GLASHÜTTE ORIGINAL Senator Meissen

เมื่อศิลปะอันประณีตบรรจบกับความแม่นยำของนาฬิกา ผลลัพธ์คือผลงานที่เหนือกาลเวลา Glashütte Original แบรนด์นาฬิกาชั้นสูงของเยอรมนี ได้ร่วมมือกับ Meissen โรงงานพอร์ซเลนแห่งแรกของยุโรป เพื่อสร้างสรรค์ Senator Meissen นาฬิกาข้อมือรุ่นลิมิเต็ดสามแบบ ที่ไม่เพียงถ่ายทอดความงดงามของพอร์ซเลนลงบนหน้าปัดเท่านั้น แต่ยังรวมความเที่ยงตรงและงานฝีมือเยอรมันเข้าด้วยกันในผลงานชิ้นเดียว

นับเป็นการผสานความเชี่ยวชาญของสองโลก: หนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกากลไก อีกหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะพอร์ซเลน ทั้งสองมีมิตรภาพและความเคารพซึ่งกันและกันมายาวนาน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ไม่ใช่เพียงเวลา แต่ยังเป็นงานศิลปะบนข้อมือ

การพบกันของสองเมืองและสองตำนาน
Glashütte Original และ MEISSEN มีความคล้ายคลึงกันในแง่การรักษามรดกงานฝีมืออันทรงคุณค่า ทั้งสองเป็นผู้สืบทอดศิลปะและเทคนิคที่สั่งสมมายาวนาน ทำให้ชื่อของเมืองต้นกำเนิดกลายเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพและความเที่ยงตรง

ในปี 2025 Glashütte Original เฉลิมฉลอง 180 ปีแห่งการผลิตนาฬิกา Glashütte Original ขณะที่ Meissen ซึ่งเป็นโรงงานพอร์ซเลนยุโรปแห่งแรก ก็มีประวัติยาวนานถึง 315 ปี การร่วมมือครั้งนี้จึงเหมือนการรวมพลังของผู้สร้างสรรค์ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน และนำประสบการณ์ด้านงานออกแบบและเทคนิคมาถ่ายทอดใน สามนาฬิการุ่นพิเศษ

แต่ละเรือนของ Senator Meissen คือผลงานศิลปะขนาดจิ๋ว ตัวเรือนทองแดงแดงขนาด 40 มม. โอบล้อมหน้าปัดพอร์ซเลนที่วาดด้วยมือ หน้าปัดออกแบบให้เรียบง่าย แสดงเฉพาะชั่วโมงและนาที เพื่อให้ความงดงามของลวดลายโดดเด่นที่สุด หน้าปัดพอร์ซเลนแต่ละชิ้นถูกผลิตจากแผ่นบางพิเศษ เผาที่อุณหภูมิ 1,400°C จากนั้นตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นเรียบสมบูรณ์ จากนั้นจึงเริ่มขั้นตอนการวาดลวดลาย ตัวอักษร และตัวเลขโรมันด้วยพู่กันละเอียดหลายชั้น แต่ละชั้นถูกเผาซ้ำที่ 900°C เพื่อให้สีสันลึกและคงทน

Senator Meissen นำเสนอสามแบบหน้าปัดที่แตกต่างกัน แบบแรกกับ Mystic Maison สีเทาบนพื้นขาว สง่างาม และจำกัดเพียง 150 เรือน และดีไซน์เดียวกันแต่ใช้พื้นสีเขียวเซลาดอน อ้างอิงถึงพอร์ซเลนจีนจากศตวรรษที่ 9 จำนวนจำกัด 150 เรือน และแบบคอลลาจจากลวดลาย ‘Dekorwelten’ ของ Meissen เพียง 8 เรือน ลวดลายสัตว์และดอกไม้สีรุ้งบนพื้นเขียวเซลาดอน ถ่ายทอดเป็นฉากเทพนิยายอันน่าหลงใหล ลวดลายแต่ละแบบสะท้อนความละเอียดอ่อนของศิลปะพอร์ซเลน Meissen ทั้งในเรื่องสีสัน การจัดวาง และการสร้างมิติของภาพ ทำให้แต่ละนาฬิกาไม่ใช่เพียงเครื่องบอกเวลา แต่เป็นผลงานศิลปะที่สวมใส่ได้

ใต้หน้าปัดพอร์ซเลนซ่อนกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 36 ของ Glashütte Original ซึ่งผสมผสานความแม่นยำของเครื่องจักรเข้ากับความสะดวกในการใช้งานสมัยใหม่ ขึ้นลานสองทิศทางทำให้การเติมพลังงานได้รวดเร็วขึ้น โดยสำรองพลังงานได้นาน 100 ชั่วโมง สปริงบาลานซ์ซิลิกอนทนต่อสนามแม่เหล็กและความผันผวนของอุณหภูมิ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันหยุดวินาทีเพื่อปรับเวลาได้อย่างแม่นยำเมื่อดึงเม็ดมะยม งานตกแต่งของกลไกเป็นอีกหนึ่งความประณีตที่สอดคล้องกับศิลปะบนหน้าปัดพอร์ซเลน เช่น แผ่นสามส่วนลายริ้วละเอียด, ฝาหลังสลักมือ, โรเตอร์สเกเลตันทองคำ 21 กะรัต พร้อมสัญลักษณ์ Glashütte Original double-G ทุกชิ้นส่วนเล็กๆ ตั้งแต่ขอบมน ฝาหลัง ข้อต่อเหล็ก ไปจนถึงสกรูสีฟ้า ถูกตกแต่งด้วยมืออย่างพิถีพิถัน

Senator Meissen คือการผสานความยอดเยี่ยมของสองโลกเข้าด้วยกัน ทั้งศิลปะและเครื่องจักร กลายเป็นผลงานที่ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังมีคุณค่าเหนือ

เกี่ยวกับ Glashütte Original
Glashütte Original รักษามาตรฐานการผลิตนาฬิกาแบบโรงงานแท้จริงตั้งแต่ปี 1845 ที่เมือง Glashütte ทางแคว้นแซกโซนี ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีทันสมัย ผลิตชิ้นส่วนกลไกและหน้าปัดมากถึง 95% ภายในโรงงานเอง แสดงถึงศิลปะการผลิตนาฬิกาเยอรมันอย่างแท้จริง Glashütte Original นี้ยังคงยึดมั่นในคุณค่าของการผลิตภายในโรงงานและการสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดยั้ง ทำให้นาฬิกา Glashütte Original เป็นสัญลักษณ์ของความแม่นยำ ความสวยงาม และความประณีตที่ยืนยงเหนือเวลา

เกี่ยวกับ Meissen
Meissen (ไมเซิน) โรงงานเครื่องลายครามแห่งแรกของยุโรป ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1710 ที่เมืองไมเซิน รัฐแซกโซนี ประเทศเยอรมนี ภายใต้การอุปถัมภ์ของ พระเจ้าออกัสตุสที่ 2 แห่งแซกโซนี (Augustus the Strong) ผู้ทรงหลงใหลในศิลปะตะวันออกและต้องการสร้างเครื่องลายครามที่เทียบเท่าจีนและญี่ปุ่น

หัวใจสำคัญของความสำเร็จคือการค้นพบ “สูตรลับ” ของเครื่องลายครามเนื้อแข็ง (hard-paste porcelain) โดย Johann Friedrich Böttger และทีมงานของเขา ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ยุโรป ทำให้ Meissen กลายเป็นผู้ผลิตเครื่องลายครามรายแรกในโลกตะวันตก

เครื่องลายคราม Meissen โดดเด่นด้วยคุณภาพสูงสุด งานฝีมือประณีต และลวดลายเพ้นต์มือที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสัญลักษณ์ “ดาบไขว้สีน้ำเงิน” (Blue Crossed Swords) ซึ่งจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และถือเป็นหนึ่งในโลโก้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก