MIDO Multifort TV Big Date

Last updated: 23 ม.ค. 2567  |  1813 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MIDO Multifort TV Big Date

ผสมผสานสไตล์ความคลาสสิกแห่งยุค 70s เข้ากับความโก้หรูและทันสมัย ถ่ายทอดสู่เรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นใหม่ที่พร้อมให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้ยลโฉมพร้อมกัน ล่าสุด “มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ ในเครือ เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง(ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัวเรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นระดับตำนาน “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) ในรูปลักษณ์ใหม่ประจำปี 2023 ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนรูปทรงทีวีสุดคลาสสิก ซึ่งสะท้อนสไตล์ไอคอนิกสุดฮิตประจำยุค 70s

“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน

สำหรับคอลเลกชั่น “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) รูปโฉมประจำปี 2023 นั้นได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่างรูปทรงทีวีที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ถูกนำมาดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยตัวเรือนรุ่นไฮไลท์มาในดีไซน์สแตนเลสสตีลหน้าปัดรูปทรงทีวี พร้อมกับการตกแต่งหน้าปัดโดยการขัดซาตินแนวนอน เพิ่มความโดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีจากสีน้ำเงินไปจนเป็นสีดำเพิ่มมิติความสวยงามยามสะท้อนแสง เพิ่มความพิเศษด้วยช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ตามแบบฉบับรุ่นบิ๊ก เดท (Big Date) ตรงบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา อีกทั้งเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทียังได้รับการเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) สีขาว ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านค่าในที่แสงน้อย ที่มาพร้อมสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิกเพื่อความแข็งแรงทนทาน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงนิวาครอง (Nivachron™) ซึ่งทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสนามแม่เหล็กได้อย่างดีเยี่ยม ครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดที่ผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อความทนทาน อีกทั้งยังเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นกลไกการทำงานผ่านกระจกด้านหลังตัวเรือนซึ่งเผยให้เห็นชิ้นงานโรเตอร์ขึ้นลานที่ตกแต่งด้วยลวดลายโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (‘Côtes de Genève’) พร้อมสลักโลโก้ ‘มิโด’ (MIDO) เอาไว้อย่างงดงาม โดยตัวเรือนมีความสามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร

นอกจากนี้ยังเปิดตัวมาพร้อมกับอีก 4 ดีไซน์ที่ผู้สวมใส่สามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล ที่มาพร้อมหน้าปัดโทนสีเขียวไล่เฉดสี (Green Gradient) สำหรับคนที่ต้องการความคลาสสิกและโดดเด่นได้ในขณะเดียวกัน ถัดมาที่ตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีดำไล่เฉดสี (Black Gradient) เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเรียบโก้ รวมถึงตัวเรือนสแตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีน้ำเงินไล่เฉดสี (Blue Gradient) จับคู่มากับสายนาฬิกายางสีกรมสุดโดดเด่น ปิดท้ายที่ตัวเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดโทนสีดำไล่เฉดสี (Black Gradient) ที่มาพร้อมสายนาฬิกายางสีส้มซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ของ “มิโด” (MIDO) ซึ่งสามารถเติมเต็มลุคสไตล์สปอร์ตได้เป็นอย่างดี

ร่วมสร้างสรรค์สไตล์อันโดดเด่นผ่านเรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นคลาสสิก “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่ เว็บไซต์ www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้