PATEK PHILIPPE Reference 5308G-001

Last updated: 14 พ.ค. 2568  |  363 จำนวนผู้เข้าชม  | 

PATEK PHILIPPE Reference 5308G-001

หลังจากเปิดตัวระดับโลกในฐานะรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันตัวเรือนแพลทินัม ในโอกาสงานแสดงนาฬิกา Patek Philippe “Watch Art” Tokyo ปี 2023 (5308P-010) ตอนนี้ Reference 5308 ได้เข้าสู่คอลเลกชันหลักของแบรนด์อย่างเป็นทางการ ด้วยความเป็นสุดยอดแห่งความกะทัดรัดและการควบคุมพลังงานอย่างชาญฉลาด นาฬิการะบบไขลานอัตโนมัติที่มาพร้อมกลไกซับซ้อนสี่ฟังก์ชัน (Quadruple Complication) รุ่นนี้ ผสานการทำงาน minute repeater และโครโนกราฟแบบจับเวลาสองชุด (split-seconds chronograph) ที่มาพร้อมกลไกจดสิทธิบัตรใหม่สองรายการ และปฏิทินถาวรแบบแสดงผ่านช่องหน้าปัดที่เปลี่ยนทันที (instantaneous perpetual calendar with aperture displays) ไว้ได้อย่างลงตัว โดยกลไก Caliber R CHR 27 PS QI รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ พร้อมเปิดตัวครั้งแรกในตัวเรือนทองคำขาวดีไซน์หรู ด้วยตัวเรือนโปร่ง พร้อมหน้าปัดสีฟ้าน้ำแข็งแบบซันเบิร์สต์ สะท้อนความสง่างามและประณีตไร้ที่ติ

ในปี 2008 Patek Philippe ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำสูงสุดด้านนาฬิกากลไกซับซ้อน (Grand Complications) ด้วยการเปิดตัว Reference 5207 เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันหลัก นาฬิการุ่นนี้เป็นนวัตกรรมที่ minute repeater, tourbillon และปฏิทินถาวรแบบแสดงผ่านช่องหน้าปัดที่เปลี่ยนทันที (instantaneous perpetual calendar with aperture displays) ซึ่งแนวคิดดั้งเดิมของกลไกนี้ได้รับการยืนยันด้วยสิทธิบัตรสองรายการ (Caliber R TO 27 PS QI)

ด้วยดีไซน์สมัยใหม่ที่แฝงกลิ่นอายของความสปอร์ต นาฬิการุ่นนี้ถือเป็นนาฬิกากลไกซับซ้อนรุ่นแรกในสายการผลิตปกติที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง


ในปี 2011 Patek Philippe ยังคงสืบสานตำนานแห่งเรือนเวลาสุดพิเศษ ด้วยการเปิดตัว Reference 5208 นาฬิการะบบไขลานอัตโนมัติที่รวมเอา minute repeater, โครโนกราฟแบบปุ่มเดียว (mono-pusher chronograph) และปฏิทินถาวรแบบเปลี่ยนทันที พร้อมช่องแสดง (instantaneous perpetual calendar with aperture displays) เข้าไว้ด้วยกัน Reference 5208 เป็นนาฬิกา Triple Complication รุ่นแรกของปาเต็ก ฟิลลิปป์ ที่รวมโครโนกราฟไว้ด้วย และยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เรือนของนาฬิกาซับซ้อนสูงที่ใช้ระบบไขลานอัตโนมัติอีกด้วย เพื่อให้กลไก Caliber R CH 27 PS QI สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและเสถียร ช่างฝีมือของแบรนด์ต้องพัฒนาโครงสร้างกลไกใหม่ โดยการวางชุดโครโนกราฟไว้ระหว่างกลไกฐาน  (ที่มีกลไกรีพีตเตอร์) กับโมเดลของปฏิทิน ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ซับซ้อน ในปี 2017 รุ่นพิเศษตัวเรือนไทเทเนียม (5208T-010) ซึ่งบริจาคให้กับการประมูลการกุศล Only Watch ถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 6.2 ล้านฟรังก์สวิส


จากกลไกสามฟังก์ชันพัฒนาสู่กลไกสี่ฟังก์ชัน
ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ Patek Philippe เลือกที่จะขยายขอบเขตของการนำเสนอศิลปะแห่งการทำนาฬิการะดับสูง ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ให้กับเรือนเวลานี้ นั่นคือ กลไกจับเวลาซ้อน หรือที่เรียกว่า rattrapante (จากภาษาฝรั่งเศส rattraper หมายถึง “ไล่ตามให้ทัน”) – กลไกพิเศษที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสามอันดับแรกของกลไกนาฬิกาที่ยากที่สุดในการผลิต ควบคู่ไปกับกลไก minute repeater และกลไก tourbillon กลไกนี้ต้องใช้ความซับซ้อนอย่างสูงในการควบคุมเข็มจับเวลา ซึ่งสามารถหยุดชั่วคราวเพื่อจับเวลาระหว่างทาง และเมื่อปล่อยเข็มนี้อีกครั้ง มันจะไล่ตามเข็มวินาทีอีกอันจนทันภายในเสี้ยววินาที และทั้งสองเข็มจะกลับมาซ้อนกันและหมุนรอบหน้าปัดต่อไปเสมือนเป็นเข็มเดียว เรือนเวลาใหม่รุ่นอัตโนมัติ Reference 5308 นี้ จึงถูกออกแบบมาเพื่อผู้หลงใหลใน Haute Horlogerie อย่างแท้จริง โดยผสานกลไกซับซ้อนทั้งหมด 4 อย่าง ซึ่งในจำนวนนั้นมีถึง 3 อย่าง (กลไก minute repeater, ปฏิทินถาวรแบบเปลี่ยนวันทันที และกลไกจับเวลาซ้อน) ที่ต่างก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นนาฬิกากลไกซับซ้อนอย่างสมบูรณ์ในตัวเอง

นับเป็นความมหัศจรรย์อย่างแท้จริงของศิลปะแห่งการย่อส่วน (miniaturization) และความเชี่ยวชาญในการควบคุมแรงที่กระทำต่อชิ้นส่วนเล็กจิ๋วทั้งหลาย กลไกนี้โดดเด่นด้วยความซับซ้อนและความหนาแน่นของโครงสร้างในระดับสูง – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเข็มยาวทั้งสี่ที่ซ้อนกันเป็นวงร่วมศูนย์กลาง (concentric sweep hands) ซึ่งมีแกนที่ยาวเป็นพิเศษ – ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษามาตรฐานของ Patek Philippe Seal ไว้อย่างครบถ้วน รวมถึงเกณฑ์ด้านความเที่ยงตรงของอัตราเดินที่ได้มีการปรับให้เข้มงวดขึ้นในปี 2024: โดยความคลาดเคลื่อนของเวลาในแต่ละวันต้องอยู่ภายในช่วง -1 ถึง +2 วินาทีต่อ 24 ชั่วโมง


มาตรฐานใหม่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
การเพิ่มกลไก split-seconds mechanism ซึ่งเป็นระบบที่ใช้พลังงานอย่างมาก เข้าไปในระบบกลไกพื้นฐานที่รวมกับโมดูลโครโนกราฟ นั้นถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับช่างฝีมือของโรงงานผลิตกลไกนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข้อกำหนดให้ยังคงรักษาขนาดของกลไกใหม่ให้กะทัดรัดที่สุด และเพิ่มความหนาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าจะต้องเพิ่มชิ้นส่วนถึง 80 ชิ้นเพื่อให้ได้ฟังก์ชันจับเวลารอบแยก (รวมทั้งหมด 799 ชิ้น เทียบกับ 719 ชิ้นในกลไก R CH 27 PS QI เดิม) กลไกใหม่ R CHR 27 PS QI ก็มีความหนาเพิ่มขึ้นเพียง 1.93 มม. (จาก 10.35 มม. เป็น 12.28 มม.) เพื่อให้สามารถผสานฟังก์ชันจับเวลารอบแยก ซึ่งใช้พลังงานเทียบเท่ากับกลไกโครโนกราฟเมื่อเปิดทำงานได้อย่างลงตัว ช่างฝีมือจึงปรับปรุงประสิทธิภาพของกลไกในหลายระดับ หนึ่งในนั้นคือ การเพิ่มแรงบิดของลานนาฬิกา (barrel spring torque) โดยใช้แถบลานที่ผลิตจากวัสดุที่หนาและแข็งแรงขึ้น และลดขนาดแกนกลางของลาน (barrel arbor) เพื่อให้ยังสามารถคงความยาวของลาน จำนวนรอบ และกำลังสำรองไว้ได้เท่าเดิม (อย่างน้อย 38 ชั่วโมงและสูงสุด 48 ชั่วโมง เมื่อไม่ได้เปิดครโนกราฟ) แรงบิดของลานที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกลไกจับเวลารอบแยก ทำให้ต้องเพิ่มโมเมนต์ความเฉื่อยของบาลานซ์วีล เพื่อให้การเดินของเวลาเสถียรมากขึ้น และหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ "knocking" (แรงกระแทกในกลไก escapement เมื่อการแกว่งของบาลานซ์มากเกินไป) ปิดท้ายด้วยมินิโรเตอร์แบบเยื้องศูนย์ที่เดิมทำจากทองคำ 22K ก็ถูกแทนที่ด้วย มินิโรเตอร์แพลทินัม ช่วยเพิ่มกำลังในการขึ้นลานโดยไม่เพิ่มภาระให้กับลานที่ออกแบบใหม่

ระบบใหม่ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรที่ลดแรงเสียดทานของล้อโครโนกราฟ
เพื่อประหยัดพลังงานให้มากที่สุด ช่างฝีมือได้หันมาให้ความสำคัญกับกลไก split-seconds chronograph โดยได้พัฒนานวัตกรรมใหม่สองสิ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นขอจดสิทธิบัตร โดยนวัตกรรมแรกเกี่ยวข้องกับระบบการเชื่อมต่อ (coupling system) ในกลไกโครโนกราฟแบบคลัตช์แนวนอน (horizontal-clutch chronograph) การเชื่อมต่อระหว่างล้อวินาที (seconds wheel) กับล้อโครโนกราฟ (ซึ่งเป็นล้อที่พาเข็มจับเวลาวินาทีหลัก) จะทำผ่านล้อคลัตช์ (clutch wheel) ซึ่งควบคุมโดยคันโยกคลัตช์ตามปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เข็มจับเวลาหลักสั่นระหว่างทำงาน โดยทั่วไปแล้ววงล้อโครโนกราฟจะมีสปริงแรงเสียดทาน (friction spring) คอยหน่วงเล็กน้อย ซึ่งเป็นการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น Patek Philippe จึงได้ตัดปัญหานี้โดยสิ้นเชิง ด้วยการแทนที่ด้วยล้อคลัตช์แบบเฟืองทั่วไปด้วยระบบล้อเฟืองชดเชยแรงสะท้อนกลับ (backlash-compensation wheel) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ล้อเฟืองชิ้นนี้ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ LIGA (ลิโธกราฟี เคลือบด้วยไฟฟ้า และการขึ้นรูป) ซึ่งให้รูปร่างล้ำยุค ผลิตจากนิกเกิลฟอสฟอรัสที่มีฟันเฟืองยาวแบบโปร่งพิเศษ ภายในฝังแถบสปริงขนาดจิ๋ว หนาเพียง 18 ไมครอน ในแต่ละซี่ ซึ่งทำหน้าที่ยึดจับกับฟันเฟืองของล้อโครโนกราฟได้อย่างแนบแน่น ป้องกันการสั่นของเข็มจับเวลาโดยไม่ต้องมีการปรับแต่งใด ๆ ซึ่งนวัตกรรมนี้สะท้อนถึงการผสานอย่างลงตัวระหว่างความประณีตดั้งเดิมกับผลงานของช่างฝีมือที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นจิตวิญญาณแท้จริงของ Patek Philippe แนวคิดนี้ยังคล้ายคลึงกับระบบล้อเฟืองป้องกันแรงสะท้อนที่จดสิทธิบัตรแล้ว สำหรับการขับเคลื่อนเพลาวินาที ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 ในกลไกอัตโนมัติพื้นฐานรุ่นใหม่ caliber 26-330 (ที่ใช้ในรุ่น Calatrava Weekly Calendar Reference 5212A-001) นอกจากนี้ รูปร่างของฟันเฟืองและแถบสปริงยังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เหมาะสมที่สุดกับระบบโครโนกราฟแบบคลัตช์แนวนอน พร้อมยกระดับทั้งสมรรถนะและความน่าเชื่อถืออย่างเหนือชั้น

กลไก split-seconds hand นวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
นวัตกรรมที่จดสิทธิบัตรชิ้นที่สองนี้เกี่ยวข้องกับกลไก split-seconds ซึ่งอยู่ใต้โมดูลโครโนกราฟ ในกลไกแบบดั้งเดิม เมื่อเข็มจับเวลารอบแยกถูกหยุดเพื่ออ่านค่าระยะเวลาช่วงกลาง (โดยการหนีบขากรรไกรล็อกให้แน่น) คันโยกของกลไกจับเวลารอบแยกยังคงหมุนรอบชิ้นส่วนหัวใจของโครโนกราฟ (chronograph heart-piece) ต่อไป ซึ่งก่อให้เกิดแรงเสียดทาน และส่งผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงาน แต่ในระบบใหม่ที่พัฒนาโดย Patek Philippe ได้มีการเพิ่ม กลไก isolator ซึ่งช่วยยกคันโยกนั้นขึ้นจากการสัมผัสกับกลไกโครโนกราฟโดยตรง ทำให้การหยุดการทำงานของชุดกลไกจับเวลารอบแยก ไม่มีผลกระทบต่อความแกว่งของบาลานซ์วีล (amplitude of the balance) ส่งผลให้ระบบเดินเที่ยงตรงยิ่งขึ้น และยังคงกำลังสำรองของนาฬิกาไว้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้ในขณะใช้งานโครโนกราฟ ซึ่ง Patek Philippe เคยออกแบบระบบแยกการทำงานของคันโยกจับเวลารอบแยกมาแล้วในกลไกไขลานด้วยมือ caliber CHR 29-535 PS Q ในปี 2012 (ในรุ่นจับเวลารอบแยกพร้อมปฏิทินตลอดกาล Ref. 5204) และใน caliber CHR 29-535 PS ปี 2015 (ในรุ่นจับเวลารอบแยก Ref. 5370) สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุด Reference 5308G-001 โครงสร้างทั้งระบบได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยมุ่งลดความหนาของกลไกแยกให้น้อยที่สุด ผ่านการออกแบบให้ใช้คันโยกแบบคู่ที่หมุนในแนวร่วมศูนย์ (concentric dual-lever system) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในพื้นที่จำกัด

กลไก split-seconds chronograph แบบปุ่มกดเดียว
โครโนกราฟแบบปุ่มเดียว (Monopusher Chronograph) พร้อมกลไกคอลัมน์วีล (column wheel) และคลัตช์แนวนอน (horizontal clutch) โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่บางเป็นพิเศษ มาพร้อมหน้าปัดจับเวลา 60 นาทีที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และ 12 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ปุ่มกดเดียวที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา ทำหน้าที่ควบคุมการเริ่มต้น หยุด และรีเซ็ตโครโนกราฟแบบต่อเนื่องในลำดับเดียวกัน (เป็นกลไกโครโนกราฟแบบ 3 จังหวะ) split-seconds hand ที่มีระบบคอลัมน์วีลแยกเฉพาะของตนเอง จะถูกควบคุมโดยปุ่มกดที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา เมื่อกดปุ่มนี้ครั้งแรก เข็มจับเวลารอบแยกจะหยุด เพื่อแสดงระยะเวลาช่วงกลาง และเมื่อกดอีกครั้ง เข็มจะเริ่มทำงานอีกครั้ง โดยจะ “ไล่ตาม” เข็มจับเวลาหลักที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ผู้ใช้สามารถกดปุ่มจับเวลารอบแยกนี้ได้หลายครั้งตามต้องการ ขณะเข็มโครโนกราฟหลักยังคงทำงาน เมื่อสิ้นสุดการจับเวลา โดยสามารถกดปุ่มที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาอีกครั้ง เพื่อหยุดเข็มทั้งสองพร้อมกัน และรีเซ็ตกลับสู่ตำแหน่งศูนย์


มินิทรีพีตเตอร์สุดประณีต พร้อมกลไกตีระฆังสองชิ้น
กลไก Minute Repeater ที่ตีบอกเวลาด้วยระฆังสองชิ้นแบบดั้งเดิม ถ่ายทอดคุณภาพเสียงในตำนานของ  Patek Philippe หนึ่งในคุณสมบัติอันโดดเด่นของเรือนเวลาตระกูล Grand Complications ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากศาสตร์ขั้นสูงที่สงวนไว้สำหรับช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างนาฬิกาเพียงไม่กี่คนในโลก ระบบอันซับซ้อนนี้ ประกอบด้วยชุดเฟืองเล็ก ๆ snails, ค้อน และระฆังงขนาดจิ๋ว ที่ทำงานประสานกันอย่างประณีตเมื่อเลื่อนสไลด์ที่ฝังอยู่บริเวณตัวเรือนตำแหน่ง 9 นาฬิกา กลไกนี้จะตีบอกชั่วโมงด้วยเสียงต่ำ, ควอเตอร์ (15 นาที) ด้วยเสียงสลับสูงต่ำ และนาทีที่ล่วงเลยจากควอเตอร์สุดท้ายด้วยเสียงสูง เสียงตีของนาฬิกาแต่ละเรือนต้องอาศัยประสบการณ์ ทักษะขั้นสูง และโสตประสาทที่ผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มข้น เพื่อให้ได้เสียง “Patek Philippe Sound” อันเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมทั่วโลก โดยคุณ Thierry Stern ประธานของPatek Philippe จะเป็นผู้ฟังเสียงของ Minute Repeater ทุกเรือนที่ผลิตเสร็จด้วยตนเอง ก่อนจะตัดสินใจว่าสมควรส่งมอบให้เจ้าของผู้โชคดีหรือไม่

ความซับซ้อนระดับสูงของปฏิทินตลอดกาลแบบแสดงผลผ่านช่องหน้าต่าง (Instantaneous Perpetual Calendar) กลไกปฏิทินตลอดกาลแบบแสดงผ่านช่องหน้าต่าง ซึ่งมีความแม่นยำและซับซ้อนขั้นสูงนี้ พบได้เฉพาะในนาฬิกาไม่กี่รุ่นเท่านั้น กลไกสุดพิเศษนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 กับรุ่น Reference 5207 และอีกครั้งในปี 2011 กับ Reference 5208 โดยเป็นกลไกที่ได้รับการจดสิทธิบัตรสองฉบับ และใช้ชิ้นส่วนมากถึง 220 ชิ้น จากทั้งหมด 799 ชิ้น ภายในกลไกของรุ่นใหม่นี้ระบบดังกล่าวสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลทั้ง 4 ช่อง – วัน / วันที่ / เดือน / ปี ได้พร้อมกันภายในเวลาเพียง 30 มิลลิวินาที แม้เหลือกำลังสำรองของลานเพียง 10 ชั่วโมง ความท้าทายยิ่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากใช้การแสดงผลด้วยแผ่นดิสก์ (disks) แทนการใช้เข็ม ทำให้กลไกต้องขับเคลื่อนชิ้นส่วนที่มีมวลมากกว่าปกติ ซึ่งต้องอาศัยการคำนวณพลังงานอย่างแม่นยำที่สุด  คันโย ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วน 15 ชิ้น ซึ่งบางชิ้นสามารถเคลื่อนที่ได้ (ได้รับสิทธิบัตรแรก) ทำหน้าที่ในการกระโดดของการแสดงผลทั้งหมดในเวลาเดียวกันอย่างแม่นยำ โดยการออกแบบที่มีสปริงจัมเปอร์คู่ (jumper springs) ซึ่งทำงานในทิศทางตรงกันข้าม (ได้รับสิทธิบัตรที่สอง) จะช่วยให้การใช้พลังงานสำหรับการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งคงที่ แม้จะมีความแตกต่างในมุมการเคลื่อนที่อย่างมาก ตั้งแต่การกระโดดของวันที่หนึ่งในเดือนที่มี 31 วัน ไปจนถึงการกระโดดของสี่วันในเดือนกุมภาพันธ์ในปีที่ไม่ใช่ปีอธิกสุรทิน (non-leap years) ระบบนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกระโดดที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดพลังงาน หรือการกระโดดที่เกินไปเนื่องจากมีพลังงานส่วนเกิน


หน้าปัดซันเบิร์สสีฟ้า ที่ผสมผสานความหรูหราและความชัดเจนในการอ่านเวลา
เรือนเวลารุ่น Quadruple Complication Reference 5308G-001 ใหม่ มาพร้อมหน้าปัดซันเบิร์สสีฟ้าอันหรูหรา ซึ่งมีการออกแบบตัวเลขชั่วโมงที่เจียระไนและเข็มแบบดอฟีน (Dauphine-style) ทั้งหมดทำจากทองคำขาวที่มีการเคลือบเมทัลลิซ่าในสีน้ำเงิน โดยมุ่งเน้นไปที่การอ่านค่าที่ชัดเจน เพื่อให้การแสดงผลของ 13 ฟังก์ชันที่ควบคุมโดยกลไก caliber R CHR 27 PS QI สังเกตได้อย่างชัดเจน การแสดงผลของปฏิทินตลอดกาลในช่องหน้าต่างสามช่องระหว่างตำแหน่ง 10 นาฬิกาและ 2 นาฬิกา ถูกจัดวางในกรอบทองคำขาวที่มีการเคลือบเมทัลลิซ่าสีน้ำเงิน โดยช่องวันที่จะมีขนาดใหญ่กว่าช่องอื่น ๆ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ยังมีช่องหน้าต่างทรงกลมสำหรับแสดงสถานะวัน/คืนที่ตำแหน่ง 8 นาฬิกา และวงจรปีอธิกสุรทิน (Leap-year cycle) ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งทั้งสองฟังก์ชันมีความสำคัญเมื่อทำการตั้งค่าในปฏิทิน

ตัวเรือนทองคำขาวพร้อมขาตัวเรือนแบบโปร่งหรือแบบฉลุ
เพื่อรองรับกลไกนี้ Patek Philippe จึงเลือกใช้ทองคำขาว ตัวเรือนมีการออกแบบและขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (42 มม.) เหมือนกับเรฟเฟอเรนซ์ 5208 ซึ่งเป็นดีไซน์ที่คลาสสิคและเรียบง่าย ขัดเงาทั่วทั้งตัวเรือน โดยมีลักษณะเด่นที่ขอบตัวเรือนที่เว้าเข้าและขาที่ย่อยให้เห็นกลไกภายใน นาฬิกานี้มาพร้อมกับฝาหลังตัวเรือนที่สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบ คือ ฝาหลังจากคริสตัลแซฟไฟร์และฝาหลังจากทองคำขาว ความดึงดูดอันประณีตของนาฬิกานี้ยังคงดำเนินไปจนถึงสายหนังจระเข้สีกรมท่าเงางามที่มาพร้อมกับที่ล็อกแบบพับสามใบใหม่ที่ได้รับสิทธิบัตร โดยทำจากทองคำขาว ซึ่งช่วยให้การสวมใส่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

สิทธิบัตรสำหรับกลไก R CHR 27 PS QI
สิทธิบัตรใหม่
• ล้อคลัทช์กันการย้อนกลับ (European patent EP 3492779A1)
ระบบล้อคลัทช์กันการย้อนกลับที่ป้องกันการสั่นสะเทือนของเข็มวินาทีของโครโนกราฟช่วยขจัดแรงเสียดทานของล้อโครโนกราฟ และทำให้ประหยัดพลังงาน

• กลไก split-seconds hand (European patent EP 3179318A1)
กลไกแยกนี้ช่วยให้สามารถยกเลเวอร์ของเข็มวินาทีแยกเมื่อเข็มหยุดหมุน แทนที่จะปล่อยให้มันหมุนต่อไปโดยรอบกลไกโครโนกราฟ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงาน

สิทธิบัตรที่นำมาจากกลไก R TO 27 PS QI (หมายเลข 5207, 2008)
• นาฬิกาที่มีกลไกปฏิทิน (European patent EP 1734419 A1)
ระบบของเลเวอร์ขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างและโครงสร้างที่ซับซ้อน ประกอบด้วย 15 ชิ้นส่วน ซึ่งบางชิ้นสามารถเคลื่อนที่ได้ ทำให้สามารถกระตุ้นการแสดงผลของปฏิทินถาวรได้พร้อมกันและทันที

• อุปกรณ์ที่กระตุ้นการเคลื่อนไหวของเลเวอร์ขนาดใหญ่ในการแสดงผลปฏิทินถาวรในนาฬิกาที่มีกลไกปฏิทินถาวรหรือนาฬิกาปฏิทินโลก (Swiss patent 01080/07)
ระบบนี้มาพร้อมกับสปริงกระโดดสองตัวที่มีพลังเท่ากันทำงานในทิศทางตรงกันข้าม ช่วยให้สามารถหมุนแผ่นวันที่ได้อย่างเสถียรเมื่อถึงการเปลี่ยนเดือน โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาของเดือนที่ผ่านไป (28, 29, 30 หรือ 31 วัน)

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้