MAURICE LACROIX

Last updated: 23 พ.ย. 2568  |  24 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MAURICE LACROIX

แบรนด์นาฬิกาหรูเหนือระดับจากสวิสเซอร์แลนด์ มอริส ลาครัวซ์ ได้จัดงานฉลองพิเศษ “Maurice Lacroix 50th Anniversary Celebration ขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของแบรนด์พร้อมกับการแถลงข่าวเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ AIKONIC and 2025 Novelties” ณ ร้าน Riedel Wine Bar & Cellar ชั้น 2 Gaysorn Village โดยในงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก Mr. Stephane Waser (คุณสเตฟาน วาเซอร์) Managing Director of Maurice Lacroix ที่บินตรงจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พร้อมกับคุณชัชวาล เอี่ยมพัฒนาสุข Senior General Manager, Client Management ได้ให้การต้อนรับ และร่วมพูดคุยกับบรรดาแขกวีไอพีคนสำคัญพร้อมกับให้สัมภาษณ์คณะสื่อมวลชนถึงการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยตลอดปี 2025 ด้วยตนเอง โดยการจัดงานได้รับเกียรติจากคุณลิซ่า อลิซาเบธ แช๊ดเลอร์ มาเป็นพิธีกรภายในงาน พร้อมกับนักร้องรับเชิญคุณเมย์ ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา จาก The Voice มาร่วมร้องเพลงสไตล์ Bossa & Light Jazz สร้างบรรยากาศดีๆให้ภายในงานอีกด้วย


จากซ้าย: พิธีกร ลิซ่า อลิซาเบธ แช๊ดเลอร์, คุณชัชวาล เอี่ยมพัฒนาสุข, คุณสเตฟาน วาเซอร์, คุณกาเบรียล บอนเนต์

โดยงานได้เริ่มที่คุณสเตฟาน วาเซอร์ได้กล่าวภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ไว้ว่า “แนวทางของเราตลอด 50 ปีที่ผ่านมาหนึ่งในแนวคิดดั้งเดิมของแบรนด์คือ “ความเป็นเลิศที่เข้าถึงได้” ตั้งแต่นาฬิกาเรือนแรกที่เราทำในปี 1975 ภารกิจของเราก็คือการนำเสนอความเป็นเลิศในงานนาฬิกาและต้องเป็นราคาที่เข้าถึงได้ นี่คือหลักการสำคัญที่ยังคงอยู่มาจนถึงวันนี้ ทุกสิ่งที่เราพัฒนาขึ้นยังคงเป็นงานนาฬิการะดับสูง เรามีโรงงานของเราในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งคุณจะได้พบกับนาฬิกางานฝีมือแบบสวิส มันน่าทึ่งมากกับช่างฝีมือและความประณีตที่เกี่ยวข้องในการสร้างนาฬิกา จนถึงวันนี้นาฬิกาของเราทุกเรือนยังคงประกอบด้วยมือและทุกเรือนพัฒนาด้วยฝีมือ นี่คือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากในอุตสาหกรรมนาฬิกา ที่มีดีไซน์ไอคอนิกเฉพาะตัว ตั้งแต่ปี 1975 เรามีสองคอลเลคชั่นที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Maurice Lacroix และสามารถจดจำได้ทันทีว่าเป็นของแบรนด์เราได้แก่ Masterpiece ซึ่งเป็นนาฬิการะดับสูงที่แสดงถึงงานคราฟต์ชั้นเลิศ และรุ่น AIKON ที่เป็นนาฬิกาเอกลักษณ์ของเรา หรือจะเรียกได้ว่าเป็น Signature Watches ของแบรนด์นั่นเอง” คุณสเตฟานกล่าว


สำหรับคอลเลคชั่นใหม่! ที่น่าจับตาและได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานนี้คือ รุ่น AIKONIC โดยเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของรุ่นที่เป็น Signature Watches ของแบรนด์อย่าง AIKON ซึ่งมีรากฐานการออกแบบมาจากนาฬิการุ่นดังอย่างCalypso มาก่อนและ AIKON เองก็ได้ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักของคนไปทั่วโลก โดยนาฬิการุ่นใหม่ AIKON ที่มีตัว IC เพิ่มเข้ามาจะหมายถึง “Innovative Craftsmanship” หรือความประณีตในงานสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยนาฬิกา AIKONIC มีรุ่นที่น่าสนใจอย่าง AIKONIC Master Triple Retrograde 43 mm. เป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่รวมเอา 'งานฝีมืออันล้ำสมัย' ที่ผสมผสานวัสดุและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเข้ากับระบบคอมพลิเคชั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์หน้าปัดแอนทราไซต์ตกแต่งด้วยการขัดด้านแบบแนวตั้ง โอบล้อมองค์ประกอบแบบสเกเลตันด้วยช่อง 4 ช่อง กลไกอัตโนมัติ ML291 ยังประดับด้วยลวดลาย Côtes de Genève ซึ่งเป็นการตกแต่งแบบคลาสสิกที่ประกอบด้วยเส้นแนวตั้ง ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกาของช่องบนหน้าปัดจะแสดงวินาทีขนาดเล็กอีก 3 ช่องที่เหลือคือตัวบอกเวลาแบบเรโทรเกรด โดยจะแสดงเวลาที่ประเทศบ้านเกิด (GMT) รวมถึงวันและวันที่ นาฬิกา AIKONIC Master Triple Retrograde ผสมผสานลวดลายวงกลมและเส้นแนวตั้ง ในขณะเดียวกันก็นำเสนอส่วนประกอบในระดับต่างๆ ทำให้ช่องแสดงผลมีความลึกจึงช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และอีกรุ่นคือAIKONIC Chronograph Skeleton 43 mm. ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หน้าปัดในแบบสเกเลตันผสมผสานไปกับกลไกโครโนกราฟมีให้เลือกด้วยกันสองสี ทั้งแบบโทนสีเทาดำ และโทนสีฟ้า ส่วนนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงานอย่างคอลเลคชั่นฉลองครบรอบ 50 ปี ที่มีชื่อว่า 1975 Legacy Day-Date Limited Edition 40 mm. จำนวนผลิตเพียง 500 เรือนเท่านั้น ถือว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มาพร้อมหน้าปัดลาย Vagues du Jura แต่ในครั้งนี้ได้เลือกใช้เฉดสี Sapin Green อันโดดเด่น ซึ่งเป็นสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นเฟอร์ (sapin ในภาษาฝรั่งเศส) ที่ประดับรายล้อมอยู่บนเนินเขา Saignelégier หน้าปัดที่อยู่ใต้กระจกแซฟไฟร์ จะดูดซับแสง ช่วยเน้นให้องค์ประกอบที่มีมิติละเอียดอ่อนของฉากสีเขียวชอุ่มดู โดดเด่นยิ่งขึ้น หน้าปัดนาฬิกายังคงไว้ซึ่งความสอดคล้องกับรุ่น 1975 Legacy โดยมีเข็มบอกชั่วโมงและนาทีแบบโดฟิน พร้อมกับหลักชั่วโมงทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ช่องแสดงวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกาและเข็มวินาทีตรงกลาง โดยยังคงมีช่องแสดงวันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกาตามที่ระบุในชื่อ และบนฝาหลังแบบทึบสลักข้อความ ”Limited Edition of 500 pieces” พร้อมด้วยภาพม้าสองตัวยืนอยู่ ท่ามกลางต้นเฟอร์ ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึง ”Franches-Montagnes” อันมีชื่อเสียงของม้าสายพันธุ์พื้นเมืองในแถบนี้ พร้อมสายสเตนเลสสตีล แบบ 5 แถวที่ผสมผสานข้อต่อแบบขัดเงาและแบบด้านเข้าด้วยกัน เป็นอีกครั้งที่นาฬิกาเรือนนี้มีระบบเปลี่ยนสายนาฬิกาแบบง่ายของ มอริส ลาครัวซ์


สำหรับการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวในโอกาสครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ในครั้งนี้ ถือว่าได้รับความสนใจจากแขกผู้มีเกียรติและบรรดาสื่อมวลชนที่มาเข้าร่วมเป็นอย่างมากจากการที่คอลเลคชั่นใหม่ๆ ของแบรนด์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสูงขึ้นไปอีกระดับแต่แฟนคลับก็ยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายตามเจตนาของแบรนด์ เพราะนอกจากรุ่นไฮไลท์ภายในงานแล้วก็ยังมีรุ่นย่อยๆ อื่นๆ ที่น่าสนใจมาให้ชมภายในงานอีกด้วย

สามารถชมและสัมผัสเรือนจริง หรือสอบถามข้อมูลนาฬิกาเพิ่มเติมได้ที่ มอริส ลาครัวซ์ บูติค ชั้น 2 Gaysorn Village 02-853-9742 หรือ LINE Official @MauriceLacroixTH คลิ๊ก https://lin.ee/TYO5J3F        

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้