Last updated: 22 ก.ค. 2567 | 1095 จำนวนผู้เข้าชม |
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบและนักสะสมนาฬิกา Czapek & Cie (ซาเป็ก แอนด์ เซีย) นำเสนอนาฬิกาที่ขายดีที่สุด รุ่น Antarctique (แอนตาร์กติก) ในตัวเรือนทองเป็นครั้งแรก เพื่อเติมเต็มนาฬิกาตัวเรือนโลหะล้ำค่า Czapek ยังได้นำหน้าปัดแบบ lamé ในตำนานของนาฬิการุ่น Antarctique Terre Adélie (แอนตาร์กติก แตร์ อาเดลี) รุ่นผลิตจำนวนจำกัดที่เปิดตัวในปี 2020 หวนกลับมาอีกครั้ง
วิสัยทัศน์ Czapek & Cie เกี่ยวกับเครื่องบอกเวลาชั้นสูงเป็นเช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ของ François Czapek (ฟรองซัวร์ ซาเป็ก) ชื่อของผู้ผลิตนาฬิกาชื่อดังในศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับบริษัทยุคใหม่นี้ โดยวางอยู่บนเสาหลักสำคัญสองประการคือ การแสวงหาความงามและจิตวิญญาณแห่งการแบ่งปัน ด้วยรากฐานนี้ เมซงที่มีฐานการผลิตอยู่ในเมืองเจนีวา ได้ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยเปิดกว้างเและรับฟังความคิดเห็น ไม่เพียงแต่จากแฟนๆ และนักสะสมนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการติดตามทิศทางการพัฒนาในโลกแห่งศิลปะ แฟชั่นและสังคมที่เปิดกว้างด้วย
"ความต้องการนาฬิการุ่น Antarctique ที่รังสรรค์จากโลหะล้ำค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองคำ มีมากขึ้นในกลุ่มนักสะสมนาฬิกาบางกลุ่ม จนกระทั่งเราไม่สามารถเพิกเฉยๆ ได้" Xavier de Roquemaurel (ซาเวียร์ เดอ โรคูมัล) ซีอีโอของ Czapek & Cie กล่าว "เพื่อสร้างสรรค์นาฬิการุ่นใหม่ เราต้องออกสำรวจทั้งจากประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จของคอลเลกชั่นนี้ รวมไปถึงภูมิศาสตร์ของทวีปแอนตาร์กติกาด้วย"
Mount Erebus ตั้งอยู่บนเกาะ Ross (รอสส์) ในทวีปแห่งน้ำแข็ง ภูเขาซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น Antarctique 'Mount Erebus' คือภูเขาไฟที่อยู่ทางใต้สุดของโลกและยังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ ชื่อของมันได้รับการตั้งชื่อตามเรือสำรวจที่ค้นพบเกาะ Ross ในปี 1841 โดยมี Sir James Clark Ross (เซอร์ เจมส์ คลาร์ก รอสส์) ผู้บัญชาการเรือ HMS Erebus ที่ได้รับการตั้งชื่อตามเทพ เคออส (Chaos) เทพเจ้าในตำนานของกรีกที่เกิดจากความโกลาหลและตัวตนแห่งความมือ ลักษณะเด่นของภูเขาไฟลูกนี้คือการเกิดขึ้นของลาวาทองคำที่ถูกพ่นเป็นละอองออกสู่ชั้นบรรยากาศราว 80 กรัมต่อวัน ซึ่งหลอมละลายอยู่ในก๊าซที่พุ่งออกมาจากภูเขาไฟ ดังนั้น จึงไม่สามารถที่จะเก็บละอองทองเหล่านั้นได้
ความดั้งเดิมของไลน์นาฬิกา Antarctique ของ Czapek เผยให้เห็นในผลงาน 'Mount Erebus' อย่างชัดเจน ต้องขอบคุณพื้นหน้าปัดแบบ lamé พื้นผิวดั้งเดิมที่รังสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรกให้กับ Antarctique ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ในรุ่น Terre Adélie แบบผลิตจำนวนจำกัด ผลงานที่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Metalem โรงงานที่เป็นพันธมิตรกับ Czapek มายาวนาน ซึ่งรังสรรค์พื้นผิวด้วยหวีชนิดพิเศษที่ให้ผลลัพธ์ที่ดูราวกับพื้นผิวซาตินลุ่มลึก สร้างความโดดเด่นให้กับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้ม (Deep Blue) ที่ผลิตด้วยเทคนิค CVD (การเคลือบด้วยไอเคมี) ในตัวเรือนโรสโกลด์ของ 'Mount Erebus'
ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางตัวเรือนขนาด 40.5 มิลลิเมตร และความหนา 10.6 มิลลิเมตร ตัวเรือนสีทองแบ่งปันรหัสการออกแบบทั้งหมดจากนาฬิการุ่น Antarctique ตัวเรือนสตีล ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเส้นโค้งที่ไหลลื่น มุมที่ได้รับการขัดแต่งอย่างประณีตและความสมดุลในการขัดเงาบนพื้นผิวที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ซึ่งทำให้ทุกองค์ประกอบดูมีชีวิตชีวา
ตัวเรือนทองโรสโกลด์ 5N และทองเยลโลว์โกลด์ 2N ประกอบสายนาฬิกาที่ผลิตจากโรสโกล์ดหรือเยลโลว์โกลด์เช่นเดียวกับตัวเรือน พร้อมทางเลือกของสายยางที่มีให้เลือกหลายเฉดสี
นาฬิการุ่น Antarctique Mount Erebus Deep Blue ในตัวเรือนทองโรสโกลด์ 5N ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนและเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าผ่านตัวแทนจำน่ายที่ได้รับอนุญาตขิง Czapek ทั่วโลก และร้านแฟล็กชิฟในเจนีวา หรือผ่านทาง Czapek.com ส่วนรุ่นตัวเรือนทองเยลโลว์โกลด์ 2N ผลิตจำกัดเพียง 50 เรือน จะมีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่ Czapek.com โดยการส่งมองจะเริ่มในไตรมาสที่สองของปี 2024
เกี่ยวกับ Czapek & Cie.
Czapek เมซงผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาร่วมสมัยที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามจิตวิญญาณของ François Czapek ช่างนาฬิกาชาวโปแลนด์ซึ่งเกิดที่สาธารณรัฐเช็ก ในศตวรรษที่ 19 ในปี 1832 Czapek หนีจากความวุ่นวายทางการเมืองใสกรุงวอร์ซออพยพไปอยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ซึ่งเขาได้ก่อตั้งธุรกิจต่างๆ มากมายในช่วงทศวรรษ 1830 หลังจากก่อตั้ง Czapek & Cie ในปี 1845 เขาได้กลายเป็นช่างนาฬิกาอย่างเป็นทางการของพระเจ้านโปเลียนที่ 3 (Napoleon III) และเปิดบูติกนาฬิกาแห่งแรกขึ้นที่ Place Vendôme (ปลาส ว็องโดม) ในกรุงปารีส ชื่อของ Cazpek & Cie เกิดใหม่ในปี 2015 โดยกลุ่มผู้ชื่นชอบนาฬิกาที่พยายามรื้อฟื้นมรดกและงานฝีมืออันล้ำค่าของเมซงขึ้นมาอีกครั้ง แรงบันดาลใจจากนาฬิกาพก Czapek & Cie. ที่ผลิตขึ้นในทศวรรษ 1850 นำมาสู่นาฬิกา Quai des Bergues 33bis นาฬิการุ่นเด่นของคอลเลกชั่นแรกที่คว้ารางวัล GPHG ในกลุ่ม Public Prize ประจำปี 2016 มาครอ และในปี 2020 บริษัทเปิดตัวนาฬิกา Antarctique คอลเลกชั่นสปอร์ตสุดชิค ที่มาพร้อมกลไกเครื่องอินเฮาส์ชุดแรกของ Czapek ปัจจุบัน เครื่องบอกเวลาชั้นสูงของ Czapek เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่โดดเด่น งานฝีมือคุณภาพสูง และการผลิตในจำนวนจำกัด โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเจนีวา และสตูดิโอการสร้างสรรค์อยู่ที่ La-Chaux-de-Fonds (ลา-โชว์-เดอ-ฟองด์) Czapek ยังปกป้องระบบ établissage (ระบบที่ให้ช่างนาฬิกาทำงานจากที่บ้าน เมื่อสำเร็จ จึงนำผลิตภัณฑ์ส่งกลับให้สำนักงาน) ด้วยวิธีสมัยใหม่
6 พ.ย. 2567
7 พ.ย. 2567
5 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567