Last updated: 4 ธ.ค. 2568 | 338 จำนวนผู้เข้าชม |
มีบางวันในรอบปีที่เวลาเหมือนจะชะลอจังหวะ—ไม่ใช่เพื่อให้เราวัดมัน แต่เพื่อให้เราตระหนักถึงคุณค่าของมันอย่างลึกซึ้ง วันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปีคือวันที่เช่นนั้น สำหรับ Parmigiani Fleurier มันคือวันที่บ้านเรือนนี้ไม่เฉลิมฉลองด้วยพิธีการ ไม่ใช้คำปราศรัย แต่เลือกใช้ “การสร้างสรรค์” เป็นคำอวยพรแด่ผู้ก่อตั้ง—Michel Parmigiani—ชายผู้ศรัทธาว่าเวลาไม่ใช่มาตรวัด หากเป็นสสารที่มีชีวิต ต้องก่อร่างขึ้นด้วยความกลมกลืน ความอดทน และสัดส่วนที่งดงามอย่างเป็นธรรมชาติ
และในปีที่ Michel ก้าวสู่ วัย 75 ปี ผลงาน Objet d’Art ที่เผยโฉมขึ้นเพื่อเป็นคำอวยพรเงียบงัน แต่กังวานที่สุด คือ La Ravenale – The Most Delicate Minute Repeater นาฬิกาพกแบบ Lépine ที่เหมือนบทกวีแห่งเวลา เป็นหนึ่งเดียวในโลก และเป็นหนึ่งในผลงานที่งดงามที่สุดเท่าที่ Maison เคยสร้างสรรค์มา

Michel Parmigiani เติบโตในสวิตเซอร์แลนด์ช่วงยุคที่อุตสาหกรรมนาฬิกาเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากกระแสนาฬิกาควอตซ์ เขาเป็นหนึ่งในคนหนุ่มที่เลือกเดินเส้นทางที่แทบไม่มีใครเชื่อว่าจะรอด เส้นทางของการบูรณะนาฬิกาเก่า ศิลปะแห่งความอดทนที่ต้องทำงานกับผลงานระดับประวัติศาสตร์ทีละชิ้น การบูรณะทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับความคิดของช่างในอดีต ได้เข้าใจว่าความงามของกลไกไม่ได้มาจากความเร็วหรือจำนวนฟังก์ชัน แต่มาจากความ “พอดี” ของทุกองค์ประกอบ ความลงตัวที่ไม่มีสิ่งใดมากหรือน้อยเกินไป จากรากฐานตรงนั้น เขาก่อตั้ง Parmigiani Fleurier ในปี 1996 เพื่อสร้างนาฬิกาที่ไม่เพียงบอกเวลา แต่เป็นการตีความเวลาในเชิงงานศิลป์ ผลงานของ Michel จึงมักเต็มไปด้วยความสงบ ความลึก และความซื่อสัตย์ต่อศาสตร์ดั้งเดิมในทุกสัมผัส
La Ravenale Minute Repeater คือบทสนทนาตรงนั้น เสมือน Michel ถ่ายทอดจิตวิญญาณของทั้งชีวิตผ่านวัตถุชิ้นเดียว นาฬิกาพกแบบ Lépine เรือนนี้ถูกสร้างขึ้นบนจังหวะที่ไม่รีบร้อน มันเริ่มต้นจากแก่นแท้: กลไก Minute Repeater จากยุคทศวรรษ 1920 ที่ถูกค้นพบจากเวิร์กช็อปของ Ed. Koehn หนึ่งในช่างผู้เปี่ยมฝีมือที่สุดของเจนีวายุคนั้น ผู้ซึ่งผลิตกลไกซับซ้อนให้แบรนด์ชั้นสูงหลายรายโดยไม่ปรากฏนาม การนำกลไกโบราณแบบนี้กลับมาฟื้นชีวิตต้องอาศัยความละเอียดอ่อนเกินกว่าการสร้างกลไกใหม่ เพราะต้องรักษาเอกลักษณ์เดิมทุกจุด องศาของค้อนตี ความตึงของลาน เสียงกังวานของระฆังที่มีโทนเฉพาะตัว แต่ต้องทำให้มันทำงานได้อย่างเสถียรในมาตรฐานร่วมสมัย นี่ไม่ใช่การทำซ้ำอดีต หากเป็นการฟื้นคืนลมหายใจให้ผลงานที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์เมื่อกว่าศตวรรษก่อน

Minute Repeater ของ La Ravenale จึงไม่ใช่เพียงฟังก์ชันตีบอกเวลา แต่มันคือเสียงของประวัติศาสตร์ที่ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง เสียงตีมีความใสและหนักแน่นแบบที่หาไม่ได้จากกลไกยุคใหม่ ความกังวานที่ค่อยๆ ตกกระทบอากาศเหมือนเสียงสายลมลอดผ่านประตูไม้เก่า ทำให้ผู้ได้ยินรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ในกลไกนี้ ความไม่สมบูรณ์แบบเล็กๆ ที่งดงามยิ่งกว่า
เมื่อเราเลื่อนสายตาจากกลไกมาสู่พื้นผิว ความงดงามของเรือนทองคำขาวยิ่งเผยตัวอย่างชัดเจน La Ravenale ถูกออกแบบด้วย double back เปิดให้เห็นงานตกแต่งระดับมาสเตอร์พีซ การประดับแบบตัดต่อชิ้นงานของเทคนิค marquetry ด้วยโอปอลและหยก เทคนิคนี้เป็นหนึ่งในความท้าทายที่สุด เพราะทั้งโอปอลและหยกต่างเป็นวัสดุที่แตกง่ายอย่างเหลือเชื่อ ช่างต้องตัดด้วยแรงที่พอดี วางให้เข้ารูปด้วยความแม่นยำระดับเส้นผม เพื่อสร้างลวดลายเรขาคณิตที่เหมือนดอกไม้กลายพันธุ์บนผิวโลหะ โอปอลทำหน้าที่เป็นแสง—เปลี่ยนสีไปตามมุมมอง ขณะที่หยกเป็นเงา นิ่ง ทึบ และให้ความลึกที่สงบกว่า ทั้งสองประสานกันจนเกิดมิติที่เหมือนงานกระจกสีระดับสูง แต่มีโทนสีที่อ่อนโยนและเป็นธรรมชาติกว่าอย่างชัดเจน
เส้นโลหะที่ล้อมรอบลวดลายคือ white-gold filigree งานตกแต่งด้วยเส้นโลหะทองคำขาวที่ถูกขึ้นรูปเป็นลวดลายละเอียดซับซ้อน ซึ่งไม่ใช่เพียงการแกะสลักผิว แต่เป็นโครงโลหะจริงที่ถูกขึ้นรูปทีละเส้น การสร้างเส้นที่คมและสะอาดเช่นนี้ต้องใช้ทักษะที่มีความเหมือนงานสถาปัตยกรรมย่อส่วนมากกว่างานประดับนาฬิกา จึงให้ทั้งความแข็งแรงและความคมชัด เป็นโครงสร้างที่ทำให้ลวดลายทั้งหมดเหมือนกำลังลอยอยู่บนเรือนทองคำขาวอย่างสง่างาม

เมื่อเปิดสู่ด้านหน้าปัด เราพบกับการตีความร่วมสมัยอย่างงดงาม—สีน้ำเงินเข้มลึกจากการเคลือบแบบ calibrated PVD การเคลือบผิวในสภาวะสุญญากาศนี้วางชั้นสีบางเฉียบลงบนโลหะจนเกิดเฉดสีที่มีความลึกเปรียบเหมือนผิวน้ำในคืนมืดสนิท สีนี้ให้ความรู้สึกนิ่ง ลุ่มลึก แต่ไม่ดูเย็นชา ประกอบกับลายเส้นของสเกลเวลาอย่างพอดีเหมือนท้องฟ้าที่รับแสงสุดท้ายก่อนค่ำ ความร่วมสมัยนี้ไม่ได้แทรกแซงงานศิลป์ดั้งเดิม แต่ทำหน้าที่เติมมิติให้ผลงานดูเป็นวัตถุแห่งยุคปัจจุบันอย่างสง่างาม
แม้แต่โซ่นาฬิกาก็ไม่ใช่ส่วนประกอบที่ถูกเลือกอย่างรีบร้อน ข้อโซ่แต่ละชิ้นถูกปรับสัดส่วนให้สอดคล้องกับตัวเรือน ขัดเงาแบบ mirror ที่ให้แสงสะท้อนนุ่ม ไม่แยงสายตา ตัวคลิปและเม็ดมะยมถูกออกแบบให้เข้าคู่กันอย่างลงตัว ไม่มีส่วนใดโดดเดี่ยว ทุกองค์ประกอบคือบทหนึ่งในบทกวีเดียวกัน
La Ravenale Minute Repeater จึงไม่ใช่นาฬิกา หากเป็นวัตถุศิลป์ที่รวบรวมทุกความเชื่อของ Michel Parmigiani ในปีที่เขาก้าวสู่ วัย 75 ปี ความเชื่อว่าความงามต้องเกิดจากความพอดี ความเคารพต่ออดีต และการให้เวลาเป็นผู้กำหนดจังหวะ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์พยายามเร่งรัดหรือควบคุม
ในที่สุด ผลงานชิ้นนี้คือคำอวยพรเงียบๆ ที่เปี่ยมความหมายที่สุด—การมอบชีวิตครั้งใหม่ให้กลไกอายุร้อยปี การหลอมรวมศิลป์โบราณและเทคนิคสมัยใหม่อย่างสงบงาม และการย้ำว่าความงามแท้จริงยังคงเกิดขึ้นจากมือมนุษย์เสมอ
Happy Birthday, Michel.
ให้เสียงตีบอกเวลาของนาฬิกาเรือนนี้ดังกังวานต่อไป เพื่อยืนยันว่าวันเวลาที่ผ่านไป ไม่เคยทำให้ความงามของงานหัตถศิลป์ลดน้อยลงเลย
#ParmigianiFleurier #TimeIsFlying
3 ธ.ค. 2568
4 ธ.ค. 2568
3 ธ.ค. 2568
4 ธ.ค. 2568