MORITZ GROSSMANN BENU Power Reserve

นวัตกรรมที่เติบโตบนพื้นฐานแห่งจิตวิญญาณดั้งเดิม: โรงงานนาฬิกา Moritz Grossmann เชื่อมั่นว่าคุณค่าสูงสุดคือการหลอมรวมนวัตกรรมสมัยใหม่ เข้ากับหลักการดั้งเดิมที่ผ่านการพิสูจน์ตามกาลเวลา ถ่ายทอดสิ่งนั้นผ่านคุณภาพสูงสุด กลไกอันละเอียดอ่อน และดีไซน์เหนือกาลเวลา แนวทางแห่งความสมบูรณ์แบบนี้ปรากฏให้เห็นจากนาฬิการุ่น BENU Power Reserve ซึ่งถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการพัฒนาอย่างมีหลักการ ผ่านรายละเอียดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อย่าง ประณีตและงดงามในทุกมิติ BENU Power Reserve มีให้เลือกทั้งตัวเรือนโรสโกลด์และไวท์โกลด์ โดดเด่นด้วยเข็มทรง ใหม่ และ การตกแต่งหน้าปัดที่เปี่ยมเสน่ห์เป็นพิเศษ รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในงานช่างนาฬิกาอย่างแท้จริง

หน้าปัดของนาฬิกาคือใบหน้าแห่งตัวตน ความงามของมันดําเนินตามหลักที่สืบทอดผ่านกาลเวลา แม้รูปทรงกลมจะเปิด โอกาสให้นาฬิกาช่างและนักออกแบบได้ตีความศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ตามความสามารถเชิงศิลป์ของพวกเขา การเพิ่มเติมจากการรังสรรค์ที่แตกต่างกันให้กับหน้าปัดทั้งในเชิงพื้นผิวและเฉดสี ล้วนหล่อหลอมให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะของนาฬิกาแต่ละเรือน

คุณลักษณะเหล่านี้เป็นสิ่งที่โรงงาน Moritz Grossmann ให้ความสําคัญเช่นกัน โดยยึดถือคุณค่าในการสร้างสรรค์ หน้าปัดเช่นเดียวกับที่พวกเขาให้ความสําคัญในด้านวิศวกรรม การผลิตและการตกแต่งชิ้นส่วนกลไกที่ผลิตภายใน โรงงาน ซึ่งก็คือ การออกแบบสไตล์คลาสสิก งานฝีมือที่ละเอียดประณีต และการตกแต่งพื้นผิวอย่างละเอียดอ่อน

ลวดลาย Azurage: มุมมองใหม่ของหน้าปัด
รูปลักษณ์ของ BENU Power Reserve ได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่โดยยึดแนวคิดนี้เป็นหลัก นี่เป็นครั้งแรกที่ มาตรวัดพลังงานสํารองแบบเส้นตรงของ Moritz Grossmann ถูกนํามาผสานเข้ากับลวดลาย Azurage ลวดลายวงกลมที่เกิดจากร่องขนาดเล็กละเอียดระดับไมโคร ซึ่งสะท้อนแสงอย่างน่าหลงใหลและงดงามดึงดูดสายตา

ในรุ่น BENU Power Reserve วงแหวนรอบนอกที่ประดับด้วยตัวเลขและหลักชั่วโมงได้รับการตกแต่งด้วย ลาย Azurage โดยวงแหวนนี้ล้อมรอบศูนย์กลางของหน้าปัดที่มีพื้นผิวด้านที่ดูนุ่มนวลและให้ความรู้สึกถึง สัมผัสอันละเอียดอ่อน ผลลัพธ์ของการผสมผสานนี้ยิ่งโดดเด่นด้วยเฉดสีเงินระยับในโทนสีเงินเงา (Argente) ขณะที่โลโก้และสเกลนาทีในโทนเทาเข้มให้ความรู้สึกละเมียดละไม ตัวเลขและหลักชั่วโมงสีน้ําเงินถูกติดตั้ง แบบแยกชิ้นอย่างพิถีพิถัน และจับคู่กับ เข็มสีน้ําเงินที่ผ่านการอบความร้อน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เข็มรูปแบบ ใหม่ได้รับการเปิดตัว เข็มผลิตจากสตีล รังสรรค์ขึ้นภายในโรงงานของ Moritz Grossmann มีลักษณะโค้ง เล็กน้อยและปลายเรียวแหลมอย่างงดงาม หลังจากผ่านขั้นตอนการลบเหลี่ยมเพื่อสร้างความโค้งบนพื้นผิว และการขัดเงาอย่างพิถีพิถัน เข็มจะได้รับการอบด้วยความร้อนตามกรรมวิธีดั้งเดิมจนได้สีน้ําเงินอันเป็นเอกลักษณ์

สัมผัสแห่งกลไก: มาตรวัดพลังงานสํารอง
สําหรับนาฬิกากลไก คําถามสําคัญที่สุดสําหรับผู้สวมใส่คือ กลไกสํารองพลังงานได้นานเท่าไร? โดยเฉพาะในชุดกลไก ไขลาน ที่ผู้ใช้จําเป็นต้องใส่ใจและไขลานให้ทันเวลาด้วยเม็ดมะยม มาตรวัดพลังงานสํารองจึงเป็นองค์ประกอบช่วย อํานวยความสะดวกในการตรวจสอบพลังงานของนาฬิกา และยังเป็นรายละเอียดอันงดงามมี มันเปลี่ยนกลไกให้ กลายเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้จริง และเป็น เครื่องเตือนใจอยู่เสมอว่าบนข้อมือคือผลงานฝีมือชั้นเลิศ

Moritz Grossmann ถ่ายทอดแนวคิดการออกแบบที่เรียบหรูและคลาสสิกของโรงงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านตัว แสดงพลังงานสํารอง ที่มีรูปแบบเป็นเส้นตรงในช่องหน้าต่างขนาดเล็กใต้ตําแหน่ง “12” บนหน้าปัด ที่มีแถบบาร์สีน้ำเงินและขาว ขับเคลื่อนด้วยระบบเฟืองดิฟเฟอเรนเชียล เมื่อกลไกถูกไขลานเต็มที่ แถบจะปรากฏเป็นสีขาวทั้งหมด และเมื่อ กําลังสํารองลดลง แถบสีจะค่อยๆ ปรากฏเพิ่มขึ้นตามลําดับ

ชุดกลไก: คาลิเบอร์ 100.2
ภายในนาฬิกา BENU Power Reserve คือชุดกลไกคาลิเบอร์ 100.2 ที่พัฒนาต่อยอดจากคาลิเบอร์ 100.1 ต้องขอบคุณ ระบบเฟืองดิฟเฟอเรนเชียล ที่ทําให้กลไกนี้มีระบบเสริมสําหรับแสดงพลังงานสํารองกลไกชุดนี้ใช้ระบบไขลานด้วยมือพร้อมปุ่มกดของ Grossmann, คานยึดคอหงส์สมดุล (balance cock) ติดตั้งสกรูปรับ ละเอียดแบบไมโครเมตรของ Grossmann, โมดูลไขลานที่สามารถถอดแยกได้, และบาลานซ์ของ Grossmann ที่ปรับ มวลให้สมดุลที่สุด เพื่อความแม่นยําสูงสุด ฝาหลังที่ผนึกด้วยคริสตัลแซฟไฟร์เผยให้เห็นการทํางานของกลไกที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตละเอียดอ่อน แสดงให้เห็นฝีมือช่างเยอรมันชั้นยอดจากโรงงาน Moritz Grossmann

ตัวเรือนโรสโกลด์หรือไวท์โกลด์ พร้อมสายหนังคุณภาพสูง
BENU Power Reserve มีให้เลือกสองรุ่น ได้แก่ รุ่นตัวเรือนโรสโกลด์ และตัวเรือนไวท์โกลด์ ตัวเรือนที่ออกแบบอย่าง เรียบง่ายนี้สะท้อนแนวทางคลาสสิกของ Moritz Grossmann ได้อย่างชัดเจน พื้นผิวได้รับการปัดด้านอย่างพิถีพิถันให้ เกิดเงาด้านนุ่มนวล รายละเอียดเฉพาะตัว เผยให้เห็นผ่านร่องบนเม็ดมะยม และข้อต่อตัวเรือนที่เรียวบางยึดกับสาย หนังอย่างกลมกลืน สายหนังที่ประกอบให้กับนาฬิการุ่น BENU Power Reserve เป็นสายสีเทาที่ผลิตจากหนังคู (kudu leather) เย็บด้วยด้านสีน้ําเงินที่เข้ากับโทนสีบนหน้าปัด

เกี่ยวกับนาฬิกา Moritz Grossmann:
Moritz Grossmann เกิดที่เมืองเดรสเดนในปี 1826 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในช่างประดิษฐ์นาฬิกา ผู้เปี่ยมวิสัยทัศน์ที่สุดแห่งเยอรมนี เมื่อปี 1854 เพื่อนของเขา Ferdinand Adolph Lange ได้ชักชวนให้ช่าง นาฬิกาหนุ่มผู้เปี่ยมพรสวรรค์ก่อตั้งเวิร์กช็อปทํากลไกของตัวเองขึ้นในเมือง Glashütte นอกจากการสร้าง ธุรกิจเกี่ยวกับนาฬิกาจนเป็นที่ความเคารพเชื่อถือแล้ว Grossmann ยังอุทิศตนให้กับกิจกรรมทางการเมือง และสังคม เขาก่อตั้ง German School of Watchmaking ขึ้นในปี 1878 ทว่าเขากลับเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในปี 1885 หลังจากนั้น โรงงานของเขาจึงต้องปิดตัวลง

จิตวิญญาณแห่งความประณีตตามแบบฉบับของ Grossmann ได้หวนคืนสู่วงการนาฬิกาในปี 2008 เมื่อ Christine Hutter ช่างนาฬิกาผู้ได้รับการฝึกฝนจนชํานาญ ได้ค้นพบแบรนด์เก่าแก่จาก Glashütte นี้และ ดําเนินการจดทะเบียนขึ้นอีกครั้ง เธอนําแรงบันดาลใจและแนวคิดในการฟื้นฟูมรดกของ Grossmann ที่ได้ ค้นพบเมื่อกว่าร้อยปีให้หลังมานําเสนอผ่านเรือนเวลาข้อมือที่เปี่ยมไปด้วยความงาม และเธอยังสามารถโน้ม น้าวนักสะสมนาฬิกาหลายๆ คนให้ร่วมสนับสนุนการปลุกปั้นแบรนด์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2008 เธอก็ก่อตั้งบริษัท Grossmann Uhren GmbH ขึ้นในเมือง Glashütte อย่างเป็นทางการ

ณ Grossmann ช่างนาฬิกาผู้เปี่ยมพรสวรรค์ได้สืบสานงานฝีมือดั้งเดิมโดยไม่ใช้วิธีการลอกเลียนอดีต แต่ เลือกเฉลิมฉลอง Schönstes deutsches Handwerk หรืองานฝีมือแบบเยอรมันที่งดงามที่สุด ผ่าน นวัตกรรม ทักษะฝีมือระดับสูง และการผสมผสานระหว่างเทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิมกับร่วมสมัย และวัสดุที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน

PENDULUM
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 ในฐานะผู้แทนจําหน่ายนาฬิกาหรูแห่งแรกในประเทศไทย และมีบูติกทั้งสิ้น 6 แห่งในปัจจุบัน ซึ่ง ล้วนตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสําคัญๆ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้ Pendulum เป็นตัวแทน จําหน่ายนาฬิกาหรูมากกว่า 30 แบรนด์ ทั้งภายในบูติกของตนเองและช่องทางการจัดจําหน่ายอื่นๆ ตอบโจทย์ความชื่น ชอบชื่นชมที่หลากหลายของคนรักนาฬิกา ความหลากหลายของแบรนด์ชั้นนํานี้เอง ช่วยตอกย้ําความเป็นผู้นําของ Pendulum ในตลาดค้าปลีกนาฬิกาหรูในประเทศไทย

PACIFIC TIME
Pacific Time เป็นผู้จัดจําหน่ายเรือนเวลาหรูและอุปกรณ์เสริมที่มีความเป็นเลิศ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2003 ในฐานะบริษัทใน เครือและมี Cortina Holdings Group เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด Pacific Time เป็นผู้ดูแลและสนับสนุนแบบครบวงจรให้กับ แบรนด์นาฬิกาชั้นนํา รวมไปถึง Singer ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย