TAG HEUER TH-Carbon Hairspring

Last updated: 27 ก.ย. 2568  |  93 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TAG HEUER TH-Carbon Hairspring

TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิส เฉลิมฉลองความกล้าและความแม่นยำที่ถูกออกแบบมาเพื่อชัยชนะ ณ งาน Bangkok Watch Week 2025 ในวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา โดยงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก บรีซ ชาบลิกิน (Brice Tchaplyguine) กรรมการผู้จัดการเอเชียแปซิฟิก  รวมถึงแขกรับเชิญพิเศษอย่าง พีท ทองเจือ และ โรเตอร์ ทองเจือ ที่มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันเรื่องราวแห่งความมุ่งมั่น ความแข็งแกร่ง และแรงบันดาลใจ ผ่านแนวคิด “Designed to Win”

ภายในงาน TAG Heuer ได้นำเสนอจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้นำด้านอาวองการ์ด พร้อมแก่นแท้ของนวัตกรรมและความแม่นยำที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ไฮไลต์ของงานประกอบด้วยนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Split-Second Lime นาฬิกาที่ผสานความคลาสสิกของคอลเลกชัน Monaco กับฟังก์ชัน Split-Second Chronograph พร้อมกับการเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยของ TH-Carbon Hairspring ด้วยนวัตกรรม Carbon Hairspring ที่พัฒนาขึ้นเองโดย TAG Heuer หลังจากการวิจัยและพัฒนากว่า 9 ปี เพื่อเพิ่มความเสถียรและความแม่นยำในการทำงานของกลไกเรือนเวลา รวมถึงการจัดแสดงเรือนเวลาสุดพิเศษทั้ง TAG Heuer Monaco Split-second Lime, TAG Heuer Monaco Flyback Chronograph TH-Carbon Hairspring และ TAG Heuer Carrera Chronograph Tourbillon Extreme Sport TH-Carbon Hairspring ที่สะท้อนถึงอาวองการ์ดและความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมกลไกอันเป็นหัวใจของแบรนด์


ซึ่งนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Split-Second Lime รุ่นพิเศษนี้มาพร้อมตัวเรือนสี่เหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์และหน้าปัดสีเงินคลาสสิก ตัดกับเข็มวินาที Split-Second อันโดดเด่น ทำให้สามารถจับเวลาที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำสูง โดยครั้งนี้นาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Split-Second มาพร้อมวัสดุไทเทเนียมรูปแบบใหม่ นำไปสู่การแสดงออกใหม่ของนวัตกรรมด้านวัสดุ กลไก Calibre 18 ที่ติดตั้ง Split-Second Chronograph ทำงานได้ต่อเนื่องและเสถียรสูง ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความแม่นยำและสมรรถนะสูงในแบบ TAG Heuer

ส่วน TH-Carbonspring ซึ่งคือนวัตกรรม Carbon Hairspring ที่พัฒนาขึ้นเอง และถือเป็นก้าวสำคัญของ TAG Heuer ในการสร้างกลไกเรือนเวลาที่มีความเสถียรสูงและต้านแรงโน้มถ่วงได้ดียิ่งขึ้น หลังการวิจัยและพัฒนากว่า 9 ปี กลไกนี้ถูกนำมาใช้ในนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Flyback Chronograph TH-Carbonspring และ TAG Heuer Carrera Chronograph Tourbillon Extreme Sport TH-Carbonspring ที่ได้นำมาเปิดตัวภายในงานและถือเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีนี้เปิดตัวในประเทศไทย สะท้อนถึง DNA ด้านอาวองการ์ด ของ TAG Heuer อย่างชัดเจน


ซึ่งนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Flyback Chronograph TH-Carbon Hairspring นำเสนอมิติใหม่แห่งการจับเวลา โดยผสานดีไซน์สี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน Monaco เข้ากับฟังก์ชัน Flyback ที่ช่วยให้สามารถรีเซ็ตและเริ่มต้นการจับเวลาใหม่ได้อย่างฉับไว ขณะที่นาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Chronograph Tourbillon Extreme Sport TH-Carbon Hairspring ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสภาวะสุดขั้ว มาพร้อมตัวเรือนทรงสปอร์ตแข็งแกร่งและหน้าปัดที่เปิดเผยกลไกทูร์บิญองอย่างสง่างาม แสดงถึงความเชี่ยวชาญขั้นสูงด้านวิศวกรรมการประดิษฐ์นาฬิกา โดยทั้งสองรุ่นต่างใช้ TH-Carbon Hairspring นวัตกรรมที่ TAG Heuer พัฒนาขึ้นเองยาวนานกว่า 9 ปี เพื่อมอบความเสถียรและความแม่นยำขั้นสูง แม้ในสภาวะที่เต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนและแรงโน้มถ่วง ถ่ายทอดทั้งความล้ำสมัย ความแข็งแกร่ง และจิตวิญญาณแห่งอาวองการ์ดของ TAG Heuer ได้อย่างทรงพลัง



งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก บรีซ ชาบลิกิน (Brice Tchaplyguine) กรรมการผู้จัดการเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ พีท ทองเจือ และโรเตอร์ ทองเจือ ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความเข้มแข็งและแรงบันดาลใจ ผ่านแนวคิด “Designed to Win”

TAG Heuer ในงาน Bangkok Watch Week 2025 ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเฉลิมฉลองนวัตกรรมและกลไกเรือนเวลาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ TAG Heuer ในการพัฒนานวัตกรรมและเชื่อมโยงประสบการณ์สุดพิเศษให้กับ นักสะสม ผู้หลงรักในเรือนเวลา และผู้สนใจในโลกมอเตอร์สปอร์ต


เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดยเอดูอาร์ด ฮอยเออร์ (Edouard Heuer) ณ เทือกเขาจูรา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มธุรกิจลักชัวรีชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองลาโชว์-เดอ-ฟงด์ (La Chaux-de-Fonds) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีโรงงานผลิตทั้งหมด 4 แห่ง พร้อมทีมงานกว่า 1,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.tagheuer.com ในบางประเทศ รวมถึงบูติกกว่า 260 แห่ง และจุดจำหน่ายกว่า 2,300 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทดำเนินงานภายใต้การนำของ อองตวน ปิน (Antoine Pin) CEO ของ TAG Heuer

ตลอดระยะเวลากว่า 165 ปี TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลาในแบบอาวองการ์ดอย่างแท้จริง พร้อมยึดมั่นในนวัตกรรมด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลไก Oscillating Pinion สำหรับนาฬิกาจับเวลาเชิงกลในปี 1887 การเปิดตัว Mikrograph ในปี 1916 การเปิดตัวกลไกโครโนกราฟแบบไขลานอัตโนมัติรุ่นแรกของโลกอย่าง Calibre 11 ในปี 1969 และการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์หรูรุ่นแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชันหลักของแบรนด์ประกอบด้วยสองตระกูลไอคอนิกที่ออกแบบโดย แจ็ค ฮอยเออร์ (Jack Heuer) ได้แก่ TAG Heuer Carrera และ TAG Heuer Monaco เสริมด้วยคอลเลกชันร่วมสมัยอย่าง TAG Heuer Aquaracer, Formula 1, Link และ Connected

TAG Heuer ได้สะท้อนปรัชญาใหม่ “Designed to Win” (สร้างสรรค์สู่ชัยชนะ) อย่างชัดเจน โดยสานต่อมรดกแห่งนวัตกรรมอันกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และสมรรถนะระดับสูง ความร่วมมือและแบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดังของแบรนด์ล้วนสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนในการฝ่าขีดจำกัด และพร้อมส่งมอบผลงานที่ยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลาสำคัญ
 
#DesignedtoWin #TAGHeuerThailand #TAGHeuer #BangkokWatchWeek2025
#SiamParagon #SiamParagonBangkokWatchWeek2025 #LuxuryWatchDestination

www.tagheuer.com @TAGHeuer

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้