Last updated: 8 เม.ย 2567 | 1039 จำนวนผู้เข้าชม |
Longines (ลองจินส์) แนะนำไลน์ HydroConquest GMT เสริมทัพด้วยโมเดลใหม่ พร้อมตัวเรือนขนาด 43 มม. กันน้ำได้ที่ระดับ 30 บาร์ (300 เมตร) โดดเด่นด้วยความแข็งแรงทนทาน ตกแต่งขอบตัวเรือนเซรามิกหมุนได้ทิศทางเดียว พร้อมด้วยเม็ดมะยมและฝาหลังขันเกลียว โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโลกของกีฬาทางน้ำ และเช่นเดียวกับรุ่น 41 มม. ที่เปิดตัวในปี 2023 Hydroconquest GMT รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับกลไกเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะของลองจินส์ที่สามารถแสดงเวลาได้หลายไทม์โซน และมีตัวเลือกของสีสันและวัสดุที่หลากหลาย
HydroConquest ผสมผสานประสิทธิภาพและสไตล์ไว้ได้อย่างลงตัว ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการก้าวข้ามขีดจำกัดและค้นหาขอบเขตใหม่ คอลเลคชั่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 และได้รับการขยายไลน์สินค้าในปีที่ผ่านมาด้วยรุ่น GMT ขนาด 41 มม. ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดจด และปีนี้ Longines ได้ขยายไลน์ด้วยรุ่นใหม่ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 43 มม. ตัวเรือนสแตนเลสสตีล ผสานการขัดเงาและซาตินบนพื้นผิว ฝาหลังตัวเรือนแบบขันเกลียว ภายในบรรจุกลไก Longines GMT คาลิเบอร์ L844.5 เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะของ Longines ซึ่งมาพร้อมซิลิคอน บาลานซ์ สปริง และองค์ประกอบเปี่ยมนวัตกรรมที่ผลิตจากวัสดุที่ไม่ใช่แม่เหล็ก คุณสมบัติในการต้านทานสนามแม่เหล็กของกลไกมีประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐาน ISO 764 ถึงสิบเท่า จึงส่งผลให้เกิดความแม่นยำสูงสุดและสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 72 ชั่วโมง
HydroConquest GMT ใหม่นี้มีหน้าปัดหลากหลายสีให้เลือกอย่าง สีดำ สีน้ำเงิน หรือสีเขียว มาพร้อมกับกระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนหลายชั้นเคลือบด้วย Super-LumiNova® เพื่อให้อ่านค่าเวลาได้ง่ายในทุกสภาพการณ์ โดยหลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 6 และ 9 นาฬิกาจะเป็นทรงกลม ส่วนหลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาจะเป็นรูปสามเหลี่ยม หน้าต่างวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน เข็ม GMT รูปทรงลูกศรมีสีเข้าคู่กับสัญลักษณ์ต่างๆ บนหน้าปัด บนขอบตัวเรือน สเกล 24 ชั่วโมงแสดงเป็นสองโทนสี เพื่อระบุช่วงเวลาระหว่างกลางวันและกลางคืน
HydroConquest GMT สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 30 บาร์ (300 เมตร) มีเม็ดมะยมแบบขันเกลียวแน่น และอีกหนึ่งจุดเด่นที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาทางน้ำคือ ขอบตัวเรือนเซรามิกแบบหมุนได้ทิศทางเดียวแบบมีแถบหยัก พร้อมกับแคปซูลเรืองแสง
โมเดลใหม่นี้มาพร้อมกับสายรัดข้อมือสแตนเลสสตีลแบบ H-link หรือสายยางสีน้ำเงินหรือดำ เพื่อเพิ่มความสบาย สายนาฬิกาทุกแบบจึงมีตัวล็อคพับสองชั้นเพื่อความปลอดภัย พร้อมระบบปรับความกระชับข้อมือแบบละเอียด
The GMT function
นาฬิกาที่สามารถแสดงเวลาไทม์โซนที่หลากหลายนับเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิกและความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาแบบนี้ของLongines ที่สั่งสมมานานนับร้อยปี ในปี 1911 Longines ได้ยื่นสิทธิบัตรสำหรับนาฬิกาพกพาเรือนแรกที่แสดงสองเขตเวลา และย้อนกลับไปไกลถึงปี 1908 Longines ได้ผลิตนาฬิกาสำหรับจักรวรรดิออตโตมาน (ตุรกี) ซึ่งสามารถแปลงเวลาตุรกีเป็นเวลามาตรฐานตะวันตก ต่อมาในปี 1925 Longines ผลิตนาฬิกาข้อมือที่แสดงสองเขตเวลาเป็นครั้งแรก ประวัติศาสตร์นี้ยังคงถูกเขียนต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยนาฬิกาเรือธงรุ่นต่างๆ เช่น Longines Spirit Zulu Time, Longines Master Collection GMT และ HydroConquest GMT
12 ต.ค. 2567
7 ต.ค. 2567
12 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567