Last updated: 10 ต.ค. 2568 | 410 จำนวนผู้เข้าชม |
TAG Heuer และ New Balance ร่วมมือกันสร้างสรรค์ TAG Heuer Connected Calibre E5 40MM x New Balance Edition และรองเท้าวิ่ง TAG Heuer x New Balance FuelCell SC Elite v5 ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ฝึกฝนด้วยความมุ่งมั่นและมีเป้าหมายที่ชัดเจน


TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิส ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ New Balance ผู้นำด้านนวัตกรรมกีฬา ผ่านการสร้างสรรค์นาฬิการุ่น TAG Heuer Connected Calibre E5 40MM x New Balance Edition และรองเท้าวิ่ง FuelCell SuperComp Elite v5 ความร่วมมือนี้ผสานวิสัยทัศน์ด้านประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และความแม่นยำของทั้งสองแบรนด์ นำความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นาฬิกาเข้ากับความเข้าใจการเคลื่อนไหวของนักวิ่งอย่างแม่นยำ
รังสรรค์มาเพื่อทุกการเคลื่อนไหว
ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา TAG Heuer ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของนาฬิกา Connected ให้ก้าวไปไกลยิ่งขึ้น พิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีและศาสตร์การผลิตนาฬิกาสวิสสามารถผสานอยู่ในดีไซน์เดียวอย่างล้ำสมัยและสมบูรณ์แบบ คอลเลกชัน TAG Heuer Connected ไม่ได้ก้าวตามเทคโนโลยีผู้บริโภค แต่ถูกสร้างขึ้นเป็นเครื่องบอกเวลาที่สะท้อนความแม่นยำและความเป็นอาวองการ์ดของ TAG Heuer ออกแบบเพื่อผู้ที่ใส่ใจความแม่นยำและต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้าน แต่ละเจนเนอเรชันต่อยอดจากความเชี่ยวชาญอันลึกซึ้งของแบรนด์ โดยทุกรายละเอียดทั้งดิจิทัลและกลไกได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจในความแม่นยำทุกขั้นตอน
ปัจจุบันด้วยการเปิดตัวเจนเนอเรชันที่ 5 ของนาฬิกา Connected โดย TAG Heuer ได้ยกระดับวิสัยทัศน์ด้านการสร้างสรรค์นาฬิกา Connected ไปสู่ความประณีตและความพิถีพิถันทางเทคนิคขั้นสูงสุด Calibre E5 ขับเคลื่อนด้วย TAG Heuer OS ระบบประสบการณ์ผู้ใช้และอินเทอร์เฟซเฉพาะของแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กรทั้งหมดมอบอินเทอร์เฟซที่คล่องตัวและตอบสนองฉับไว ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ การนำทางทำความเข้าใจง่าย ภาพแสดงผลคมชัด และประสิทธิภาพการทำงานได้รับการปรับแต่งอย่างมีนัยสำคัญเพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ราบรื่นอย่างแท้จริง

เจนเนอเรชันใหม่นี้ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น การจับคู่กับอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ขณะที่ความเข้ากันได้เต็มรูปแบบกับ iOS ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับระบบดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ฟังก์ชันด้านการดูแลสุขภาพของนาฬิกาถูกยกระดับให้ครอบคลุมและชัดเจนมากขึ้น ช่วยให้ผู้สวมใส่ติดตามประสิทธิภาพร่างกายและการฟื้นตัวได้อย่างแม่นยำ ด้วยการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ การบันทึกกิจกรรมแบบเรียลไทม์ และชุดเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความสมดุลและสุขภาพโดยรวมของผู้ใช้ ระบบ GPS แบบคู่ความถี่ ติดตามตำแหน่งได้แม่นยำแม้ในสภาพแวดล้อมท้าทาย ขณะที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานช่วยให้ประสิทธิภาพไม่ลดลงแม้ต้องใช้งานต่อเนื่อง

ด้วย Calibre E5 TAG Heuer มอบประสบการณ์นาฬิกา Connected ที่ผสานความมุ่งมั่นเข้ากับความรู้สึก ถ่ายทอดนวัตกรรมทางเทคนิคควบคู่กับความเชี่ยวชาญอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น รักษาความสม่ำเสมอ และค้นหาจังหวะของตัวเองผ่านการวิ่ง
สองแบรนด์ หนึ่งวิสัยทัศน์
ด้วยความร่วมมือกับ New Balance แบรนด์กีฬาในตำนาน TAG Heuer ได้นำเสนอนาฬิการุ่น TAG Heuer Connected Calibre E5 และ New Balance FuelCell SuperComp Elite v5 สำหรับผู้ที่ถือการวิ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คอลเลกชันนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อผู้ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของเวลา วางแผนทุกระยะด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน และถือการฝึกซ้อมเป็นความมุ่งมั่นประจำวันเพื่อพัฒนาตนเอง
TAG Heuer ให้คุณค่ากับเวลาในทิศทางเดียวกัน — เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และควบคุมได้อย่างแม่นยำด้วยความมุ่งมั่นและวินัย
สำหรับ New Balance การวิ่งก็ไม่ต่างกัน ตลอดกว่าศตวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ได้มอบประสบการณ์การวิ่งให้กับนักวิ่งทุกระดับ ที่วางแผนอย่างพิถีพิถัน ท้าทายตัวเองจนถึงขีดสุด และไม่เคยหยุดนิ่ง การร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากความเคารพในฝีมือ กีฬา
และศักยภาพร่วมกัน พร้อมความเข้าใจว่า ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดจากการกล้าก้าวไปบนเส้นทางของตนเองไม่หวั่นเกรง

เป้าหมายของเราคือการสร้างนาฬิกาที่จับคู่กับรองเท้าอย่างแท้จริง เพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง การร่วมงานกับ New Balance ทำให้เราต้องทบทวนใหม่ว่า นักวิ่งคาดหวังอะไรจากอุปกรณ์ของพวกเขา ทุกการเลือกสรร ตั้งแต่วัสดุ แผนการฝึกฝน ไปจนถึงการออกแบบ ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ที่มองการวิ่งเป็นงานฝีมือ เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่สามารถมอบเครื่องมือที่ไว้วางใจได้ เมื่อถึงเวลาลงมือทำอย่างแท้จริง” กล่าวโดย Antoine Pin, CEO ของ TAG Heuer
“TAG Heuer คือแบรนด์ที่ออกแบบมาเพื่อชัยชนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ฉันมาร่วมงานครั้งนี้ การได้เป็นตัวแทนของแคมเปญใหม่ร่วมกับ New Balance นั้นน่าตื่นเต้นมาก เพราะฉันชื่นชอบสิ่งที่นาฬิกาและรองเท้าคู่นี้มอบให้กับการฝึกซ้อม พวกมันถูกสร้างขึ้นเพื่อนักกีฬาที่ต้องการรับผิดชอบต่อตัวเอง เชื่อมั่นในแผนการฝึกฝน และผลักดันตัวเองให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน” กล่าวโดย Sydney McLaughlin-Levrone แชมป์โอลิมปิกสองสมัย เจ้าของสถิติโลกนักวิ่งข้ามรั้ว และแอมบาสเดอร์ของทั้ง TAG Heuer และ New Balance
งานฝีมือสวิส ผสานจิตวิญญาณนักวิ่ง
TAG Heuer Connected Calibre E5 40MM x New Balance Edition ผสานความแม่นยำแบบสวิสเข้ากับวัฒนธรรมการวิ่งอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกทั้งทันสมัยและเข้าถึงง่าย ตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ผลิตจากไทเทเนียมเกรด 2 เคลือบ DLC สีดำ น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทนต่อการฝึกซ้อมประจำวัน พร้อมให้ความสบายเมื่อสวมใส่ ผิวด้านแบบพ่นทราย มอบความทันสมัย
ดีไซน์สไตล์นักกีฬา ที่ทนรอยขีดข่วนและลดการสะท้อนของแสง พร้อมรับมือทุกสภาพแวดล้อม หน้าปัด มาพร้อมสเกล 0 ถึง 100 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ สามารถซิงก์กับแอปพลิเคชันการฝึกซ้อม ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ชัดเจนต่อผู้วิ่ง โลโก้ New Balance ที่สลักบนฝาหลัง เติมเต็มดีไซน์ด้วยการสื่อถึงความใส่ใจในความแม่นยำและความเป็นเลิศด้านกีฬาของทั้งสองแบรนด์อย่างละเอียดอ่อน

การร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุมไปถึงการพัฒนาการออกแบบสายนาฬิกา วิศวกรของ TAG Heuer ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพื่อนำระบบ Cushion Comfort System ที่จดสิทธิบัตรมาใช้กับสายนาฬิกาเป็นครั้งแรกที่ TAG Heuer ระบบนี้ผสานฐานยางที่ยืดหยุ่นเข้ากับผ้าพิเศษ จากชิ้นวัสดุในรองเท้า ที่มอบทั้งความสบาย ความทนทาน และดีไซน์ที่ทันสมัยอย่างโดดเด่น นอกจากนี้ นาฬิกาทุกเรือนยังมาพร้อมสายนาฬิกาสำรองอีกเส้น ซึ่งเป็นสายที่ทั้งสองแบรนด์ร่วมกันออกแบบ พร้อมประดับด้วยโลโก้ New Balance ปักอยู่บนสาย สายนาฬิกาเส้นนี้ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัยและปรับขนาดได้ตามความต้องการในช่วงการฝึกซ้อมที่เข้มข้นที่สุด
การเลือกสีสันก็ได้รับความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน โทนสีม่วงเข้มได้แรงบันดาลใจจาก English Purple และเข้ากับรองเท้า New Balance FuelCell SuperComp Elite v5 รุ่นที่ร่วมมือกันออกแบบสำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ รองเท้าออกแบบมาสำหรับวันแข่งขัน มอบความทนทานและประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ท้าทายขีดจำกัดตัวเองเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด ดีไซน์สุดเบา มาพร้อมแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์และพื้นกลาง PEBA ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว สนับสนุนผู้วิ่งอย่างเต็มที่ในทุกวินาทีที่สำคัญ

New Balance FuelCell SuperComp Elite v5 มอบความนุ่มสบายและรองรับอย่างสมดุล พร้อมส้นสูง/ปลายเท้าต่างกัน 8 มิลลิเมตร รองเท้าออกแบบด้วยอัปเปอร์ตาข่าย และลิ้นรองเท้าที่ออกแบบเพื่อความสบาย พื้นกลาง FuelCell ตอบสนองแรงก้าวได้อย่างรวดเร็ว ส่วนพื้นยางทนทาน มอบการยึดเกาะที่เหนือชั้น
แต่ละเซ็ตมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบร่วมกัน ประดับด้วยรายละเอียดพิเศษ เช่น ซ็อกไลน์เนอร์ ประดับโลโก้ TAG Heuer เติมเต็มดีไซน์ที่เชื่อมระหว่างข้อมือและเท้าผ่านภาษาภาพเดียวกัน รุ่นพิเศษนี้จะวางจำหน่ายในจำนวนจำกัดทั่วโลก โดยนาฬิกาและรองเท้าจำหน่ายแยกกัน

สนับสนุนทุกก้าวแห่งการเดินทาง
เพื่อเติมเต็มความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ให้กับความร่วมมือนี้ TAG Heuer และ New Balance ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อนำเสนอประสบการณ์การฝึกซ้อมที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนักวิ่งผู้มุ่งมั่น
เมื่อเปิดตัว นาฬิกาจะมาพร้อมแผนการวิ่งแบบเอ็กซ์คลูซีฟจาก New Balance จำนวนหกแบบ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองเป้าหมายที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างพื้นฐานการวิ่งไปจนถึงการพิชิตมาราธอน โปรแกรมต่าง ๆ ได้แก่ First 10K Challenge, 5K to Half Marathon, Half Marathon Strength และอีกมากมาย เพื่อให้มั่นใจว่ามีแผนการฝึกสำหรับทุกเป้าหมาย
การตั้งค่าเริ่มต้นผ่านแอป TAG Heuer Connected ที่นักวิ่งสามารถเลือกแผนการฝึกและรับตารางการฝึกแบบรายสัปดาห์อย่างชัดเจน เมื่อเลือกแผนเรียบร้อย ข้อมูลทั้งหมดจะซิงก์ไปยังนาฬิกา ทำให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมได้โดยไม่จำเป็นต้องพกโทรศัพท์


เมื่อสวมใส่บนข้อมือ ประสบการณ์การใช้งานถูกออกแบบเพื่อความชัดเจนและสร้างแรงจูงใจ เซสชันฝึกซ้อมแบบมีคำแนะนำปรากฏเป็นหน้าจอทีละขั้นตอน พร้อมการอ่านที่ดีขึ้นสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง หน้าจออย่าง Chasing Diamonds ช่วยให้นักวิ่งรักษาโซนความเร็วที่เหมาะสมผ่านสัญญาณภาพ ขณะที่หน้าจอนับถอยหลังให้คำแนะนำง่าย ๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาและระยะทางที่เหลือ ตัวจับเวลาอบอุ่นร่างกาย (Warm-up Timer), ฟีดแบ็กความเร็วเฉลี่ยในการวิ่งด้วยรหัสสี และคำแนะนำเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสตลอดทั้งเซสชัน หลังจากวิ่งทุกครั้ง การออกกำลังกายจะอัปโหลดไปยังแอปโดยอัตโนมัติ เพื่อการติดตามความก้าวหน้าแบบรายสัปดาห์ ช่วยให้นักวิ่งติดตามความก้าวหน้าของตนเองและเห็นพัฒนาการเมื่อเวลาผ่านไป
ดีไซน์สำหรับทุกวินาทีของชีวิต
นอกเหนือจากการฝึกซ้อมแล้ว นาฬิกายังมอบความเป็นเอกลักษณ์ด้วยหน้าปัดพิเศษที่พัฒนาขึ้นสำหรับรุ่นนี้ คอลเลกชันทั้งหมดได้รับการปรับโทนสีใหม่เป็นม่วงและเทา สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของความร่วมมือนี้ หน้าปัดเด่นสามแบบตอบโจทย์ทุกความต้องการ: Casual ให้ความเรียบหรูแบบมินิมอล, Balance มอบแดชบอร์ดข้อมูลครบถ้วนสำหรับนักวิ่ง และ Reskin อัปเดตลุคคลาสสิกด้วยสีสันของความร่วมมือ

แม้ไม่ได้อยู่บนสนามวิ่ง นาฬิการุ่น TAG Heuer Connected Calibre E5 40MM x New Balance Edition ก็ยังคงเป็นนาฬิกา TAG Heuer ที่มาพร้อมเส้นสายอันประณีตและความล้ำสมัยทางเทคนิค เหมาะกับทุกช่วงเวลาในแต่ละวัน
ก้าวไปอย่างตั้งใจในทุกย่างก้าว
TAG Heuer Connected Calibre E5 40MM x New Balance Edition พร้อมรองเท้า New Balance FuelCell SuperComp Elite v5 คือการเชิญชวนนักวิ่งทุกคนก้าวสู่การเริ่มต้น เพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลา ท้าทายขีดจำกัด ฝึกซ้อมอย่างชาญฉลาด และมีสไตล์ในทุกการเคลื่อนไหวตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงเส้นชัย TAG Heuer และ New Balance ชวนให้นักวิ่งทุกระดับตั้งเป้าหมายของตนเอง ทดสอบขีดจำกัด และมีคู่หูที่คอยวัดทุกก้าวด้วยความแม่นยำและมีเป้าหมาย

เพราะสุดท้ายแล้วทุกอย่างเรียบง่าย เพียงรัดเชือกรองเท้า สวมนาฬิกา แล้วทำตามแผนของคุณ นาฬิการุ่น TAG Heuer Connected Calibre E5 40MM x New Balance Edition และรองเท้ารุ่น TAG Heuer x New Balance FuelCell SC Elite v5 ถูกสร้างมาเพื่อไปพร้อมคุณทุกก้าว
เกี่ยวกับ New Balance
New Balance ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มีพันธกิจดังนี้: “เป็นอิสระตั้งแต่ปี 1906 เรามุ่งสร้างพลังให้ผู้คนผ่านกีฬาและงานฝีมือ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชุมชนทั่วโลก” New Balance มีพนักงานประมาณ 10,000 คนทั่วโลก และในปี 2024 มีรายงานยอดขายทั่วโลกที่ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ New Balance เป็นเจ้าของโรงงานผลิตรองเท้ากีฬาจำนวน 5 แห่งในนิวอิงแลนด์ และอีก 1 แห่งที่เมือง Flimby ประเทศสหราชอาณาจักร รองเท้า New Balance MADE U.S. มีมูลค่าภายในประเทศไม่น้อยกว่า 70% และคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของยอดขายในสหรัฐอเมริกาของ New Balance สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ New Balance สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.newbalance.com สำหรับข้อมูลข่าวสารล่าสุด เยี่ยมชมได้ที่: http://newbalance.newsmarket.com
เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดยเอดูอาร์ด ฮอยเออร์ (Edouard Heuer) ณ เทือกเขาจูรา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มธุรกิจลักชัวรีชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองลาโชว์-เดอ-ฟงด์ (La Chaux-de-Fonds) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีโรงงานผลิตทั้งหมด 4 แห่ง พร้อมทีมงานกว่า 1,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.tagheuer.com ในบางประเทศ รวมถึงบูติกกว่า 260 แห่ง และจุดจำหน่ายกว่า 2,300 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทดำเนินงานภายใต้การนำของ อองตวน ปิน (Antoine Pin) CEO ของ TAG Heuer
ตลอดระยะเวลากว่า 165 ปี TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลาในแบบอาวองการ์ดอย่างแท้จริง พร้อมยึดมั่นในนวัตกรรมด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลไก Oscillating Pinion สำหรับนาฬิกาจับเวลาเชิงกลในปี 1887 การเปิดตัว Mikrograph ในปี 1916 การเปิดตัวกลไกโครโนกราฟแบบไขลานอัตโนมัติรุ่นแรกของโลกอย่าง Calibre 11 ในปี 1969 และการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์หรูรุ่นแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชันหลักของแบรนด์ประกอบด้วยสองตระกูลไอคอนิกที่ออกแบบโดย แจ็ค ฮอยเออร์ (Jack Heuer) ได้แก่ TAG Heuer Carrera และ TAG Heuer Monaco เสริมด้วยคอลเลกชันร่วมสมัยอย่าง TAG Heuer Aquaracer, Formula 1, Link และ Connected
TAG Heuer ได้สะท้อนปรัชญาใหม่ “Designed to Win” (เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ) อย่างชัดเจน โดยสานต่อมรดกแห่งนวัตกรรมอันกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และสมรรถนะระดับสูง ความร่วมมือและแบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดังของแบรนด์ล้วนสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนในการฝ่าขีดจำกัด และพร้อมส่งมอบผลงานที่ยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลาสำคัญ
@TAGHeuer #TAGHeuerConnected #TAGHeuer #TAGHeuerThailand