Last updated: 6 ต.ค. 2566 | 1016 จำนวนผู้เข้าชม |
เป็นเวลานานกว่า 50 ปีที่ นาฬิกาโครโนกราฟตระกูล Monaco นับเป็นนาฬิกาสำหรับนักขับชั้นเลิศ โดยตอนนี้ TAG Heuer ได้เผยโฉมนาฬิการุ่น Monaco Chronograph Night Driver รุ่น Limited Edition เพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการแข่งรถในคอลเล็กชั่นนี้กับสไตล์โมเดิร์นและนวัตกรรมใหม่ รวมไปถึง สีน้ำเงิน เฉด Monaco Blue ระดับตำนานและรวบยอดความน่าทึ่งของการขับรถสปอร์ตบนถนนที่เปิดโล่งในเวลากลางคืน เสริมด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคใหม่ของ TAG Heuer นั่นคือ หน้าปัดเรืองแสงเต็มพิกัดเพื่อให้อ่านเวลาได้ชัดยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ชื่นชอบความรู้สึกอันหนักแน่นของท้องถนนและรถยนต์ ตลอดจนมุ่งเฟ้นหาขีดจำกัดของความสามารถตนเองจะต้องหลงใหลไปกับนาฬิกา Limited Edition ใหม่ของรุ่น Monaco chronograph อย่าง TAG Heuer Monaco Chronograph Night Driver รุ่นล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีหน้าปัดไอคอนิกของนาฬิกาตระกูล Monaco รุ่นวินเทจไม่ว่าจะเป็นสี midnight blue, charcoal grey และ matte black โดยนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้ใช้วัสดุตอบโจทย์ยุคสมัยเพื่อสร้างองค์ประกอบที่จะเสริมประสบการณ์และประสิทธิภาพของเหล่านักขับบนท้องถนน โดยเฉพาะในยามค่ำคืน
โลดแล่นในยามราตรี - ท้องถนน รถยนต์ และ นาฬิกา
ในบางครั้ง การขับรถเวลากลางคืนก็เป็นเรื่องน่าหลงใหลที่ปราศจากสิ่งเร้ารบกวนข้างทางพร้อมท้องฟ้ากระจ่างใสที่เหลือเพียงผู้ขับกับความรู้สึกภายในตัวรถและท้องถนนเท่านั้น โดยผู้ขับรถจะเชื่อมความรู้สึกถึงความเป็นรถยนต์และถนนได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเหนือกว่าช่วงเวลากลางวัน อีกทั้งยังสัมผัสถึงพลังและการเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่ขับผ่านฝ่ามือ เท้า และส่วนหลัง โดยทุกความต่างของเส้นทางและตัวรถจะสามารถรับรู้ได้ผ่านทั้งทางความรู้สึกและร่างกายจากความโล่งเปล่า เมื่ออยู่ได้ลำพังในรถและบนถนน ราวกับทั้งโลกได้ถูกชำระล้าง ไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอกทั้งแสง เสียง และสัมผัสอื่น ๆ ที่จะรู้สึกไปถึงผู้ขับ จะมีเพียงแต่ความรู้สึกอันหนักแน่นที่เกิดขึ้นล่าสุดเท่านั้น
เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ขับยังต้องพึ่งสายตาและองค์ประกอบต่าง ๆ ในการรับรู้ที่สำคัญกว่าที่เคยเป็น โดยแผงหน้าปัดรถจะส่องแสงสว่างตลอดทั้งคืน เพื่อระบุความเร็วของรถและตรวจสอบสภาวะกลไกที่สำคัญ (ทั้งอุณหภูมิและความดันเครื่อง) และอีกหนึ่งองค์ประกอบที่จำเป็นในที่มืดโดยเฉพาะ - นั่นก็คิอ นาฬิกาโครโนกราฟสำหรับผู้ขับขี่ ซึ่งสามารถจับเวลาได้อย่างทันท่วงที ในขณะเดียวกันก็สามารถจับเวลาของรอบ ช่วงเวลา หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ เปรียบเสมือนกับแผงหน้าปัดรถยนต์ในเวลากลางคืน ความสามารถในอ่านที่ชัดเจนถือเป็นสิ่งสำคัญในการมอบข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ขับขี่ได้ทันท่วงที
TAG Heuer Monaco Chronograph Night Driver Limited Edition
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1969 TAG Heuer Monaco ก็ได้เป็นสุดยอดโครโนกราฟสำหรับนักแข่ง และในวันนี้ TAG Heuer ขอแนะนำนาฬิการุ่น Monaco Chronograph Night Driver รุ่น Limited Edition ที่เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการขับขี่ในความมืดมิดท่ามกลางยามค่ำคืน โดยนาฬิกาตระกูล Monaco รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ใช้โครงสร้างหน้าปัดจำนวนสองชิ้น เรียกว่า “circle in the square” นั่นเอง ซึ่งเป็นหน้าปัดที่มีดีเทลวงกลมอยู่ระหว่างตัวเรือนสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถอ่านเวลาได้ทันที ในตอนกลางคืน ซึ่ง “วงกลม” สีเทาเข้มที่อยู่ตรงกลางหน้าปัดได้ตัดกันกับการเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีฟ้าสดใสของเข็มชั่วโมง นาที และวินาทีแบบโครโนกราฟอย่างสุดขีด รวมไปถึง จุดต่าง ๆ ที่ความสว่างในการแสดงเวลาชั่วโมง หรือแม้แต่ส่วนของ hash-marks ที่ใช้ระบุนาที/วินาทีก็ยังเรืองแสงอย่างสว่างจ้าทำให้ผู้ขับขี่สามารถอ่านหน้าปัดได้อย่างแม่นยำ
ส่วนวงหน้าปัดย่อย “สี่เหลี่ยม” ของนาฬิการุ่น Monaco Night Driver ยังได้เปลี่ยนความเป็นโครโนกราฟรูปแบบใหม่ให้กลายเป็นส่วนเสริมของนักขับอย่างไร้ที่ติ พร้อมกับมอบรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่แต่เข้ากันสองรูปแบบเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ทั้งในความมืดและความสว่าง เมื่อกลางวันเปลี่ยนเป็นกลางคืน ภายนอกหน้าปัดจะเปลี่ยนสีจากสีเทาอ่อนโทนเย็นกลายเป็นสีฟ้าสดใสเรืองแสง ที่มาพร้อมหลักเวลาชั่วโมงเคลือบด้วยแล็คเกอร์สีดำ โดยหน้าปัดโครโนกราฟจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเรืองแสงแบบเดียวกันที่สร้างความตัดกันอย่างชัดเจนด้วยเครื่องหมายบอกนาทีและชั่วโมงและเข็มนาฬิกามุมหน้าปัดย่อยโครโนกราฟบอกนาทีและชั่วโมงสีดำ
หน้าปัดเรืองแสงจัดเต็มรุ่นนี้ถือเป็นความสำเร็จด้านเทคนิคอย่างแท้จริงของ TAG Heuer พร้อมเสริมความสามารถในการอ่านเวลาบนท้องถนนได้ยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการบรรจุความสามารถของสารเรืองแสง Super-LumiNova® ทำให้ตัวนาฬิกาสามารถแผ่ขยายความสว่างทั่วพื้นผิวและช่วยให้หน้าปัดยังคงมองเห็นได้ชัดเจนในที่มืดเป็นเวลา 3 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็มแล้ว
นาฬิการุ่น Monaco Chronograph Night Driver Limited Edition ยังชวนให้นึกถึงนาฬิกาโครโนกราฟ Monaco ในตำนานจากผลงานอันเป็นมรดกของ TAG Heuer จากหน้าปัดของนาฬิกาโครโนกราฟ Monaco เรือนแรกปี 1969 ซึ่งสวมใส่โดย Steve McQueen ในภาพยนตร์เรื่อง Le Mans มีชื่อว่า “Midnight Blue” ซึ่งตอนนี้ เป็นเวลากว่า 50 ปีต่อมา ทาง TAG Heuer ได้ใช้วัสดุที่ทันสมัยเพื่อสะท้อนสีน้ำเงินเข้มของท้องฟ้ายามค่ำคืน อีกทั้ง นาฬิกาโครโนกราฟ Monaco แบบวินเทจ รุ่นอื่น ๆ ก็ได้ใช้ "charcoal grey" สำหรับหน้าปัดที่ตัดกับแถบสีที่เข้มกว่าด้วยกัน ซึ่งพาเลทสีนี้จะสามารถพบเห็นได้ในเวลากลางวัน
การอ่านค่าได้ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนาฬิกาโครโนกราฟ แต่การควบคุมรถยนต์ท่ามกลางค่ำคืนต้องอาศัยคุณสมบัติอีกอย่าง คือ – ความทนทาน เช่นเดียวกับที่นาฬิกา Monaco Chronograph Night Driver รุ่นใหม่ที่ใช้วัสดุทันสมัยเพื่อสร้างอุปกรณ์สำหรับผู้ที่แข่งขันกับความเร็วอย่างสมบูรณ์แบบ ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมเกรด 5 เคลือบด้วยวัสดุ DLC (diamond-like carbon) สีดำ โดยนาฬิกามีน้ำหนักเบาทำให้สวมใส่สบายตลอดหลายชั่วโมง การเคลือบ DLC ของตัวเรือนทำให้ทนทานต่อการใช้งานตามที่ความุ่งหมายที่จะเป็นตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบของนักแข่ง และมีองค์ประกอบพร้อมรับใช้งานบ่อยสำหรับนาฬิกาโครโนกราฟ ไม่ว่าจะเป็น – ปุ่มกดและเม็ดมะยม – แถมด้วยการเคลือบสีดำแบบเดียวกันเข้าคู่
โดยนาฬิกา TAG Heuer แต่ละเรือน ยังคงสานต่อเอกลักษณ์ที่ยึดมั่นมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านความแข็งแกร่ง ความแม่นยำ และคุณภาพ นี่คือเหตุผลว่าทำไมไทเทเนียมเกรด 5 จึงถูกใช้สำหรับนาฬิการุ่น Night Driver ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสำหรับนาฬิกาโครโนกราฟตระกูล Monaco ซึ่งวัสดุนี้จะให้ความแข็งแกร่งและความทนทานโดยผสมผสานระหว่างการปัดและขัดเงาอย่างประณีต ผนวกกับความเชี่ยวชาญของ TAG Heuer เสริมด้วยรูปลักษณ์ของนาฬิกาโครโนกราฟเรือนนี้ที่ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์
กลไก in-house Heuer 02 ของ TAG Heuer ที่ขับเคลื่อนนาฬิการุ่น Monaco Chronograph Night Driver ไม่เพียงแค่เป็นส่วนประกอบใหม่สำหรับความทนทานเท่านั้น กลไก Heuer 02 ยังได้ใช้จักรแบบดั้งเดิมที่สามารถวางใจได้ว่าจะขับเคลื่อนโครโนกราฟได้อย่างแม่นยำแน่นอน พร้อมทั้ง สามารถสำรองพลังงาน ถึง 80 ชั่วโมงที่จะยังทำให้นาฬิการุ่น Night Driver ยังคงทำงานตลอดช่วงสุดสัปดาห์ของการแข่งขันความเร็ว ฝาหลังแซฟไฟร์พิมพ์สีฟ้าลงบนจานเหวี่ยงดำ เช่นเดียวกับเฟืองจักรในระบบคอลัมน์วีลสีฟ้าซึ่งได้ขยายพื้นที่พาเลทสีนี้ นอกเหนือจากหน้าปัดของนาฬิกาโครโนกราฟ
นอกจากนี้ นาฬิการุ่น Monaco Chronograph Night Driver Limited Edition ประกอบด้วยสายหนังลูกวัวเจาะรูขนาดใหญ่และเล็กสลับกัน และเย็บขอบสีขาวสว่างตามสายนาฬิกา ชวนให้นึกถึงนาฬิกาจับเวลาของ Heuer Racing ในยุคปี 1960 จนถึง 70
TAG Heuer รุ่น Monaco Chronograph Night Driver Limited Edition บรรจุในกล่องนาฬิกาที่ใส่ความทุ่มเทลงไป ชวนให้นึกถึงมรดกแห่งการแข่งรถตามฉบับคอลเล็กชั่น Monaco "nomad" ที่ใส่มากับการดำเนินเรื่องราวเหล่านี้ นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นทั้ง 600 เรือนจะประดับลวดลายเฉพาะตัว พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่บูติก TAG Heuer สาขาสยามพารากอนในจำนวนจำกัดและสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official Account : @TAGHeuerTH
เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดย Edouard Heuer (เอดูอารค์ ฮอยเออร์) ในเทือกเขาฌูรา (Jura Mountains) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มสินค้าหรูหราชั้นนำระดับโลก TAG Heuer มีฐานการผลิตอยู่ทีเมือง La Chaux-de-Fonds (ลาโช-เดอ-ฟง) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีฐานการผลิตทั้งหมด 4 แห่ง มีพนักงานจำนวน 1,860 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer มีจำหน่ายทางออนไลน์ที่ www.tagheuer.com สำหรับบางประเทศ และผ่านทางบูติกที่มีอยู่ 260 บูติก และจุดจำหน่าย 2,300 แห่งทั่วโลก นำโดย Frédéric Arnault (เฟรเดริก อาร์โนลต์) – CEO ของ TAG Heuer
ตลอดระยะเวลา 163 ปีของ TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการผลิตนาฬิกาไสตล์อวังกาศอย่างแท้จริง และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งรวมถึงเฟืองแกว่ง (oscillating pinion) ในนาฬิกากลไกระบบจับเวลาในปี 1887 นาฬิกา Mikrograph (ไมโครกราฟX ในปี 1916 กลไกจับเวลาโครโนกราฟอัตโนมัติชุดแรกของโลก คาลิเบอร์ 11 ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1969 และนาฬิกาสมาร์ทวอชท์สุดหรูเรือนแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชั่นหลักของแบรนด์ประกอบด้วย 3 ตระกูลระดับไอคอนที่ออกแบบโดย Jack Heuer (แจ็ค ฮอยเออร์) ประกอบด้วย TAG Heuer Carrera Monaco และ Autavia และนาฬิกาสไตล์ร่วมสมัยในคอลเลกชั่น TAG Heuer Link, Aquaracer, Formula 1 และ Connected ตามคำขวัญของ TAG Heuer ที่ว่า “Don’t Crack Under Pressure” (ไม่หวั่นไหว แม้อยู่ภายใต้แรงกดดัน) ทั้งพันธมิตรและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ที่โดดเด่นล้วนแสดงออกถึงความหลงใหลในกิจกรรมและมีความสามารถสูง
29 ก.ย. 2567
29 ก.ย. 2567
29 ก.ย. 2567