Last updated: 1 ส.ค. 2568 | 53 จำนวนผู้เข้าชม |
ด้วยความเชี่ยวชาญและเข้าใจลึกซึ้งถึงความสัมพันธ์ระหว่างความสวยงามและฟังก์ชัน Rolex จึงสามารถร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับสถาปนิกที่อุทิศตนให้กับการสร้างสถาปัตยกรรมทั่วโลก สถาปนิกที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ Michael Graves (อาคาร Lititz Watch Technicum ณ เพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา), Fumihiko Maki (อาคาร Rolex Toyocho) และ SANAA principals Kazuyo Sejima และ Ryue Nishizawa (ศูนย์การเรียนรู้ของ Rolex สำหรับ EPFL ในโลซานน์)
ความยั่งยืนที่มาก่อนทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นการผลิตนาฬิกาอันยอดเยี่ยม หรือในการสร้างสถาปัตยกรรมของตนเอง ความยั่งยืนคือสิ่งที่ Rolex ตระหนักและให้ความสำคัญอยู่เสมอ โครงการล่าสุดของ Rolex แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อสถาปัตยกรรมอันคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ความเที่ยงตรง และสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
อาคาร Rolex ณ แดลลัส รัฐเท็กซัส
สถาปนิกชาวญี่ปุ่น Kengo Kuma ได้ออกแบบอาคารสำนักงานเจ็ดชั้นสำหรับ Rolex ที่แดลลัส โดยใช้งานเพื่อเป็นศูนย์รวมการขายของ Rolex และศูนย์บริการ ภายในอาคารประกอบไปด้วยระเบียงทุกๆ ชั้น การออกแบบนี้คำนึงถึงคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเมืองแห่งนี้ การออกแบบอันซับซ้อนที่เต็มไปด้วยความท้าทายเพื่อสิ่งแวดล้อมนี้เป็นแนวทางการออกแบบของ Kuma ที่ออกแบบให้อาคารสามารถใช้แสงสว่างจากภายนอกได้ ทั้งยังมีพื้นที่ใช้สอย และการปรับพื้นผิวอย่างละเอียด
สถาปัตยกรรมและโครงการ Perpetual Arts Initiative
Rolex สนับสนุนสถาปัตยกรรมผ่านโครงการ Perpetual Arts Initiative อันเป็นโครงการที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ จากองค์กรด้านวัฒนธรรมและเหล่าศิลปิน เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอุทิศตนให้กับการสร้างวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเป็นผู้นำในการถ่ายทอดความรู้ให้กับคนรุ่นต่อไป โดยทำงานผ่านโปรแกรมการศึกษาต่างๆ
งานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ
ในฐานะพันธมิตรระดับเอ็กซ์คลูซีฟและเรือนเวลาอย่างเป็นทางการของงานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติของ La Biennale di Venezia ทาง Rolex ได้สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสถาปนิกชั้นนำของโลกในการออกแบบอาคารต่างๆ ทั่วโลก โครงสร้างเชิงนวัตกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการรักษาความยั่งยืนและการแสวงหาโซลูชันที่สร้างสรรค์
ถือเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่ต้องการส่งเสริมการใช้งานพื้นที่และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด Rolex จึงให้การสนับสนุนงานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติของ La Biennale di Venezia ในฐานะพันธมิตรระดับเอ็กซ์คลูซีฟและเรือนเวลาอย่างเป็นทางการ
การก่อสร้างอาคารของทางแบรนด์นั้นใช้วิสัยทัศน์เช่นเดียวกับการผลิตนาฬิกา Rolex นั่นคือการยึดมั่นในนวัตกรรม ความเป็นเลิศ และความยั่งยืน
La Biennale di Venezia
งานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ
งานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติของ La Biennale di Venezia คืองานสำคัญด้านสถาปัตยกรรมที่รวบรวมผู้คนที่มีวิสัยทัศน์แห่งอนาคต เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน Rolex ได้เป็นพันธมิตรระดับเอ็กซ์คลูซีฟและเรือนเวลาอย่างเป็นทางการของงานนี้มานับตั้งแต่ปี 2014 การสนับสนุนนี้ได้แสดงถึงปณิธานของเราที่มุ่งมั่นพัฒนาโลกแห่งสถาปัตยกรรมเพื่อความเป็นเลิศด้านการออกแบบและความยั่งยืน
งาน Biennale ประจำปี 2025 จะเปิดให้เข้าร่วมชมได้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2025
Rolex Pavilion
Rolex Pavilion ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยหลักความยั่งยืน โดยใช้ช่างฝีมือท้องถิ่น วิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม และวัสดุรีไซเคิล เพื่อทดแทนโครงสร้างเดิมที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2018 Rolex ได้เชิญสถาปนิกผู้มีความสามารถระดับโลกอย่าง Mariam Issoufou มาออกแบบพาวิลเลียน โดยมีเป้าหมายเพื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์และปรัชญาความยั่งยืนที่เกิดจากการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน
การออกแบบพาวิลเลียนของ Issoufou ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปร่างของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นเกาะที่แบ่งออกเป็นสองส่วนโดยแกรนด์คาแนล โดยมีความโดดเด่นที่บริเวณด้านหน้าของพาวิลเลียนที่ทำจากไม้ ซึ่งประดิษฐ์จากคานไม้รีไซเคิลในท้องถิ่น และได้รับการออกแบบให้คล้ายกับขอบร่องอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกา Rolex รุ่นไอคอนิกหลายรุ่น ภายในมีเพดานโปร่งแสงสีต่างๆ ซึ่งผลิตโดยช่างแก้วมูราโน ทำให้เกิดเฉดสีและเงาต่างๆ มากมายที่เปลี่ยนไปมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีพื้นเทอร์ราซโซที่ทำจากวัสดุผสม ซึ่งรวมถึงแก้วบดรีไซเคิล “โคติสโซ” ด้วย
นิทรรศการในปี 2025
ภายในพาวิลเลียนได้เผยให้เห็นความเกี่ยวเนื่องของ Rolex ต่อโลกแห่งสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน โดยจัดแสดงผ่านงาน 3 ส่วน ที่มาพร้อมกับภาพยนตร์ โดยบรรยายถึงการก่อสร้าง Rolex Pavilion แห่งใหม่ การศึกษาค้นคว้าในเบรุต และการปรับปรุงบูติกสองแห่งในมิลานและโตเกียว
Anne Lacaton สถาปนิกชาวฝรั่งเศสและเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ ผู้สนับสนุนการฟื้นฟูอาคารและคัดค้านการรื้อถอนอาคาร การทำงานผ่านโครงการให้คำปรึกษาของ Rolex ในปี 2023–2024 ทำให้เธอมีโอกาสให้คำแนะนำ Arine Aprahamian สถาปนิกรุ่นใหม่ชาวอาร์เมเนีย-เลบานอนเกี่ยวกับงานวิจัยที่ใช้เวลาสองปีที่บูร์จ ฮัมมูด ซึ่งเป็นย่านที่มีประชากรหนาแน่นในเขตชานเมืองทางตะวันออกของเบรุต และเป็นเมืองที่เธอเติบโตขึ้นมา การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมเชิงกลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องในการพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองที่มีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีพื้นที่จำกัดและแทบจะไม่มีพื้นที่สาธารณะเลย
Rolex เผยงานฝีมือแบบดั้งเดิมอันประณีตในการปรับปรุงบูติกในมิลานและโตเกียว
การบูรณะบูติก Rolex ใน Galleria Vittorio Emanuele II ในเมืองมิลาน ถือเป็นเรื่องใหม่ในการออกแบบพื้นที่ขายปลีกที่อิงจากงานฝีมือในรูปแบบอิตาลีดั้งเดิม รวมถึงการคัดสรรวัสดุและเฟอร์นิเจอร์อันประณีต ดีไซน์ของ ACPV ARCHITECTS ได้ชุบชีวิตบรรยากาศแห่งเมืองมิลานให้กลับมามีชีวิตชีวาในแบบร่วมสมัย แต่ยังคงรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสถานที่ไว้
ในย่านกินซ่าของโตเกียว มีร้านค้า Rolex ทางการแห่งใหม่ที่ผสมผสานความงามแบบดั้งเดิมและความทันสมัยเข้ากันได้อย่างลงตัว บริเวณหน้าร้านและอาคารที่ครอบคลุมพื้นที่ 4 ชั้นของ Rolex Tower ได้รับการออกแบบโดย Gwenael Nicolas จากสตูดิโอออกแบบ Curiosity ที่ตั้งอยู่ในโตเกียว ซึ่งทำงานร่วมกับช่างฝีมือและศิลปินในท้องถิ่น ด้านหน้าบูติกเป็นกระจกที่ส่องประกายด้วยลวดลายของขอบตัวเรือนสองชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้มาจากตาข่ายโลหะที่ผลิตในเกียวโต
1 ส.ค. 2568
31 ก.ค. 2568
1 ส.ค. 2568
1 ส.ค. 2568