Last updated: 9 เม.ย 2568 | 775 จำนวนผู้เข้าชม |
BIG CROWN POINTER DATE
นาฬิกา Big Crown Pointer Date เปิดตัวครั้งแรกในปี 1938 ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของเราถูกนำกลับมาสร้างสรรค์อีกครั้งในรูปลักษณ์ใหม่ พร้อมด้วยเฉดสีสดใสที่เปี่ยมด้วยความสนุกสนาน
THE BIG CROWN IS REBORN
นาฬิกา Big Crown Pointer Date ได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1938 จนถึงปัจจุบัน วันนี้เราขอนำเสนอนาฬิการุ่นใหม่พร้อมเฉดสีสันใหม่ที่สดใส ที่มาช่วยเติมชีวิตชีวาให้กับนาฬิการุ่นไอคอนของเรา
เรื่องราวของ Big Crown Pointer Date ถือเป็นบทสำคัญในตำนานของ Oris โดยจุดเริ่มต้นของนาฬิการุ่นนี้ย้อนกลับไปในช่วงปี 1930 เมื่อ Oris เป็นบริษัทอิสระที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในด้านการผลิตนาฬิกาข้อมือที่มีความเที่ยงตรงสูง
โจทย์สำคัญคือ การสร้างสรรค์นาฬิกาที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการเฉพาะตัว โดยเฉพาะสำหรับนักบิน นาฬิกาจะต้องมีความเที่ยงตรงและไว้วางใจได้สูงสุด แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือต้องใช้งานง่ายและอ่านค่าได้อย่างรวดเร็ว เพราะห้องนักบินเป็นพื้นที่ที่ไม่สะดวกสบาย คับแคบ เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นและกฎระเบียบที่เข้มงวด
Oris จึงออกแบบนาฬิกาทรงกลมเรียบง่ายในตัวเรือนสเตนเลสสตีล พร้อมหน้าปัดสีดำ ตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง 12, 3 และ 9 และเม็ดมะยมขนาดโอเวอร์ไซส์ เพื่อให้นักบินจับได้ถนัดมือแม้ขณะสวมถุงมือ อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นบอกวันที่แบบ Pointer Date ด้วยเข็มจากจุดศูนย์กลางที่มีปลายลูกศรสีแดง ทำให้นาฬิกาเรือนนี้อ่านเวลาได้ง่ายและใช้งานได้สะดวก เป็น toolwatch ที่เหมาะสำหรับงานที่ต้องอาศัยความเอาใจใส่สูงที่สุด
คงไม่มีใครคาดคิดว่า นาฬิกาประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานได้จริงในปี 1938 จะกลายเป็นต้นแบบแห่งดีไซน์ และเป็นหนึ่งในเรือนเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการนาฬิกา วันนี้เป็นเวลาเกือบ 90 ปีหลังจากการเปิดตัวครั้งแรก นาฬิการุ่น Big Crown Pointer Date ได้กลายเป็นดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Oris และเป็นไอคอนแห่งวงการนาฬิกาสวิส
แน่นอนว่านาฬิการุ่นนี้ไม่ได้ยังคงผลิตอยู่เพียงเพราะจุดประสงค์ดั้งเดิมอีกต่อไป นี่คือนาฬิกาที่เรายังคงผลิตต่อไปเพราะเป็นเครื่องเตือนใจอันงดงามถึงเรื่องราวของ Oris แต่ที่สำคัญกว่านั้น ดีไซน์ที่ยอดเยี่ยมจะคงอยู่ตลอดกาล และ Big Crown Pointer Date จึงได้รับการจารึกไว้ในทำเนียบแห่งเรือนเวลาคลาสสิก และพร้อมให้ทุกเจเนอเรชั่นได้สัมผัสและชื่นชม
ปีนี้ เรานำ Big Crown Pointer Date กลับมาสร้างสรรค์อีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้น พร้อมเพิ่มสีสันใหม่ สายสเตนเลสสตีลแบบใหม่ และตัวเลือกทั้งในด้านตัวเรือนและกลไก เพื่อเพิ่มความหลากหลายและตอกย้ำถึงสิ่งหนึ่ง นั่นคือความสุขเหนือกาลเวลาของ Big Crown Pointer Date
HIGHER PLANE
คอลเลกชั่นใหม่ของ Big Crown Pointer Date มาพร้อมสีสันสดใสที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา สายสเตนเลสสตีลดีไซน์ใหม่ และตัวเลือกของขนาดตัวเรือนและกลไกออโตเมติกที่หลากหลาย
มีอะไรใหม่บ้าง? Big Crown Pointer Date คอลเลกชั่นล่าสุดมาพร้อมกับสีสันใหม่ที่สดใส สายสเตนเลสสตีลแบบใหม่ และรุ่นตัวเรือนที่เล็กลงขนาด 34.00 มม. โดยทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไกออโตเมติก
เริ่มต้นกันที่สีสันและกลไก รุ่นขนาด 40.00 มม. มาพร้อมตัวเลือกหน้าปัดสีเทอร์ราคอตตา หรือสีเขียว และขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 403 ซึ่งมาพร้อมหน้าปัดย่อยแสดงเข็มวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และคุณสมบัติเด่นของกลไก Oris Calibre 400 Series (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่แถบด้านขวา) นอกจากนี้ ยังมีอีกสามรุ่นในขนาด 40.00 มม. กับหน้าปัดสีเหลือง สีไลแลค หรือสีฟ้า ในโทนสดใส ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกออโตเมติก Swiss Made ส่วนรุ่นขนาด 34.00 มม. จะมากับหน้าปัดสีน้ำตาลที่มีลวดลาย หรือหน้าปัดสีดำพร้อมหลักชั่วโมงประดับเพชร lab-grown ทรงบาแก็ตคัต 12 เม็ด และขับเคลื่อนด้วยกลไกออโตเมติก Swiss Made ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการผลิตนาฬิกาแบบกลไกจักรกล 100% ของ Oris
อีกหนึ่งความใหม่คือสายสเตนเลสสตีลแบบ H-link สไตล์สปอร์ต โดดเด่นด้วยข้อต่อแบบขัดด้านและขัดเงาสลับกัน มาพร้อมตัวล็อกแบบบานพับปีกผีเสื้อที่พัฒนาโดย Oris ซึ่งช่วยให้สายดูเรียบและกลมกลืนเมื่อสวมใส่ สำหรับรุ่นที่ใช้กลไก Calibre 403 ยังมีตัวเลือกสายหนังกวางแบบยั่งยืนที่ผลิตโดย Cervo Volante แบรนด์พันธมิตรสวิสของเรา ซึ่งหนังเหล่านี้มาจากแหล่งที่จัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และผ่านกระบวนการฟอกที่ปราศจากสารเคมี
นี่คือคอลเลกชั่นที่ได้รับการรีเฟรชใหม่ และเปี่ยมด้วยความหลากหลาย ถ่ายทอดดีไซน์อันเหนือกาลเวลาของ Big Crown Pointer Date ในมุมมองที่ร่วมสมัย
อัพเกรดกลไกออโตเมติก
Big Crown Pointer Date Calibre 403 มาพร้อมกลไกออโตเมติกที่สำรองพลังงาน 5 วัน หนึ่งในกลไกระดับสูงจาก Calibre 400 Series ซึ่งมาพร้อมคำมั่นสัญญาด้านประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน 3 ประการ
ต้านทานสนามแม่เหล็ก กลไก Calibre 400 Series ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ต้านทานสนามแม่เหล็กมากกว่า 30 ชิ้น และมีประสิทธิภาพเหนือกว่ามาตรฐาน ISO 764 ด้านการต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูง
พลังงานสำรอง 5 วัน นาฬิกากลไกจักรกลอาจไม่ได้ถูกสวมใส่ทุกวัน กลไก Calibre 400 Series จึงถูกออกแบบให้มีพลังงานสำรองยาวนานถึง 5 วัน ใช้งานข้ามช่วงสุดสัปดาห์ได้โดยไม่ต้องขึ้นลานหรือปรับเวลาใหม่
รับประกันนาน 10 ปี ความน่าเชื่อถือคือมาตรฐานสำหรับนาฬิกา Oris ทุกรุ่นที่มาพร้อมกลไก Calibre 400 Series เพียงลงทะเบียนผ่าน MyOris เพื่อเปิดใช้งานการรับประกันนาน 10 ปี
บทสัมภาษณ์ : R O L F S T U D E R
TAKING IT UP A LEVEL
การรีแบรนด์ การปรับโฉมคอลเลกชั่นซิกเนเจอร์ของ Oris และการกลับมาร่วมงานกับ The Muppets ล้วนทำให้เป็นปีที่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวสำหรับ CEO ของ Oris
Rolf ขอเริ่มต้นจากสิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนว่า Oris มีการรีเฟรชแบรนด์ใหม่ อะไรคือแนวคิดเบื้องหลังเรื่องนี้?
ใช่ครับ เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ Oris ซึ่งเราได้ร่วมกันพัฒนามาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เรารู้สึกภูมิใจมาก เพราะสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของเราและสิ่งที่เราทำ เราสร้างสรรค์นาฬิกากลไกจักรกลที่งดงามซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบรอยยิ้มให้กับผู้คน ฟังดูอาจเรียบง่าย แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเช่นทุกวันนี้ การได้ทำสิ่งนั้นถือเป็นสิ่งที่พิเศษและมีคุณค่าอย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของการลดทอนเพื่อความชัดเจน ไม่มีสโลแกน ไม่มีข้อความที่ซับซ้อนเกินไป แต่เน้นที่การใช้สีสันและแบบอักษรที่ชัดเจน สดใส แสดงถึงการมองโลกในแง่ดี การผสมผสานของ Oris Bear เข้าไว้ในภาพลักษณ์ใหม่ และการกลับมาโฟกัสในสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ซึ่งก็คือการเป็นแบรนด์ที่จริงจังกับการผลิตนาฬิกา โดยไม่จำเป็นต้องจริงจังกับตัวเองจนเกินไป Oris เป็นแบรนด์ที่เปิดกว้าง เป็นมิตร มีจิตสำนึกต่อสังคม ยึดมั่นในความเป็นอิสระ และกล้าตัดสินใจในแนวทางของตนเอง สีหลักของภาพลักษณ์ใหม่ของเราคือสีชมพู Rose Pink! ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในแนวทางและทัศนคติของเราได้อย่างชัดเจน
ใช่แล้ว เกี่ยวกับสีชมพูนั้น...
มันเป็นสีที่เฟรช ทันสมัย อบอุ่น และเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ที่สำคัญยังเป็นสีของบ้านแห่งประวัติศาสตร์ของเราในเมืองโฮลสไตน์อีกด้วย
ปีนี้เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว “Miss Piggy” และ Divers 60th Anniversary Edition ทั้งสองรุ่นมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง?
ทั้งสองรุ่นเรียกเสียงฮือฮาได้มากทีเดียวครับ! โดยเฉพาะรุ่น ProPilot X Miss Piggy Edition ที่ลูกค้าหลายคนของเราเรียกร้องมาตลอด ด้วยขนาดตัวเรือนที่เล็กลงและหน้าปัดสีชมพูที่โดดเด่นสะดุดตา ถือเป็นรุ่นที่ไม่ควรพลาด และนับเป็นการเริ่มต้นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา และเราก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับรุ่น 60th Anniversary Edition ด้วยกลิ่นอายย้อนยุคที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ท้าทาย แม้แต่อุตสาหกรรมนาฬิกาเองก็ได้รับผลกระทบ ดังนั้นการได้เห็นรอยยิ้มของผู้คนในวันที่เราเปิดตัวนาฬิการุ่นเหล่านี้ จึงเป็นความสุขอย่างแท้จริงสำหรับพวกเราทุกคน
และที่งาน Watches and Wonders Geneva การกลับมาของ Big Crown Pointer Date ก็สร้างความตื่นเต้นไม่น้อยอีกครั้ง ด้วยสีสันที่หลากหลายและสดใส อะไรคือแนวคิดเบื้องหลังคอลเลกชั่นใหม่นี้?
เราพูดถึง Big Crown Pointer Date กันอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่นาฬิการุ่นนี้ยังคงผลิตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1938 เนื่องจากนาฬิการุ่นนี้มีความสำคัญมาก Oris ก็คงไม่ใช่ Oris หากไม่มีนาฬิการุ่นนี้ แต่สำหรับผมแล้วมันยังมีความหมายมากกว่านั้น เราใช้ชีวิตอยู่ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน การรู้ว่ายังมีบางสิ่งที่จะคงอยู่ได้ตลอดไปนั้น เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้อย่างเหลือเชื่อ โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือคำมั่นสัญญาของนาฬิกากลไกจักรกลทุกเรือน แต่สำหรับเราแล้ว Big Crown Pointer Date คือตัวแทนของคำมั่นสัญญานั้นได้อย่างชัดเจนที่สุด ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย เหนือกาลเวลา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราจึงอยากเติมชีวิตชีวาให้กับนาฬิการุ่นนี้อีกครั้ง และเปิดโอกาสให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสนาฬิการุ่นนี้จากมุมมองที่เฟรชยิ่งขึ้น สีสันที่เราเลือกใช้ล้วนเชื่อมโยงกับปรัชญาที่ผมเพิ่งกล่าวไป นั่นคือ อบอุ่น เป็นมิตร และเปี่ยมด้วยความสุข คุณจะมอง Big Crown Pointer Date หน้าปัดสีเหลือง แล้วจะไม่ยิ้มได้อย่างไร มันง่ายๆแค่นั้นเลยครับ
คุณกล่าวถึง "การเข้าถึงในมุมมองใหม่" หมายถึงอะไร?
คอลเลกชั่นใหม่นี้ประกอบด้วยทั้งหมด 11 รุ่น โดยบางรุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 403 ที่มาพร้อมจุดเด่นด้านประสิทธิภาพ ทั้งพลังงานสำรอง 5 วัน ระบบต้านสนามแม่เหล็ก ช่วงเวลาแนะนำในการเข้ารับบริการและการรับประกัน 10 ปี ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการวิจัยและพัฒนาโดยทีมงานของเราเองตลอดเวลาหลายปี แน่นอนว่ารุ่นเหล่านี้จะอยู่ในช่วงราคาที่สูงขึ้นตามคุณสมบัติ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงคอลเลกชั่นนี้ได้มากขึ้น ดังนั้นเราจึงมีรุ่นที่ใช้กลไก Calibre 754 ซึ่งเป็นกลไกคุณภาพสูงที่ใช้ขับเคลื่อนนาฬิกา Pointer Date มาตลอดหลายปี และเรายังมีรุ่นที่เล็กลงขนาด 34.00 มม. ซึ่งเป็นขนาดใหม่ และหากคุณต้องการ เรายังมีรุ่นที่ประดับเพชรให้เลือกอีกด้วย นี่คือคอลเลกชั่นที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง พร้อมทางเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
แล้วรุ่นที่ขนาดเล็กลงนี้เหมาะกับใครบ้าง?
ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการออกแบบนาฬิกาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะคือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ แน่นอนว่าใครๆก็สามารถใส่นาฬิกาขนาด 34.00 มม.ได้ เหมือนกับที่ใครๆก็สามารถใส่นาฬิกาขนาด 40.00 มม. ได้เช่นกัน แต่เป้าหมายของเราคือการนำเสนอเวอร์ชั่นของดีไซน์ซิกเนเจอร์ที่ดูสง่างามยิ่งขึ้น คล้ายเครื่องประดับมากขึ้น และสามารถดึงดูดใจผู้หญิงได้มากยิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วที่อุตสาหกรรมนาฬิกาจะต้องหยุดสงสัยเสีย เพราะผู้หญิงก็รักนาฬิกากลไกจักรกลเช่นเดียวกัน!
เหตุใดจึงเลือกใช้เพชร lab-grown?
เพราะนี่คือแนวทางร่วมสมัยที่ปราศจากความขัดแย้งในการนำเสนอเรื่องราวของเพชร อีกทั้งยังสอดคล้องกับความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของเรา เพชรประเภทนี้ตอบโจทย์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
แล้วช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับสายนาฬิการุ่นใหม่...
เราทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาการออกแบบให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งผมคิดว่าผลลัพธ์ของข้อต่อแบบ H-link ที่ขัดด้านและขัดเงาสลับกันนั้น แสดงออกถึงบุคลิกที่เป็นกันเองของ Oris ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวล็อกก็เป็นผลงานที่เราตั้งใจพัฒนาด้วยความพิถีพิถันและความหลงใหล และผลที่ได้ก็คือดีไซน์ที่ทั้งทันสมัย สวมใส่สบายตามหลักสรีรศาสตร์ และให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยมเมื่อสวมใส่ สิ่งที่ผมรู้สึกพอใจมากคือผลที่เกิดขึ้นกับนาฬิการุ่นนี้ ด้วยสายนาฬิกาแบบใหม่นี้ทำให้ Big Crown ดูสปอร์ตมากขึ้น และกลายเป็นนาฬิกาแนวมัลติแอคทิวิตี้ที่สามารถสวมใส่ได้ในหลากหลายโอกาส นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าของเราเรียกร้องมาตลอด และเนื่องจากเราเป็นแบรนด์อิสระ เราจึงสามารถลงทุนเวลาในการพัฒนาดีไซน์ใหม่นี้ได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าคุณยังสามารถเลือกใส่กับสายหนังได้เช่นกัน โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบเวอร์ชั่นที่มาพร้อมสายหนังกวางแบบยั่งยืนของ Cervo Volante แต่นั่นก็เป็นเพียงความชอบส่วนตัวของผมเท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรคาเดโร ไทม์
โทร. 084-088-2189, 02-163-0555
25 เม.ย 2568
25 เม.ย 2568
28 เม.ย 2568