Last updated: 3 ธ.ค. 2568 | 33 จำนวนผู้เข้าชม |
TAG Heuer และ fragment เดินหน้าต่อยอดแนวคิดสร้างสรรค์ร่วมกันอีกครั้ง ด้วยการกลับมาสู่คอลเลกชัน TAG Heuer Carrera เพื่อถ่ายทอดมรดกของเรือนเวลารุ่นไอคอนิก ผ่านงานออกแบบสไตล์มินิมัลที่เฉียบคมยิ่งขึ้น
TAG Heuer และ fragment กลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งที่สาม สานต่อความร่วมมือที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2018 โดยครั้งนี้ได้ถ่ายทอดแนวคิดร่วมกันผ่านนาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Chronograph x fragment Limited Edition โฉมใหม่ ที่นำเสนอบุคลิกเรียบเท่และมั่นใจในสไตล์กลาสบอกซ์ พร้อมกลิ่นอายการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ ฮิโรชิ ฟูจิวาระ อย่างชัดเจน

ฮิโรชิ ฟูจิวาระ ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลกในฐานะนักบุกเบิกทางวัฒนธรรม และมักถูกขนานนามว่า “Godfather of Streetwear” นำมุมมองที่มากกว่าแฟชั่นมาสู่ความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งมุมมองอันเฉียบคมของนักสะสม และความพิถีพิถันในแบบฉบับของนักออกแบบและความผูกพันลึกซึ้งต่อเครื่องบอกเวลาแบบกลไก ความสัมพันธ์ระหว่างสองแบรนด์จึงเติบโตขึ้นจากความเคารพซึ่งกันและกัน สร้างด้วยสัญชาตญาณในการสร้างสรรค์สิ่งของที่สะท้อนโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ของ fragment และมรดกด้านความแม่นยำ และความเร็วบนสนามแข่ง ของ TAG Heuer
นาฬิกาสองรุ่นแรกจากความร่วมมือระหว่างสองแบรนด์ ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นไอคอน ความสำเร็จนี้สะท้อนชัดเจนถึงการผสมผสานระหว่างสไตล์อันชัดเจนของฟูจิวาระและความประณีตของ TAG Heuer การเปิดตัวรุ่นที่ 3 ในครั้งนี้ ของคอลเลกชัน TAG Heuer Carrera จึงได้รับการตีความใหม่อีกครั้ง
“ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงแก่นแท้ของการออกแบบที่เหนือกาลเวลา” อองตวน ปิน (Antoine Pin) CEO ของ TAG Heuer กล่าว “ฮิโรชิ ฟูจิวาระมีแนวทางในการตีความนาฬิกาเช่นเดียวกับที่เราตีความมรดกของเรา ด้วยความแม่นยำด้วยนวัตกรรม และด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าตัวตนที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องถูกสร้างใหม่ แต่เพียงเผยให้เห็นนาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Chronograph x fragment Limited Edition รุ่นใหม่จึงถือกำเนิดจากวิสัยทัศน์ร่วมนี้ และเรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอให้ผู้ชมได้สัมผัส”
“TAG Heuer Carrera คือผลงานที่เต็มไปด้วยรูปทรงและเรื่องราวพร้อมให้ถ่ายทอด ในการออกแบบรุ่นใหม่ของคอลเลกชันนี้ หน้าที่หลักคือการนำโครงสร้างของนาฬิกาและตัดสินใจทุกรายละเอียดเพื่อรักษาสมดุลอย่างสมบูรณ์ทุกองค์ประกอบได้รับการคัดสรรเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่สมควร และไม่มีสิ่งใดถูกเพิ่มเข้ามาโดยปราศจากเหตุผล” ฮิโรชิ ฟูจิวาระ ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ fragment กล่าว
มรดกอันทรงคุณค่าในมุมมองใหม่
มรดกการออกแบบของ TAG Heuer Carrera ถือเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของแบรนด์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 โดย แจ็ค ฮอยเออร์ ในฐานะโครโนกราฟที่สร้างขึ้นเพื่อนักขับโดยเฉพาะ มุ่งเน้นความแม่นยำและความชัดเจนในการอ่านค่า โดยตั้งชื่อคอลเล็กชันตาม Carrera Panamericana ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันรถยนต์ที่ตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ Motorsport กลายเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์อันประณีตและความเป็นเลิศทางเทคนิคในโลกความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา TAG Heuer Carrera ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยยังคงเจตนารมณ์เดิมไว้ และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โครโนกราฟดีไซน์กลาสบอกซ์ได้มอบมิติใหม่ให้กับคอลเลกชัน TAG Heuer Carrera ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าแปลนโค้ง หน้าแปลนด้านนอกสีขาวที่ตัดกันกับหน้าปัดแบล็คออนแบล็คที่ให้ความลุ่มลึกครบถ้วน เสริมด้วยดิสก์วันที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ซึ่งประทับโลโก้ fragment ระหว่างตัวเลข 1 และ 11 สะท้อนสัญลักษณ์สายฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ fragmentได้อย่างสมบูรณ์แบบ การออกแบบที่สร้างสรรค์นี้ยังคงถ่ายทอดจิตวิญญาณของยุค 1960 พร้อมปรับใช้วัสดุและสัดส่วนสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มความชัดเจน ความลึกและความโดดเด่นบนหน้าปัด
องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เข้าใจว่าเหตุใดฮิโรชิ ฟูจิวาระจึงหลงใหลใน TAG Heuer Carrera ตั้งแต่แรกเริ่ม ความสนใจของเขาที่มีต่อโลกแห่งเรือนเวลานั้นเป็นที่รู้กันดี แต่ความผูกพันของเขากับ TAG Heuer นั้นกลับลึกซึ้งยิ่งกว่า โดยเกิดจากค่านิยมร่วมด้านความเที่ยงตรง การเปลี่ยนแปลงอย่างแนบเนียน และงานออกแบบที่ยึดมั่นในจุดมุ่งหมายอย่างแท้จริง

การร่วมมือครั้งแรกกับ fragment ในปี 2018 ได้หยิบยก TAG Heuer Carrera มาตีความใหม่ ด้วยดีไซน์ที่เรียบเฉียบและกล้าท้าทาย ซึ่งช่วยขยายกรอบนิยามของเรือนเวลารุ่นนี้ในบริบทร่วมสมัย ต่อมาในปี 2020 ความร่วมมือดังกล่าวได้หันไปสู่คอลเลกชัน TAG Heuer Formula 1 พร้อมนำเสนอเอกลักษณ์ในแบบกราฟิกที่ตัดกันอย่างโดดเด่น ทั้งสองรุ่นถ่ายทอดโทนสีดำ–ขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของฟูจิวาระ และต่างกลายเป็นนาฬิกาที่นักสะสมให้การยอมรับอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันการร่วมมือครั้งนี้ได้หวนกลับสู่เอกลักษณ์ดั้งเดิมของแบรนด์ ผ่านนาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Chronograph x fragment Limited Edition ซึ่งเป็นการตีความใหม่บนรากฐานของ TAG Heuer Carrera อีกครั้ง โดยคราวนี้นำเสนอภายใต้โฉมของนาฬิกาโครโนกราฟที่มาพร้อมกับดีไซน์กลาสบอกซ์ ที่สะท้อนยุคใหม่ของคอลเลกชันได้อย่างเด่นชัดและร่วมสมัยยิ่งขึ้น
ความแตกต่างอย่างมีชั้นเชิงและความชัดเจนอันทรงพลัง
บทที่สามของความร่วมมือนี้เผยโฉมนาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Chronograph x fragment Limited Edition ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยการตัดกันระหว่างสีดำและขาวอย่างชัดเจน สะท้อนการตีความอันเป็นเอกลักษณ์ของวิสัยทัศน์การออกแบบของฮิโรชิ ฟูจิวาระ ผ่านโครงสร้างแบบกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดม และตัวเรือนสตีลพร้อมพื้นผิวขัดแต่งสลับกันอย่างประณีต หน้าปัดแบล็คโอพาลินรับแสงอย่างนุ่มนวล สร้างมิติทางสายตาที่ลื่นไหล ตัดกับขอบหน้าแปลนโค้งสีขาวอย่างเป็นระเบียบ เครื่องหมายต่าง ๆ บนหน้าปัด หน้าปัดย่อย และขอบหน้าปัดประดับด้วยสีเงินอย่างประณีต พร้อมสัญลักษณ์สายฟ้า fragment ที่ผสมผสานอย่างลงตัว สื่อถึงบุคลิกเฉพาะตัวของนาฬิกาเรือนนี้เข็มโครโนกราฟชุบโรเดียมอย่างประณีต ขณะที่มาตราส่วนแทคคีมิเตอร์ได้รับการปรับโทนสีใหม่ด้วยสีเทาอ่อนบนขอบหน้าปัดซึ่งเป็นอีกหนึ่งทิศทางการออกแบบอันเฉียบคมโดยฟูจิวาระ รูปทรงของสายนาฬิกาหวนคืนสู่เส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบ “beads-of-rice” เจ็ดแถวของ TAG Heuer ซึ่งได้นำกลับมาใช้เมื่อต้นปีนี้ถูกปรับโฉมใหม่ด้วย PVD สีดำบนตัวข้อกลาง เพื่อสะท้อนโทนสีที่ตัดกันบนตัวสายอย่างลงตัว
นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก TH20-00 มาพร้อมพลังงานสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง และได้รับการรับประกันเพิ่มเติม 5 ปี สิ่งที่ทำให้ TAG Heuer Carrera รุ่นนี้โดดเด่นยิ่งขึ้นคือการปรับแต่งกลไกเฉพาะตัว โรเตอร์รูปโล่ประดับกราฟิกสีดำ ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของ TAG Heuer ผ่านภาษาออกแบบของ ฮิโรชิ ฟูจิวาระ นอกจากนี้ โลโก้ fragment ยังพิมพ์ลงบนกระจกคริสตัลแซฟไฟร์โดยตรง เติมเต็มสัมผัสการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สถาปัตยกรรมกลไกได้รับการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้การทำงานของโครโนกราฟราบรื่น ขณะที่ระบบไขลานอัตโนมัติแบบสองทิศทางช่วยให้พลังงานไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ

บริเวณขอบฝาหลังประดับสลักลาย ‘Victory Wreath’ อันเป็นสัญลักษณ์ที่ย้อนรำลึกถึงยุครุ่งเรืองของการแข่งขัน Formula 1® โดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมเนียมของแจ็ก ฮอยเออร์ ที่เคยมอบนาฬิกาทองคำให้แก่เหล่านักขับผู้มีพรสวรรค์และคว้าชัยชนะ ซึ่งถูกมองว่าเป็นเครื่องรางแห่งความโชคดีทำให้ลวดลาย Victory Wreath กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จนั้นในเวลาต่อมาบรรจุภัณฑ์ได้รับการพัฒนาเพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ด้านการออกแบบของนาฬิกา โลโก้ TAG Heuer และ fragment ปรากฏเด่นชัดในโทนสีดำ-ขาวที่ตัดกันอย่างลงตัว นาฬิกาถูกจัดวางในกล่องสีดำเรียบหรู พร้อมซองหนังนูนสีดำที่สะท้อนทั้งความประณีตและอัตลักษณ์ของแบรนด์ในทุกรายละเอียด
ชิ้นงานอันทรงคุณค่าของนักสะสม
นาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Chronograph x fragment Limited Edition ถูกผลิตจำนวนจำกัด 500 เรือน โดยแต่ละเรือนมีหมายเลขประจำตัวเฉพาะ สะท้อนถึงการผสมผสานอย่างแท้จริงระหว่างสองวัฒนธรรม คือศาสตร์การผลิตนาฬิกาสวิสและจิตวิญญาณความคิดสร้างสรรค์แบบญี่ปุ่น
เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดยเอดูอาร์ด ฮอยเออร์ (Edouard Heuer) ณ เทือกเขาจูรา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มธุรกิจลักชัวรีชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองลาโชว์-เดอ-ฟงด์ (La Chaux-de-Fonds) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีโรงงานผลิตทั้งหมด 4 แห่ง พร้อมทีมงานกว่า 1,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.tagheuer.com ในบางประเทศ รวมถึงบูติกกว่า 260 แห่ง และจุดจำหน่ายกว่า 2,300 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทดำเนินงานภายใต้การนำของ อองตวน ปิน (Antoine Pin) CEO ของ TAG Heuer
ตลอดระยะเวลากว่า 165 ปี TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลาในแบบอาวองการ์ดอย่างแท้จริง พร้อมยึดมั่นในนวัตกรรมด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลไก Oscillating Pinion สำหรับนาฬิกาจับเวลาเชิงกลในปี 1887 การเปิดตัว Mikrograph ในปี 1916 การเปิดตัวกลไกโครโนกราฟแบบไขลานอัตโนมัติรุ่นแรกของโลกอย่าง Calibre 11 ในปี 1969 และการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์หรูรุ่นแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชันหลักของแบรนด์ประกอบด้วยสองตระกูลไอคอนิกที่ออกแบบโดย แจ็ค ฮอยเออร์ (Jack Heuer) ได้แก่ TAG Heuer Carrera และ TAG Heuer Monaco เสริมด้วยคอลเลกชันร่วมสมัยอย่าง TAG Heuer Aquaracer, Formula 1, Link และ Connected
TAG Heuer ได้สะท้อนปรัชญาใหม่ “Designed to Win” (เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ) อย่างชัดเจน โดยสานต่อมรดกแห่งนวัตกรรมอันกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และสมรรถนะระดับสูง ความร่วมมือและแบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดังของแบรนด์ล้วนสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนในการฝ่าขีดจำกัด และพร้อมส่งมอบผลงานที่ยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลาสำคัญ
3 ธ.ค. 2568
3 ธ.ค. 2568
3 ธ.ค. 2568
3 ธ.ค. 2568