SHH Pendulum บูติกคอนเซ็ปต์ใหม่ ณ สยามพารากอน

Pendulum (เพนดูลัม) ในเครือ Sincere Group ดำเนินธุรกิจด้านบูติกนาฬิกาแบรนด์อิสระชั้นนำระดับโลกในชื่อ Sincere Haute Horlogerie - SHH เปิดตัวบูติก SHH Pendulum คอนเซ็ปต์ใหม่ แห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นำเสนอประสบการณ์เสมือนเข้าชมงานศิลป์แห่งเรือนเวลาอันล้ำค่า ณ สยามพารากอน ศูนย์การค้าสุดหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร

SHH Pendulum บูติกแห่งใหม่นี้ นับเป็นการสานต่อคอนเซ็ปต์ธุรกิจร้านค้าปลีกนาฬิกาของ Sincere Fine Watches ซึ่งได้เผยโฉมบูติกคอนเซ็ปต์ใหม่นี้เป็นครั้งแรก ณ มารีนา เบย์ แซนด์ส ประเทศสิงคโปร์ในปีที่ผ่านมา โดยรังสรรค์มาเพื่อยกระดับประสบการณ์ของบูติกนาฬิการะดับไฮเอนด์ อีกทั้งยังแนะนำองค์ประกอบใหม่ๆ เพื่อมอบความเพลิดเพลินผ่านทางสายตา สัมผัส ตลอดจนอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้า ด้วยการตอบรับอย่างอบอุ่นจากการเปิดตัวบูติกในประเทศสิงคโปร์ ทั้งจากแบรนด์นาฬิกา เหล่าลูกค้าคนสำคัญ รวมถึงสื่อมวลชน SHH จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อประสบการณ์เหนือระดับสู่ภูมิภาค ด้วยการเปิดตัวบูติก SHH Pendulum แห่งแรกในประเทศไทย และเป็นแห่งที่สองในเอเชีย

SHH Pendulum – ผลงานดีไซน์สุดล้ำที่มาพร้อมวิสัยทัศน์ใหม่
เรือนเวลาระดับสุดยอดของโลกเปรียบได้ดั่งผลงานศิลปะ ที่รังสรรค์ด้วยความเที่ยงตรงแม่นยำ รวมถึงความชำนาญในงานประณีตศิลป์ชั้นสูง เฉกเช่นเดียวกับบรรยากาศภายในบูติกที่ให้ความรู้สึกเสมือนเข้าชมงานศิลป์แห่งเวลาที่จัดแสดงในบูติกคอนเซ็ปต์ใหม่ ออกแบบให้เป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับการชื่นชมเรือนเวลาชั้นเลิศ ทั้งยังมอบความมั่นใจในการเลือกซื้อนาฬิกาโดยผู้เชี่ยวชาญ

หลากเฉดสีคอปเปอร์แนวเอิร์ธโทนสะท้อนความอบอุ่น คือธีมสีหลักที่สร้างความโดดเด่นให้กับงานออกแบบภายในคุมโทนอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุพื้นผิวเงาสะท้อนซึ่งทอดยาวครอบคลุมพื้นที่เพดาน ทั้งหมดล้วนก่อให้เกิดความรู้สึกของการต้อนรับอย่างอบอุ่นและสร้างแรงดึงดูดผ่านภาพที่ทับซ้อนหลายชั้น องค์ประกอบทั้งหมดรังสรรค์เป็นบรรยากาศที่หรูหรามีระดับ ทว่าเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา

พื้นที่ใช้สอยโดยรวมแบ่งออกเป็นสามส่วน เริ่มจากทางเข้าหลักจะพบกับตู้จัดแสดงแบบไอส์แลนด์ขนาดใหญ่ใจกลางบูติก ซึ่งเป็นไฮไลต์แรก สำหรับจัดแสดงเรือนเวลาชิ้นพิเศษจากแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟ สามารถอวดความงดงามของรูปทรงและวัสดุผ่านพื้นที่จัดแสดงอันโอ่อ่า ช่วยเสริมความโดดเด่นและสร้างความเข้าใจในเรือนเวลาให้มากยิ่งขึ้น

เมื่อเข้ามายังพื้นที่ห้องที่สอง ทางด้านซ้ายจะพบกับห้าแท่นโพเดียมติดผนังลักษณะคล้ายแคปซูล มาพร้อมการนำเสนอเรือนเวลาอันล้ำค่าที่คัดสรรมาเป็นพิเศษซึ่งจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดแสดง ด้านขวาจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นหกส่วน เพื่อนำเสนอแบรนด์ดังที่มาพร้อมคอลเล็คชั่นหลากหลาย โดยแต่ละจุดครบครันด้วยแผงควบคุมดิจิทัลแบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งลูกค้าที่มาเยี่ยมชมบูติกสามารถอ่านรายละเอียดและศึกษาข้อมูลได้อย่างง่ายดาย

ห้องรับรองส่วนตัวถูกผนวกรวมเป็นพื้นที่อันโดดเด่นและมีความสำคัญกับบูติกคอนเซ็ปต์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์การเลือกซื้อเรือนเวลาชั้นสูงของลูกค้าที่ใส่ใจในรายละเอียดและต้องการพิจารณาเรือนเวลาอย่างใกล้ชิด

โดยลูกค้าและเหล่านักสะสมสามารถใช้สถานที่แห่งนี้เป็นห้องรับรองส่วนตัว สำหรับชื่นชมเรือนเวลาที่คัดสรรมาพิเศษในบรรยากาศผ่อนคลายสะดวกสบายด้วยไวน์บาร์ให้บริการเครื่องดื่มนานาชนิด นอกจากนั้นลูกค้ายังสามารถใช้ห้องรับรองส่วนตัวนี้เป็นพื้นที่สังสรรค์อย่างใกล้ชิด หรือใช้เป็นสถานที่พบปะตัวแทนจากแบรนด์นาฬิกาและสื่อมวลชน ถือเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่สำหรับเหล่านักสะสมนาฬิกาได้สร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความหลงใหลในเรือนเวลาร่วมกัน

บทใหม่ที่เริ่มต้นจากการเดินทางอย่างต่อเนื่อง – จุดกำเนิดของ SHH
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2548 ในประเทศสิงคโปร์ SHH มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้นำในวงการแบรนด์นาฬิกาอิสระ พร้อมเป็นสถานที่เพื่อให้เหล่านักสะสมสามารถสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวไปพร้อมกับแบรนด์นาฬิกาล้ำค่าหายากอย่างใกล้ชิด

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วงการผู้ผลิตนาฬิกาอิสระมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากครั้งหนึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักสะสมนาฬิกาในสัดส่วนไม่มาก ทว่าปัจจุบันได้กลายมาเป็นผู้นำในระดับแถวหน้าของวงการ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดมาจากความพยายามของร้านค้าปลีกนาฬิกาอย่าง SHH ที่ไม่ได้เป็นเพียงเป็นผู้นำในวงการผู้ผลิตนาฬิกาอิสระ แต่ยังทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้ทั้งรายละเอียดเชิงลึกในทุกด้านที่เกี่ยวกับเรือนเวลาอิสระอีกด้วย จากการเพิ่มจำนวนของเหล่านักสะสมนาฬิกาผู้มีระดับในภูมิภาคเอเชีย ความต้องการเข้าถึงประสบการณ์ในเชิงลึกกับแบรนด์นาฬิกาอิสระจึงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นตามมา การขยายเปิดตัวบูติกคอนเซ็ปต์รูปใหม่นี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ SHH พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ที่ดีอย่างแท้จริง ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่เน้นคุณภาพผ่านประสบการณ์การเลือกซื้อเรือนเวลาอันทรงคุณค่าสำหรับเหล่านักสะสมนาฬิกา

พันธกิจในการยกระดับการเรียนรู้ศาสตร์ของการผลิตนาฬิกา รวมถึงความซาบซึ้งในคุณค่าของเรือนเวลายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านการรังสรรค์อีเวนท์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อให้เหล่านักสะสมได้มีโอกาสพิเศษในการพบปะและสร้างปฏิสัมพันธ์กับช่างผลิตนาฬิกาผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดัง ในเรื่องกลไกอันซับซ้อน และประวัติศาสตร์ของการผลิตนาฬิกา รวมไปถึงการจัดกิจกรรมช่วงเวลาพิเศษเพื่อเสริมประสบการณ์เรียนรู้ที่เกี่ยวกับการผลิตนาฬิกา การตกแต่งกลไก และศิลปะจากช่างชั้นครู (métiers d'art) ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยเน้นย้ำให้นักสะสมนาฬิกาทั้งหน้าใหม่และผู้มีประสบการณ์ ได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างปรัชญาของแบรนด์นาฬิกาอิสระและแบรนด์ยอดนิยมทั่วไป พร้อมเปิดโอกาสให้ได้ซึมซาบความประทับใจในความพยายามอุตสาหะ เพื่อรังสรรค์เป็นวัตถุอันงดงามที่ในมุมหนึ่งต้องอาศัยศาสตร์การผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม และอีกมุมหนึ่งคือการสร้างสรรค์เพื่ออนาคต

นอกเหนือจากนั้น ความสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างแบรนด์นาฬิกาชั้นเลิศและบูติกหรูหราคอนเซ็ปต์ใหม่อย่าง SHH Pendulum ยังเปรียบเสมือนแพลตฟอร์มอันยอดเยี่ยมสำหรับการสรรค์สร้างเรือนเวลารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยลูกค้าของ SHH ที่ต้องการความพิเศษและแตกต่างจากรุ่นปกติ สามารถสั่งผลิตและร่วมออกแบบเรือนเวลากับแบรนด์ชั้นนำได้

มร. ออง บัน (Mr. Ong Ban) ประธานกรรมการบริหาร ซินเซีย ไฟน์ วอทช์ กล่าวว่า “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านนาฬิกาเรามีความเข้าใจในศิลปะการผลิตเรือนเวลาชั้นสูงเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นรากฐานฝังแน่นของเรา ในโอกาสนี้ เราจึงมีความยินดีที่จะนำเสนอคอนเซ็ปต์ของ SHH ให้กับเหล่านักสะสมนาฬิกา เพื่อแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานระดับสูงสุดที่ร้านค้าปลีกนาฬิกาสมควรเป็น ซึ่งนั่นคือเป้าหมายของเรามาโดยตลอด และจากการเปิดตัวบูติกด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ที่กรุงเทพมหานคร เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์ความเพลิดเพลินเหนือระดับให้กับนักสะสมนาฬิกาชาวไทยผู้เปี่ยมรสนิยม ด้วยผลงานหัตถศิลป์จากความมุ่งมั่นตั้งใจ ตลอดจนถึงความคิดสร้างสรรค์ในโลกของการผลิตนาฬิกาอิสระ”

มร. อันโตนิโอ คาลเซ่ (Mr. Antonio Calce) CEO, Executive Board Member และ Shareholder ของ Greubel Forsey กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสการเปิดบูติก SHH Pendulum ว่า “ในฐานะการเป็นพันธมิตรกับ ซินเซีย ไฟน์ วอทช์ (Sincere Fine Watches) ที่มีมาอย่างยาวนาน เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าบูติกคอนเซ็ปต์ใหม่ของ SHH Pendulum ณ สยามพารากอน จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเหล่านักสะสมนาฬิกาในประเทศไทย ซึ่งเป็นนักสะสมนาฬิกาผู้มีระดับ เราเชื่อมั่นว่าบูติกแห่งใหม่นี้จะกลายเป็นสถานที่สำหรับผู้ชื่นชอบเรือนเวลาได้สามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์พิเศษอย่างเต็มรูปแบบ เราขออวยพรให้ Sincere Fine Watches ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการเดินทางสู่ก้าวครั้งสำคัญต่อไป และครองฐานะผู้นำธุรกิจรีเทลด้านนาฬิการะดับไฮเอนด์ในภูมิภาคเอเชีย”

มร. โลรองต์ เฟอร์ริเยร์ (Mr. Laurent Ferrier) ผู้ก่อตั้ง Laurent Ferrier กล่าวถึงการเปิดตัวบูติก SHH Pendulum ว่า “Laurent Ferrier รู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับการร่วมพันธมิตรใหม่ในการเปิดตัวบูติก SHH Pendulum ที่กรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นโอกาสพิเศษในการจัดแสดงเรือนเวลาอันงดงามของเราท่ามกลางบรรยากาศอันยอดเยี่ยม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรังสรรค์เรือนเวลาด้วยคุณภาพในระดับสูงสุด โดยเล็งเห็นว่ากลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านนาฬิกา มีความเข้าใจและซาบซึ้ง ถึงคุณค่าผลงานการสร้างสรรค์ของเรา จึงนับเป็นความยินดีอย่างยิ่งที่เราได้มีโอกาสร่วมมือกับบูติก SHH Pendulum ในการนำเสนอเรือนเวลาสุดพิเศษของเราสู่ตลาดนาฬิกาเปี่ยมด้วยรสนิยม”

ค้นพบ 18 แบรนด์นาฬิกาอิสระ
SHH Pendulum บรรจงคัดสรรเหล่าแบรนด์เรือนเวลานี้จากคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัว และความโดดเด่นในผลงานประณีตศิลป์ โดยนาฬิกาทั้ง 18 แบรนด์ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวบูติกใหม่ SHH Pendulum ประกอบด้วย Angelus, Armin Strom, Arnold & Son, Christiaan van der Klaauw, Blancpain, Breguet, Credor, Cvstos, Czapek, Ferdinand Berthoud, Greubel Forsey, Grönefeld, H. Moser & Cie., Jacob & Co., Lang & Heyne, Laurent Ferrier, Louis Moinet และ Moritz Grossmann SHH Pendulum พร้อมเปิดตัว 18 แบรนด์เรือนเวลาอิสระ และร่วมค้นพบเรือนเวลาอันล้ำค่าจากแบรนด์อื่นๆ ในอนาคต แห่งโลกของการผลิตนาฬิกาอิสระที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง

เรือนเวลารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น สุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นในโอกาสเปิดบูติกใหม่ของ SHH
พบกับสามเรือนเวลา SHH Edition สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ ในโอกาสเปิดตัวอย่างเป็นทางการของบูติก SHH Pendulum

เรือนเวลาเรือนแรก โดย Christiaan van der Klaauw รุ่น CVDK Planetarium Eise Eisinga Black DLC SHH Edition ซึ่งชนะเลิศรางวัล The Grand Prix d’Horlogerie de Genève (GPHG) รังสรรค์ขึ้นเพียง 8 เรือน ตัวเรือนสเตนเลส สตีล รมดำด้วยเทคนิค DLC

เรือนต่อมา เป็นการร่วมมือระหว่าง Lang & Heyne และ SHH สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับ Georg SHH Edition II มีเพียง 12 เรือน มาพร้อมแผ่นเพลทสีเงินเคลือบตกแต่งผิวคล้ายเกล็ดน้ำแข็งสีเบอร์กันดี

และเรือนสุดท้าย โดย Cvstos รุ่น Metropolitan PS Skeleton Sapphire SHH Edition ซึ่งสร้างสรรค์เพียง 12 เรือน มาพร้อมตัวเรือนแซฟไฟร์โปร่งใส เพื่อให้สามารถชื่นชมเรือนเวลาได้จากทุกองศา