนได้เป็นกลไกอันยอดเยี่ยมที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงถึง 55 ชั่วโมง พร้อมแสดงเวลาชั่วโมง นาที วินาที และแสดงวันที่ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นผลลัพท์ของกลไกที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน ยังมาพร้อมกับกลไกเซตวันที่ซึ่งใช้พลังงานต่ำและมีความบางพิเศษที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
โดยคาลิเบอร์ 7121 มีความหนาเพียง 3.2 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงสามารถบรรจุลงในตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร ซึ่งมีความหนาเพียง 8.1 มิลลิเมตรได้อย่างกลมกลืน โดยตั้งความถี่ในการทำงานของชุดจักรกรอกไว้ที่ 4 Hz (28,800 ครั้ง/ชั่วโมง) ฝาหลังแซฟไฟร์จะเผยให้เห็นโรเตอร์จากพิ้งค์โกลด์ 18 กะรัต เรือนเวลาซึ่งขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 7121 นี้ยังคงสืบทอดการเทคนิคการตกแต่งนาฬิกาชั้นสูง (Haute Horlogerie) ทั้งเทคนิคการทำลวดลายวงโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) เทคนิคการขัดลายซาตินเป็นวงกลม การขัดลายก้นหอย เทคนิคเซอร์คิวลาร์ เกรนิง (Circular Graining) และการขัดเหลี่ยมมุม
“Born in Le Brassus, raised around the world.”
8 เม.ย 2567
24 เม.ย 2567
2 เม.ย 2567