BREGUET Classique Quantième Perpétuel 7327

Last updated: 19 พ.ค. 2566  |  422 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BREGUET Classique Quantième Perpétuel 7327

นอกเหนือจากการคิดค้นนวัตกรรมจักรกลทูร์บิญองขึ้นเป็นรายแรกแล้ว Abraham-Louis Breguet ยังมีผลงานนวัตกรรมอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญกับแวดวงการประดิษฐ์นาฬิกานั่นคือ กลไกการขึ้นลานอัตโนมัติ โดยในช่วงทศวรรษที่ 1780 Breguet ได้เผยโฉมเรือนเวลา Perpétuelle หรือนาฬิการะบบปฏิทินถาวรที่ประกอบด้วยตัวถ่วงน้ำหนักที่เคลื่อนไหวได้ตามการการขยับร่างกายของผู้สวมใส่ อันทำให้เกิดการขึ้นลานได้อัตโนมัตินั่นเอง ด้วยเรื่องราวความสำเร็จนี้ ทำให้ในปีนี้ Breguet ได้รังสรรค์ผลงานเรือนเวลาล่าสุด Classique Quantième Perpétuel 7327 (กองเตียม แปร์เปตูแอล) เรือนเวลาระบบปฏิทินถาวรในตัวเรือนวัสดุทองคำสองเฉดสี อันถือเป็นคอลเลกชันที่ Breguet สะท้อนถึงแก่นแท้ของตนเองในการผลิตนาฬิกา เพื่อการใช้งานได้ง่ายสำหรับผู้สวมใส่ ความใส่ใจในรายละเอียดอันพิถีพิถันต่างๆ

ในการรังสรรค์กลไกระบบปฏิทินถาวรนั้น มีความสลับซับซ้อนสูง โดยต้องคำนึงถึงความผันแปรต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรอบเดือน และรอบปีต่างๆ และเพื่อให้สามารถใช้งานระบบปฏิทินถาวรได้อย่างสมบูรณ์ จะต้องมีการคิดค้นระบบความจำให้กับกลไก เพื่อให้รองรับกับการใช้งานรอบปีอธิกสุรทินในรอบ 4 ปี หรือ 1,461 วันได้โดยมิต้องตั้งค่าใดๆ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากระบบเฟืองและชิ้นส่วนต่างๆ ของกลไกการทำงานที่ไม่น้อยกว่า 294 ชิ้น อีกหนึ่งความมุ่งหมายหลักของ Breguet คือ การนำเสนอนาฬิกาที่มีน้ำหนักเบาและสามารถสวมใส่บนข้อมือได้อย่างสบาย ทางแบรนด์จึงได้พัฒนากลไก Cal. 502 ที่เสริมระบบปฏิทินถาวร เกิดเป็นกลไกอัตโนมัติ Cal. 502.3.P อันมีความบางเพียง 4.5 มิลลิเมตร และถือเป็นกลไกที่บางที่สุดของแบรนด์ก็ว่าได้ โดยมีการปรับใช้เป็นโรเตอร์ขึ้นลานทองในแบบเยื้องศูนย์กลาง เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการวางระบบการทำงานอื่นๆ ได้โดยไม่เพิ่มความหนาให้กับกลไก

กลไก in-house อัตโนมัติ Cal. 502.3.P เครื่องนี้ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และสามารถสะสมพลังงานได้นาน 45 ชั่วโมง พร้อมด้วยบาลานซ์สปริงซิลิกอนที่มีความแบนราบ และระบบปล่อยจักรพร้อมด้วย silicon horns ซึ่งการใช้วัสดุซิลิกอนนั้นนอกจากจะมีผลในเรื่องของความทนทานต่อการสึกหรอแล้ว ยังมีผลในเรื่องของการต้านทานต่อแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็กส่งผลกระทบกับประสิทธิภาพความเที่ยงตรงของกลไกได้นั่นเอง ผู้สวมใส่สามารถชื่นชมการทำงานของกลไกเครื่องนี้ได้ผ่านฝาหลังกรุกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ เผยให้เห็นการหมุนเหวี่ยงของโรเตอร์ขึ้นลานทองคำ ที่ได้รับการสลักลวดลายบาร์เลย์คอร์นด้วยเครื่องบังคับมือ รวมถึงสะพานจักรที่ได้รับการตกแต่งในลวดลาย Côtes de Genève ไม่เพียงเท่านั้น ชิ้นส่วนกลไกอื่นๆ ต่างก็ได้รับการขัดแต่งลบเหลี่ยมมุมได้อย่างประณีตด้วยฝีมือของช่างผู้ชำนาญการของโรงงานด้วย

ในส่วนของพื้นหน้าปัด Breguet ใส่องค์ประกอบที่มีความร่วมสมัย ผ่านการตกแต่งพื้นหน้าปัดทองเคลือบสีเงินในลวดลายลายฮอบเนล Clous de Paris จัดวางส่วนแสดงปฏิทินถาวรต่างๆ ไว้ดังนี้ เริ่มที่บริเวณระหว่างตำแหน่ง 1 และ 2 นาฬิกา ปรากฎส่วนแสดงเวลาข้างขึ้นข้างแรมที่ตกแต่งได้อย่างสมจริง ด้วยการลงยาสีน้ำเงินสวยงาม ในส่วนของการแสดงวัน วันที และปี จะจัดวางไว้บนพื้นที่ช่วงครึ่งล่างของพื้นหน้าปัด ส่วนบริเวณระหว่างตำแหน่ง 9 และ 12 นาฬิกา จัดวางส่วนแสดงเดือนในรูปแบบของเข็มเรโทรเกรด โดยเข็มนาฬิกาทุกค่าบนหน้าปัดนั้นจะเป็นเข็มแบบ Blue Steel ทั้งหมด

Breguet Classique Quantième Perpétuel 7327 รังสรรค์ขึ้นในตัวเรือน 2 รูปแบบ คือตัวเรือนไวท์โกลด์ 18K และ ตัวเรือนโรสโกลด์ 18K โดยทั้ง 2 รูปแบบมีขนาดตัวเรือนที่ 39.0 มิลลิเมตร หนา 9.13 มิลลิเมตร กันน้ำได้ลึก 30 เมตร โดยสวมใส่คู่กับสายหนังจระเข้โทนสีน้ำเงินหรือสีน้ำตาล พร้อมที่พับล็อกสาย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้