HOTEL LA PALMA Bianca Rooftop Carne & Crudo

โฮเทล ลา ปาลมา (Hotel La Palma) โรงแรมระดับตำนานแห่งแรกบนเกาะคาปรี อิตาลี ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ภายใต้ กลุ่ม เอิตเคอร์ โฮเทลส์ (Oetker Hotels) ต้อนรับฤดูร้อนด้วยการเปิดตัวนิยามใหม่แห่งรสชาติของ เบียงกา รูฟท็อป การ์เน เอ กรูโด (Bianca Rooftop Carne & Crudo) ยกระดับประสบการณ์สเต็กเฮาส์ และบาร์อาหารทะเลสดด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบอิตาเลียนบนรูฟท็อปสุดหรูซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมบนเกาะคาปรี

ทุกค่ำคืน รูฟท็อปแห่งนี้จะถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่โชว์ศิลปะการปรุงอาหารของเชฟ โดยมีบาร์อาหารทะเลสด (Raw Bar) และวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากผู้ผลิตเนื้อระดับโลก ปรุงด้วยเตาย่างด้วยฟืน (Wood-fired Grill) หอมกลิ่นไฟ พร้อมไฮไลต์อย่างการเสิร์ฟซอสสูตรพิเศษหลากชนิดถึงที่โต๊ะ ไม่ว่าจะเป็น Béarnaise, chimichurri, ซอสหัวหอมแบบหวาน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเบอร์เกอร์แสนอร่อย Bianca Burger ที่เป็นความสุขแบบ guilty pleasure ให้คุณได้ลิ้มลองวากิวชุ่มฉ่ำ หอมแดงย่างมะเขือเทศอิตาเลียน และชีสคุณภาพเยี่ยมเสิร์ฟในขนมปังอบสด พร้อมตราประทับเฉพาะของทางร้าน

ภายใต้ทิวทัศน์ที่งดงามราวภาพวาดของเกาะคาปรี Bianca Rooftop คือสเต็กเฮาส์สไตล์อิตาเลียนโฉมใหม่ที่มอบประสบการณ์แบบ immersive ครบทุกประสาทสัมผัสพร้อมครัวแบบเปิดให้แขกได้ชมทุกขั้นตอนการปรุงอย่างใกล้ชิดเติมเต็มค่ำคืนด้วยความประทับใจไม่รู้ลืม

รูฟท็อปแห่งประวัติศาสตร์
พื้นที่ของโรงแรมโฮเทล ลา ปาลมา เคยเป็นที่ตั้งของ โลคันดา พากาโน (Locanda Pagano) โรงแรมแห่งแรกบนเกาะคาปรีที่เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1822 และเคยเป็นที่พักพิงของเหล่าศิลปินและนักสร้างสรรค์ในยุคนั้น มีเรื่องเล่าว่า โรซินา (Rosina) มิวส์สาวชาวคาปรี เคยเต้นรำยามพระอาทิตย์ตกบนรูฟท็อปแห่งนี้ และโมเมนต์นั้นถูกบันทึกไว้เป็นภาพวาดโดยจอห์น ซิงเกอร์ ซาร์เจนต์ (John Singer Sargent) ชื่อภาพ View of Capri (1878) ขณะที่กวีชื่อดัง เจ.วี. ฟอน เชฟเฟิล (J.V. von Scheffel) ก็เคยมาใช้เวลาบนดาดฟ้าแห่งนี้ กับแมวของเขาที่ชื่อ Hiddigeigei ซึ่งเป็นแมวที่มักได้รับการกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้งในบริบทของความทรงจำและแรงบันดาลใจของกวีผู้นี้

การออกแบบโดย Francis Sultana
Bianca Rooftop ออกแบบโดยอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ ชื่อดัง ฟรานซิส ซัลตานา (Francis Sultana) ที่นำความงามเหนือกาลเวลาของคาปรีมาผสานเข้ากับความหรูหราร่วมสมัย บริเวณบาร์ตรงกลางโดดเด่นด้วยการตกแต่งจากกระเบื้องโมเสกและหินอ่อน เปรียบเสมือนหัวใจของพื้นที่ที่เปล่งประกายยามค่ำคืน พร้อมค็อกเทลสูตรพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นเข้ากับอารมณ์โรแมนติกและความสนุกสนานใต้แสงดาวได้อย่างลงตัว

Bianca Rooftop โรงแรมโฮเทล ลา ปาลมา กลับมาเปิดให้บริการตามฤดูกาล ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2025 จนถึง 30 กันยายน 2025 ตั้งแต่เวลา 18.30-01.00น. (ออร์เดอร์สุดท้ายไม่เกิน 23.00น.) มาพร้อมไลฟ์ดีเจทุกค่ำคืน และพิเศษกับธีม Bring Back to ’80s ทุกคืนวันพฤหัสบดี ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.oetkerhotels.com/ hotels/hotel-la-palma/ restaurants-bars/bianca- rooftop-carne-crudo/

เกี่ยวกับเอิตเคอร์ โฮเทลส์ (Oetker Hotels)
เอิตเคอร์ โฮเทลส์ คือกลุ่มโรงแรมระดับมาสเตอร์พีซซึ่งตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางอันงดงามและเป็นที่ ใฝ่ฝันที่สุดของโลก โรงแรมแต่ละแห่งล้วนเป็นแลนด์มาร์กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราเหนือกาลเวลา สะท้อนความงดงามของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยความใส่ใจในผู้คน ชุมชน และวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาค ‘Hosts of Choice’ ของเอิตเคอร์ โฮเทลส์ ยังคงสืบสานมรดกการบริการแบบยุโรปอันเลื่องชื่อ ควบคู่กับจิตวิญญาณแห่งความเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872

ปัจจุบัน เอิตเคอร์ โฮเทลส์ประกอบด้วยโรงแรมทั้งหมด 12 แห่ง ได้แก่ Le Bristol Paris กรุงปารีส, Hotel du Cap-Eden-Roc เมืองอองตีบส์, Château Saint-Martin & Spa เมืองวองซ์, L’Apogée Courchevel ในประเทศฝรั่งเศส, Brenners Park-Hotel & Spa เมืองบาเดิน-บาเดิน ประเทศเยอรมนี, The Lanesborough ใจกลางกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร, Eden Rock - St Barths ในแซงต์-บาร์เธเลมี ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส, Jumby Bay Island บนเกาะส่วนตัวในแอนติกา ทะเลแคริบเบียน, Palácio Tangará ในนครเซาเปาโล ประเทศบราซิล, Hotel La Palma บนเกาะคาปรี ประเทศอิตาลี, The Vineta Hotel ในเมืองปาล์มบีช สหรัฐอเมริกา (มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2025) และโรงแรมแห่งใหม่ในแซงต์-โทรเปซ์ ประเทศฝรั่งเศส (คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2027)