PRÉCIEUX A Curated House of Independent Watchmaking

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย สำหรับตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์อิสระในนาม PRÉCIEUX เมื่อปลายเดือน กรกฏาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ร้าน Riedel Wine Bar & Cellar เกษรวิลเลจ โดยมี Mr. Marcel Gut ผู้ก่อตั้ง PRÉCIEUX (SWISS) และ CEO ของ PRÉCIEUX (THAILAND) พร้อมกับ คุณรวิศ เหตานุรักษ์ COO PRÉCIEUX (THAILAND) ร่วมให้การต้อนรับบรรดาแขกผู้มีเกียรติ และคณะสื่อมวลชนภายในงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มนักสะสมนาฬิกาและสื่อมวลชนทางด้านนาฬิกาเป็นอย่างมาก โดยการจัดงานได้รับเกียรติจาก ดร.ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข มาเป็นพิธีกรดำเนินงาน และกล่าวเชิญ Mr. Marcel Gut ขึ้นกล่าวเปิดงานพร้อมกับคุณรวิศ และเข้าร่วมพูดคุยถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้

สำหรับการก่อตั้ง PRÉCIEUX (THAILAND) นั้นได้เริ่มต้นขึ้นจากการมองเห็นความเปลี่ยนไปของนักนิยมสะสมนาฬิกาทั่วโลกของ Mr. Marcel Gut และคุณ รวิศ เหตานุรักษ์ ซึ่งบุคคลทั้งสองท่านนั้นได้คว่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจนาฬิกาสวิสและเมืองไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mr. Marcel Gut ที่เป็นผู้ก่อตั้ง PRÉCIEUX (SWISS) ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจทางด้านเอเยนต์ให้กับบรรดาแบรนด์นาฬิกาอิสระไปสู่ในหลายประเทศทั่วโลก ได้เล็งเห็นว่าในปัจจุบันทิศทางการสะสมของนักสะสมนาฬิกาจากทั่วโลกนั้นได้มีการพูดถึง หรือเริ่มมองหาความหลากหลายอันน่าตื่นเต้นจากแบรนด์นาฬิกาใหม่ๆ กันมากขึ้น ทั้งยังพร้อมเปิดกว้างให้กับการสะสมในแบบที่ไม่ได้จำกัดอยู่กับแค่แบรนด์ที่เราคุ้นเคย หรือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแบรนด์นาฬิกาอิสระคุณภาพระดับสูงนั้นยังมีอยู่มากที่เรายังไม่รู้จักกัน  ซึ่งในบางแบรนด์นั้นก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานจนน่าทึ่ง และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นจนสามารถสร้างความประทับใจได้ดีทีเดียว และวันนี้ คือโอกาสที่ดีสำหรับนักสะสมชาวไทยในการที่จะได้สัมผัส และได้เป็นเจ้าของแบรนด์นาฬิกาอิสระคุณภาพระดับสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านดีไซน์ และเรื่องราวความเป็นมาของตระกูลช่างทำนาฬิกาที่มีการสืบทอดกลไกเทคนิคเชิงช่างประจำตระกูลอันแตกต่างกัน และเพื่อให้ความสำคัญกับนักสะสมชาวไทยอย่างแท้จริง Mr. Mr. Marcel Gut จึงได้ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเพื่อเปิด “PRÉCIEUX Watch Lounge” ขึ้นเป็นแห่งแรกของแบรนด์ โดยจะตั้งอยู่ที่ชั้น Lobby President Tower Arcade, InterContinental Bangkok ซี่งจะมีกำหนดการเปิดภายในปีนี้ ภายใต้นิยามที่ว่า A Curated House of Independent Watchmaking อันสื่อความหมายถึง ”ณ บ้านของผู้สร้างนาฬิกาอิสระระดับสูง” ที่เป็นไปตามแนวทางของบรรดาแบรนด์นาฬิกาอิสระที่มักจะไม่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของใครนอกจากของตนเอง! 

และสำหรับงานเปิดตัวครั้งแรกนี้ ทาง PRÉCIEUX ได้นำแบรนด์นาฬิกาอิสระจำนวน 5 แบรนด์ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันมาเปิดตัวดังต่อไปนี้

RUDIS SYLVA
ปฏิวัติวงการเครื่องบอกเวลากับชุดออสซิลเลเตอร์ฮาร์โมเนียส ที่ให้ค่าความแม่นยำของเวลามากกว่าชุดตูร์บิยอง!

ย้อนไปอดีตในช่วงศตวรรษที่ 17 ตรงพื้นที่โดยรวมที่เรียกกันว่า ฟรองซ์ มงตาญ ชื่อ RUDIS SYLVA นั้นมาจากชื่อของ Jean Ruedin ผู้บุกเบิกและตั้งถิ่นฐานในยุคแรกๆ ของแถบนี้และ SYLVA ซึ่งเป็นภาษาละตินที่หมายถึง 'ป่า' นี่คือประวัติศาสตร์ในการผลิตนาฬิกาของพื้นที่แถบนี้ ซึ่งยาวนานมากจนมาถึงปัจจุบันที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตของชุมชนในภูมิภาคแห่งนี้ได้ดีที่สุด

ปฏิวัติวงการนาฬิกากับชุดออสซิลเลเตอร์ฮาร์โมเนียส อันเป็นระบบที่มีบาลานซ์วีลสองชุด ที่เชื่อมต่อกันแต่ขับเคลื่อนด้วยชุดสปริงเพียงชุดเดียว ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางด้านเทคนิคที่ล้ำสมัย และทำให้สามารถได้ค่าที่แม่นยำ มากกว่าชุดตูร์บิยองแบบปกติ จากชุดบาลานซ์สปริงที่จะหมุนไปรอบๆ ในทุกตำแหน่ง โดยชุดกลไกนี้จะทำงานที่ความถี่ระดับ 21,600 รอบต่อชั่วโมงหรือ 3 เฮริท์ซ และชุดกรงที่ผลิตขึ้นจากวัสดุ ชนิดพิเศษนี้จะหมุนวนในแบบ 360 องศาและจะเท่ากับ 60 วินาทีในหนึ่งรอบจากลานที่ขึ้นได้จากกลไกการไขลานด้วยมือ เพื่อให้พลังสำรองลานยาวนานประมาณ 70 ชั่วโมง โดยฮาร์โมเนียสออสซิเลเตอร์จะมีความแม่นยำมากกว่าชุดตูร์บิยองทั่วไป จากค่าแอมพลิจูดที่วัดได้ในทุกๆ ตำแหน่ง ทั้งในตำแหน่งที่มีค่าที่สูง หรือในตำแหน่งที่มีค่าที่ต่ำจากการทดสอบในช่วงเวลา24ชั่วโมงในแนวตั้งที่ถือเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงในระดับสูงสุดของชุดกลไกโดยทั่วไป

CHARLES GIRARDIER
จากหน้าปัดของนาฬิการุ่น Synchronaut ที่สร้างขึ้นโดยใช้เครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติจากยุค 60s ประดับด้วยลวดลายกิโยเช่ในแบบดั้งเดิมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปแบบของลวดลาย “กิโยเช่ แพทเทริ์น” ในแบบโบราณ (Ancienne Tapisserie Guillochée) ชวนให้นึกถึงลวดลายที่ซับซ้อนของผ้าทอโบราณที่ช่วยทำให้หน้าปัดแลดูมีมิติ และมีเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ โดยวิธีการแบบดั้งเดิมนี้จะต้องใช้ความชำนาญพร้อมความพิถีพิถันและความเชี่ยวชาญในระดับสูง ถือเป็นการยกย่องศิลปะการผลิตนาฬิกาในอดีต สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ CHARLES GIRARDIER ในการอนุรักษ์งานฝีมือแบบโบราณสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะนาฬิกาในคอลเลกชั่น GMT Synchronaut® 1863 นี้ ถือเป็นการสืบทอดประเพณีแบบดั้งเดิมของความซับซ้อนในกลไกนาฬิกาได้อย่างแท้จริง

นาฬิการุ่นนี้ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ CG SYNC-1863 ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะ CHARLES GIRARDIER เอกลักษณ์เฉพาะจากความเป็นเลิศของแบรนด์มาตั้งแต่ยุคอดีต ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นการเชิดชูเกียรติให้กับ Henry Royce (1863) ในการฉลองความร่วมมืออันทรงเกียรติสำหรับโอกาสครบรอบ 120 ปีของ ROLLS ROYCE กับ RREC ที่ช่างนาฬิกาของ CHARLES GIRARDIER บรรจงรังสรรค์ชุดกลไกจีเอ็มทีคาลิเบอร์ CG SYNC-1863 ขึ้นอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมีหน้าปัดย่อยสำหรับการแสดงค่าวันที่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจสำคัญมาจากนาฬิกาพกโบราณ อันเป็นสไตล์ของ “GIARDIER L’AINE” จากอดีตอันชวนให้นึกถึงมรดกอันล้ำค่าที่มาพร้อมความหรูหรา รวมไปถึงเทคนิคโบราณในการใช้เครื่องมืออายุกว่า60ปี ในการแกะสลักแบบลายนูนพร้อมกระบวนการอันพิถีพิถันที่บอกเล่าเรื่องราวอันงดงามในอดีตมากมายของ CHARLES GIRARDIER

CUERVO Y SOBRINOS
CUERVO Y SOBRINOS (คูร์เอโว อี โซบรีโนส) แบรนด์นาฬิกาเพียงหนึ่งเดียวจากฝั่งละตินอเมริกาในหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์นาฬิกา

จากแรงบันดาลใจและการปลุกเร้ามาจากยุคทองของฮาวานาอันสะท้อนถึงวิถีชีวิตอันหรูหราและการเป็นตำนานของโลก แบรนด์ CUERVO Y SOBRINOS ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1882 พร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนานอันเปี่ยมล้นไปด้วยเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมายตลอดเส้นทาง ที่แสดงให้เห็นได้ถึงความเชี่ยวชาญในการทำงานของแบรนด์ จากช่วงประวัติศาสตร์ที่เริ่มต้นในปี 1862 โดย Ramón Fernández Cuervo ผู้อพยพมาจากอัสตูเรียสทางตอนเหนือของสเปน ได้เริ่มเปิดร้านขายเครื่องประดับแห่งแรกของเขาที่ในฮาวานา ซึ่งธุรกิจนี้ถือเป็นพื้นฐานของ CUERVO Y SOBRINOS จนตั้งเป็นแบรนด์ขึ้นมาได้ในปี 1882 ที่ต่อมา Don Baldomero, Don Teodomiro, Don Jose Maria, Don Armando, Don Placido และ Don Lisardo ได้เข้าร่วมกับ Ramón Fernández Cuervo เพื่อผลักดันให้ธุรกิจมีการเติบโตขึ้นเป็นลำดับ จนในช่วงปี 1950 อันรุ่งโรจน์ ฮาวานาถือเป็นเมืองที่หรูหราที่สุดในแถบแคริบเบียน และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทันสมัยและมีชีวิตชีวาที่สุดในทวีปอเมริกา และทำให้บูติคของแบรนด์กลายเป็นจุดหมายปลายทาง ที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งผู้ที่มีชื่อเสียงหลายคนที่เยือนฮาวานา โดยบุคคลสำคัญบางส่วนที่มาเยือนบูติคได้แก่ Caruso, Churchill, Einstein, Gagle, Hamingway และ Neruda โดยในปี 2001 มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต ในประเทศอิตาลีและสเปนพร้อมขยายไปสู่ เยอร์มันนี รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา จนในปี 2002 ที่ CUERVO Y SOBRINOS ได้มีการจัดแสดงนาฬิกาที่งาน BASELWORLD เป็นครั้งแรก พร้อมการเปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่น Espléndidos, Prominente และ Torpedo จนมาถึงปี 2022 ของ CUERVO Y SOBRINOS ที่เป็นการฉลองวาระครบรอบ 140 ปีของแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่มากมายของแบรนด์

BA111OD
แบรนด์นาฬิกาที่แปลงค่าตัวอักษรเป็นตัวเลข จาก Thomas Baillod ผู้มีตำนานอย่างยาวนานกับนูเชอเตล สู่ความแปลกใหม่

ของแบรนด์นาฬิกาในปัจจุบัน BA111OD (บาโย) เป็นมากกว่าแค่แบรนด์ แต่เป็นการสานต่อตำนานนาฬิกา ที่สืบสานมายาวนานกว่า 250 ปีจากการหยั่งรากลึกในเขต นูชาแตล โดยมีความเชื่อมโยงระหว่างตระกูล Baillod กับเรื่องราวของนาฬิกาที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1775 เมื่อ David François Baillod de St-Aubin ได้รับการบันทึกว่าเป็น มาสเตอร์ทางด้านการประกอบตัวเรือน (Maître monteur de boîte) และในตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา สมาชิกในครอบครัว Baillod ก็ฝากรอยประทับไว้ในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกามากมาย ตลอดในช่วงเวลาสำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ โดยตั้งแต่ปี 1341 ที่หน้าต่างกระจกสีในโบสถ์โมติเยร์ (Môtiers) มีชื่อตระกูล Baillod ประทับอยู่พร้อมความเป็นตระกูล ที่เก่าแก่ที่สุดตระกูลหนึ่งในเขตนี้

จนมาถึงในปี 2019 กับ Thomas Baillod ผู้เปิดตัวชื่อแบรนด์ BA111OD อย่างเป็นทางการ โดยในปี 2023 ถึงปี 2024 BA111OD มีการเปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่น CHPTR_A ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นนาฬิกาในแบบคอมพลิเคชั่นรุ่นแรก พร้อมการขยายฐานไปยังซูริค ปารีส บรัสเซลส์ และมิวนิค รวมทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม ไปพร้อมๆ กับการเปิดตัวนาฬิกาแบบเมเทียดาร์ (Métier D'Art) รุ่นแรกของแบรนด์ด้วยนาฬิกาแบบไตรภาค ที่มาพร้อมชุดกลไกแบบ ตูร์บิยอง เพื่อการฉลองครบรอบ 5 ปีของแบรนด์ และเพื่อฉลองให้กับภูมิภาค นูเชอเตล อันงดงามของแบรนด์ในวันที่ 11.10.2024 ซึ่งถือเป็นการฉลองคุณค่าหลักของแบรนด์อันได้แก่ ความถูกต้อง ความกล้าหาญ และความเชี่ยวชาญ โดยนาฬิกาแต่ละเรือนได้รับแรงบันดาลใจ มาจากความงามและมรดกของนูเชอเตล จากวิวและทิวทัศน์โดยรอบ พร้อมการยกย่องประเพณีการผลิต นาฬิกาอันล้ำค่าของภูมิภาค โดยโลโก้ BA111OD จะมีการดัดแปลงให้มีคำว่า "Neuchâtel" ร่วมอยู่ด้วย

DOXA
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์นาฬิกาเลื่องชื่อนาม DOXA กับภาพลักษณ์ของนาฬิกาแบบดำน้ำในยุคปัจจุบันที่ทั่วโลกรู้จักกันดี

นาฬิกาที่มาจากแหล่งกำเนิดประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กับการเดินทางของแบรนด์ที่เริ่มต้นขึ้นที่เมืองเล็กๆ ชื่อเลอโลคล์ ดินแดนอันเป็นแหล่งกำเนิดนาฬิกาชั้นดี จากสวิสในแถบเทือกเขาจูรา โดย Georges Ducommun ที่เปิดธุรกิจของตัวเองในชื่อว่า “Georges Ducommun, Fabriques DOXA” ชื่อแห่งคุณภาพที่มาพร้อมคุณค่า “DOXA” อันเป็นคำภาษากรีกที่แปลว่าความรุ่งโรจน์ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความงดงาม ของนาฬิกาที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพ และฝีมืออันยอดเยี่ยม จากฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Georges ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

โดยนาฬิกาพกของเขาได้รับเกียรติจัดแสดงในงาน “EXPOSITION UNIVERSELLE ET INTERNATIONALE” รวมถึงในงาน WORLD’S FAIR ณ ประเทศเบลเยียมในปี 1905 และในปี 1906 ที่นาฬิกา DOXA ที่มาพร้อมชุดการป้องกันสนามแม่เหล็กจากการประดิษฐ์ของ Georges ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองจากงาน WORLD’S FAIR ณ มิลานประเทศอิตาลี จนถึงในปี 1907 ที่นวัตกรรมอันมาจากความเฉลียวฉลาด และความสามารถในการปรับแต่งของ Georges ได้ถูกนำมาปรับใช้อย่างชาญฉลาด เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการปฏิวัติยานยนต์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในขณะที่การแข่งขันของรถยนต์กำลังเป็นที่นิยม และมีความต้องการนาฬิกาที่ติดตั้ง บนแผงหน้าปัดที่ต้องแข็งแรง ทนทาน และเชื่อถือได้ พร้อมชุดพลังสำรองลานที่เพียงพอ ที่ Georges ได้ยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับระบบ “8-Day DOXA Caliber” ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถแข่งของ BUGATTI

รวมทั้งกลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา จนต่อเนื่องถึงยุคแห่งนาฬิกาดำน้ำรุ่น SUB ในระดับมืออาชีพที่ออกแบบมา เพื่อการใช้งานเฉพาะทางรวมทั้งเป็นนาฬิการุ่นแรก ที่เข้าถึงได้สำหรับกลุ่มนักดำน้ำในช่วงที่กีฬาชนิดนี้กำลังเติบโต จากคุณสมบัติทางเทคนิคที่นาฬิการุ่น SUB ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Jacques-Yves Cousteau บุคคลผู้ซึ่งเป็นตำนานแห่งนักดำน้ำโลก พร้อมการนำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัยที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้ กลายเป็นมาตรฐานสำหรับนักดำน้ำทั้งทางการทหาร และสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพมาจนถึงทุกวันนี้ จนมาถึงในปี 1964 กับสีส้มอันแสนสดใสที่เป็นอีกหนึ่ง ในการกำเนิดสีสันของหน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์จาก DOXA จนเป็นที่มาของนาฬิกาแบบดำน้ำหน้าปัดสีส้มที่เห็นกันในทุกวันนี้

ในงานเปิดตัว PRÉCIEUX พร้อมกับนาฬิกาแบรนด์อิสระคุณภาพระดับสูงทั้ง 5 แบรนด์ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นสีสันใหม่ในวงการนักสะสมนาฬิกาของเมืองไทยจากการให้ความสนใจในแต่ละแบรนด์เป็นอย่างมากของแขกผู้เข้าร่วมงานในวันนั้น และในอนาคตก็เชื่อว่าทาง PRÉCIEUX ก็พร้อมที่จะนำแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามานำเสนอให้เราได้ชมและรู้จักกันอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

สำหรับท่านใดที่สนใจข้อมูลแบรนด์นาฬิกาทั้ง 5 แบรนด์ หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่
LINE Official @PrecieuxTH คลิ๊ก https://lin.ee/vlVVzOa
FB: PRÉCIEUX – TH https://www.facebook.com/profile.php?id=61579136150557
IG: PrecieuxTH https://www.instagram.com/precieuxth/