Last updated: 15 พ.ย. 2568 | 39 จำนวนผู้เข้าชม |
Audemars Piguet แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Iconic Watch ในงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ด้วยผลงานนาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Selfwinding Perpetual Calendar โดยในปีนี้เมซงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทั้งหมดหกรางวัล ได้แก่ นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Mini Frosted Gold Quartz ในสาขา “Ladies’ Watch” นาฬิกาข้อมือรุ่น Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding Flying Tourbillon ในสาขา “Ladies’ Complication” นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date ในสาขา “Chronograph” นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Perpetual Calendar Openworked ‘150th Anniversary’ ในสาขา “Men’s Complication” นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Selfwinding Perpetual Calendar ในสาขา “Iconic Watch” และ นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph ในสาขา “Sports Watch” รางวัลอันทรงเกียรตินี้ซึ่งมอบโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ถือเป็นการยกย่องความมุ่งมั่นในงานฝีมือและความหลงใหลในศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาที่สืบทอดมากว่า 150 ปีของเมซง

นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Selfwinding Perpetual Calendar ทำจากแซนด์โกลด์ 18 กะรัต ได้รับรางวัล Iconic Watch ในงาน Grand Prix de l’Horlogerie de Genève. © รูปภาพลิขสิทธิ์จาก Audemars Piguet
Iconic Watch Prize
Audemars Piguet รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Iconic Watch จากคณะกรรมการ GPHG สำหรับผลงานนาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Selfwinding Perpetual Calendar เรือนเวลานี้ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ใหม่ 7138 ซึ่งเป็นกลไกนวัตกรรมที่ได้รับการคุ้มครองด้วยสิทธิบัตร 5 ฉบับ ผสานความซับซ้อนทางกลไกเข้ากับความสะดวกสบายสูงสุดในการสวมใส่ ด้วยระบบเม็ดมะยมอัจฉริยะแบบ all-in-one ที่ช่วยให้การปรับตั้งค่าได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติมและลดความเสี่ยงต่อความเสียหาย เป็นการต่อยอดจากนวัตกรรมของคาลิเบอร์ 5133 กลไกใหม่นี้รวมฟังก์ชันปฏิทินถาวรทั้งหมดไว้ในระดับเดียว และแสดงวันที่ที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติแม้ในปีอธิกสุรทิน พร้อมปรับดีไซน์หน้าปัดและวงหน้าปัดย่อยเพื่อเพิ่มความชัดเจน สมดุล และความงดงามเข้าด้วยกัน

นาฬิกาขนาด 41 มิลลิเมตรรุ่นนี้มาพร้อม โทนสีโมโนโครม ตัวเรือนและสายรัดข้อมือผลิตจากแซนด์โกลด์ 18 กะรัตเป็นโลหะผสมที่ผสานทอง ทองแดง และแพลเลเดียม เฉดสีเปลี่ยนไปตามแสงระหว่างไวท์โกลว์และพิ้งค์โกลว์ เสริมด้วยการตกแต่งขัดเงาและขัดด้านบนขอบเอียงมอบความงดงามและมิติ หน้าปัดลาย Grande Tapisserie รวมถึงวงหน้าปัดย่อย และขอบด้านในรังสรรค์ด้วยเทคนิคกรรมวิธีกัลวานิก เพิ่มความลึกและความประณีต เข็มและหลักชั่วโมงเรืองแสงทำจากไวท์โกลว์มอบความหรูหรา ส่วนตัวเลขปฏิทินพิมพ์สีดำช่วยสร้างความคอนทราสต์อย่างเรียบหรู
“การได้รับเกียรติอันทรงคุณค่านี้ในปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบของเราถือเป็นสิทธิพิเศษอย่างยิ่งตลอดระยะเวลา 150 ปี Audemars Piguet ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือซึ่งสืบทอดมาจากระบบ établissage อันเป็นหนึ่งในคุณค่าพื้นฐานที่เรายึดมั่นและหล่อหลอมด้วยความทุ่มเท และเราภูมิใจที่ได้เห็นคุณค่านี้ได้รับการยกย่องผ่านเวที Grand Prix d’Horlogerie de Genève”
อิลาเรีย เรสตา (Ilaria Resta)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Audemars Piguet กล่าว
“The Beat Goes On”
Follow us on #AudemarsPiguet
Facebook https://www.facebook.com/audemarspiguet
Instagram https://www.instagram.com/audemarspiguet
LinkedIn https://www.linkedin.com/company/audemars-piguet
Pinterest https://www.pinterest.com/audemarspiguet/
TikTok https://www.tiktok.com/@audemarspiguet
Twitter https://www.twitter.com/AudemarsPiguet
Line https://www.aplb.ch/Line
WeChat https://www.aplb.ch/WeChat
Weibo https://www.weibo.com/audemarspiguetchina
Youku https://www.youku.com/profile/index/?uid=UNDMwNjcyODQ4
YouTube https://www.youtube.com/c/audemarspiguet
About Audemars Piguet
Audemars Piguet แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาชั้นสูงที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจสืบทอดกันในครอบครัวผู้ก่อตั้งมาจวบจนปัจจุบัน (ตระกูลโอเดอมาร์และตระกูลปิเกต์) นับตั้งแต่ปี 1875 Audemars Piguet ยังคงผลิตเครื่องบอกเวลาที่เมืองเลอ บราซูส์ (Le Brassus) โดยสืบสานฝีมือการทางานของช่างผู้เชี่ยวชาญจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและเทคนิคใหม่ๆ เพื่อขยายขอบเขตความชานาญที่มีอยู่เดิม พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถอันนำไปสู่การก้าวข้ามขีดจากัดที่เคยมีอย่างต่อเนื่อง Audemars Piguet ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาหรูหราแห่งประวัติศาสตร์มากมาย ณ วัลเลย์ เดอ ฌูซ์ (Vallée de Joux) หนึ่งในต้นกำเนิดของศาสตร์การผลิตนาฬิกาข้อมือชั้นน่าใจกลางสวิตเซอร์แลนด์ และสถานที่ซึ่งเผยให้เห็นเอกลักษณ์ความเชี่ยวชาญของคนรุ่นก่อนซึ่งสะท้อนจิตวิญญาณอันก้าวหน้าอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง Audemars Piguet พร้อมแบ่งปันความหลงใหลและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับผู้ที่รักเครื่องบอกเวลาทั่วโลกภายใต้ภาษาแห่งอารมณ์ ผ่านการแลกเปลี่ยนคุณค่าที่หลากหลายในสายงานสร้างสรรค์ที่มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจออกไปยังผู้คนทั่วทุกมุมโลก The Beat Goes On
15 ต.ค. 2568
13 พ.ย. 2568
13 พ.ย. 2568
13 พ.ย. 2568