VAN CLEEF & ARPELS Lady Arpels Brise dÉté

Last updated: 30 เม.ย 2567  |  345 จำนวนผู้เข้าชม  | 

VAN CLEEF & ARPELS Lady Arpels Brise dÉté

ความงดงามตามธรรมชาติยามคิมหันต์ ถือเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญของเมซงมานับแต่ก่อตั้ง และเพื่อถ่ายทอดบรรยากาศสดใสคราอรุณแรกแห่งฤดูร้อน นาฬิกาข้อมือเลดี อารเปลส์รุ่น “สายลมแห่งคิมหันต์” หรือ Lady Arpels Brise d’Été (เลดี อารเปลส์ บรีซ์ เดเต) ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นอีกบทเติมเต็มความพรั่งพร้อมของมวลพฤกษาที่ผลิบานอยู่ภายในสวนรัตนชาติแห่ง Van Cleef & Arpels

บรรดาผีเสื้อทองคำขาวกับทองคำสีเหลืองลงยาลายฉลุหรือ plique-à-jour (ปลิกาฌูร) กางปีกโบยบินบอกเวลาไปตามระบบขับเคลื่อนตามสั่ง ซึ่งยังเป็นกลไกเดียวกับที่ควบคุมการแกว่งไกวของกิ่งก้าน และดอกไม้วงกลีบลงยาลายนูน หรือ vallonné (วาลลงเน) เฉดน้ำเงินประดับช่อเกสรโกเมนสีส้มสเปซซาไทต์ได้อย่างสมจริงอยู่บนพื้นหน้าปัดขาวกระจ่างด้วยงานขัดผิวลดเงาแผ่นแม่มุก ก่อเนื้อสัมผัสเนียนละไมรองรับมิติทัศนียภาพอันสุนทรีย์ของเหล่ารุกขชาติเลอค่า ในขณะที่บรรดาดอกไม้ประดับลงยาร่องลายหรือ champlevé (ชองเปลเว) แซมสลับโกเมนเขียวส่องซาโวไรต์ต่างใบหญ้า งานลงยาลายฉลุสามมิติก็ช่วยเติมความสมจริงให้แก่ทรงสัณฐานของลำต้นอันเป็นงานจิตรกรรมย่อส่วนลายนูนประติมากรรมได้อย่างละเมียดละไม

ทิวทัศน์ชนบทจำแลงฉากนี้ จึงหาได้ต่างอันใดจากการแสดงความหมายทางวิสัยทัศน์ของ “บทกวีบอกเวลา” หรือ Poetry of Time ดินแดนที่ทุกโมงยามเคลื่อนครรลองไปตามท่วงทำนองวัฏจักรธรรมชาติตราบนิรันดร์

งานลงยาจิตรกรรมย่อส่วน
จิตรกรรมย่อส่วนเป็นเทคนิคงานตกแต่งซึ่งมีความเป็นมาสืบย้อนไปได้ถึงยุคยุโรปโบราณ หรือยุคคลาสสิก อีกทั้งยังสร้างชื่อให้แก่ศิลปินมากมายในยุคกลาง สำหรับงานลงยาจิตรกรรมย่อส่วน หาได้ต่างอันใดจากจานสีของจิตรกร ศิลปินช่างลงยาจะใช้ผงยาสีต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะสกัดจากแร่ซิลิกา และบดจนเป็นผงแป้งสำหรับใช้ผสมผงสีกับน้ำมันจนได้น้ำยาลงสีเฉดต่างๆ

สำหรับหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเลดี อารเปลส์รุ่น “สายลมแห่งคิมหันต์” Lady Arpels Brise d’Été ช่างฝีมือจิตรกรลงยาผู้เตรียมพร้อมด้วยการสวมแว่นตาขยายภาพ จะเริ่มลงสีบนกลีบดอกไม้ลงยาลายนูน (vallonné) หรือปีกผีเสื้อลงยาลายฉลุ (plique-à-jour) ด้วยการใช้พู่กันขนมาร์เทิน (marten เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายพังพอน) บรรจงไล่เฉดตามลำดับน้ำหนักโทนทีละสีลงตามตำแหน่งต่างๆ อย่างแม่นยำโดยอาศัยความประณีต พิถีพิถันระดับสูงจากโทนสีอ่อนสุด หรือสว่างสุดไปจนถึงเฉดเข้มสุด ความยากลำบาก ซึ่งต้องพึ่งพาความเพียรพยายาม และอดทนต่อการใช้เวลาสำหรับแต่ละขั้นตอนของแต่ละสี เพราะหลังจากลงสีไปหนึ่งเฉด ช่างจิตรกรจะต้องนำชิ้นงานไปผ่านกระบวนการความร้อน (ลนไฟ หรืออบในเตาเผา) เนื่องจากสีแต่ละเฉดล้วนมีจุดระเหยก่อตกผลึกก่อประกายเงางามแตกต่างกัน นั่นหมายความว่า ผลลัพธ์ความเป็นเลิศนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่บ่มเพาะความชำนาญ อันอาจกล่าวได้ว่ามีเพียงช่างลงยาระดับปรมาจารย์เท่านั้นจึงจะมีความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้

นอกจากงานลงสีวาดรูปด้วยมือเปล่าโดยปราศจากเส้นร่างแบบ หรือภาพสเก็ตช์ จะถือเป็นกรรมวิธีที่ศิลปินผู้สร้างสรรค์ต้องมีความเฉียบคม แม่นชำ และเชี่ยวชำนาญ เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ทางสุนทรียศิลป์อย่างแท้จริง เทคนิคแต่ละขั้นตอนของกระบวนการลงยาบนจิตรกรรมย่อส่วน ยังต้องอาศัยความแม่นยำในการกำหนดเวลา และระดับอุณหภูมิสำหรับการลนไฟ หรืออบไฟสำหรับสีแต่ละเฉดดังกล่าวไว้ข้างต้น

นาฬิกาข้อมือ Lady Arpels Brise d’Été ตัวเรือนทองคำขาวขนาด 38 มม. ประดับเพชร หน้าปัดแผ่นแม่มุกประดับโกเมนเขียวส่องซาโวไรต์ และโกเมนสีส้มสเปซซาไทต์ร่วมกับงานแม่มุก, จิตรกรรมย่อส่วน, งานลงยาลายฉลุ, งานลงยาร่องลาย และงานลงยาลายนูน กลไกขับเคลื่อนระบบขึ้นลานอัตโนมัติในตัว ติดตั้งระบบหุ่นกลขับเคลื่อนตามสั่ง สายคาดหนังจระเข้อำนวยต่อการสลับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้