DOXA SUB 250T GMT Great White Topper Edition

ในจังหวะเดียวกับแรงสั่นสะเทือนของคลื่นปี 2024 ที่ส่งให้ DOXA Great White รุ่นคอลแลบพิเศษกลายเป็นดาวเด่นบนข้อมือนักสะสมทั่วโลก Topper Jewelers ผู้ค้าปลีกนาฬิกาหรูแห่งเบอร์ลิงเกม กลับมาปล่อยของอีกครั้งในปีถัดมา พร้อมนาฬิกาที่อาบด้วยเฉด “Great White” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Topper เท่านั้น

นี่คือ DOXA SUB 250T GMT ‘Great White’ Topper Edition งานสร้างสรรค์ในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น ที่หวนเล่าเรื่องราวของฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่แห่ง Gulf of the Farallones ในแคลิฟอร์เนียเหนือ สัตว์นักล่าผู้เฉียบคมราวใบมีดแห่งท้องทะเล และแรงบันดาลใจที่ถูกตีความอย่างสงบนิ่งแต่เฉียบคมลงสู่นาฬิกาเรือนนี้

พื้นที่อ่าวแห่งนี้มีหมู่เกาะฟารัลลอน กลุ่มเกาะหินและสันเขาทะเลที่ลึกลับ เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและตำนานทางทะเล หากมองจากชายฝั่งด้านตะวันตกของซานฟรานซิสโก คุณจะเห็นเงาเลือนรางของสันเขาหินที่ชาวเรือเรียกว่า “Devil’s Teeth” เพราะรูปทรงแหลมคมอันดุดันของมัน หมู่เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยนกทะเล สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล และประชากรฉลามขาวที่อุดมสมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง นาฬิกา DOXA SUB 250T GMT รุ่นนี้ ซึ่งพร้อมสำหรับการผจญภัย จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีผู้กล้าที่ออกเดินทางสำรวจชายฝั่งห่างไกลเหล่านี้ หน้าตาเฉดสีขาวและน้ำเงินของนาฬิกา ได้รับการถ่ายทอดมาจากธรรมเนียมของ Topper Editions รุ่นก่อนๆ โดยสื่อถึงสีน้ำเงินเข้มของมหาสมุทรแปซิฟิก และสีขาวของเหล่าฉลามขาวผู้ครองน่านน้ำอันกว้างใหญ่ นอกจากนี้ยังมีลวดลายพิเศษบนฝาหลังที่สลักภาพบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโกสัมพันธ์กับตำแหน่งของ Gulf of the Farallones อย่างประณีต และเช่นเดียวกับรุ่นก่อนในปี 2024 หน้าปัดแบบคอนทราสต์สูงของรุ่นนี้ยังคงเปล่งแสงสีน้ำเงินสว่างเต็มพื้นที่เมื่ออยู่ในที่แสงน้อย

DOXA SUB 250T GMT รุ่น Great White นี้ถูกสร้างบนแพลตฟอร์มเดียวกับ SUB 250T GMT ที่เปิดตัวในงาน Geneva Watch Week 2025 ตัวเรือนกะทัดรัดขนาด 40.0 มิลลิเมตร แต่เปี่ยมด้วยความสามารถ โดยขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติที่รองรับการแสดงเวลาแบบสองไทม์โซน นอกจากนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของดีไซน์ Great White ปี 2024 ด้วยการออกแบบแบบไร้ช่องวันที่ เพื่อรักษาความไม่สมมาตรอันเป็นเอกลักษณ์ของหน้าปัด SUB และคงความงามของแสงเรืองในความมืด ขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ DOXA ยังคงอยู่ พร้อมขอบเซาะร่องลึกและสเกลสลักคู่สำหรับจับเวลาการดำน้ำและคำนวณเวลาพักน้ำตามตารางดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ การสลักเหล่านี้ถูกลงสีด้วยแลคเกอร์น้ำเงินเข้มให้เข้ากับหลักชั่วโมงบนหน้าปัด นาฬิกามาพร้อมกระจกแซฟไฟร์ทรงแบนเคลือบสารกันแสงสะท้อน ออกแบบให้คารวะต่อนาฬิกา DOXA รุ่นต้นกำเนิดในปี 1968

เช่นเดียวกับที่ผ่านมา Topper จะบริจาคส่วนหนึ่งของรายได้จากการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้ให้แก่ Greater Farallones Association องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่อุทิศตนดำเนินงานสำคัญเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างถิ่นที่อยู่ของสัตว์บริเวณชายฝั่ง รวมถึงการปกป้องชีวิตสัตว์ทะเลต่าง ๆ ภายในพื้นที่ Greater Farallones National Marine Sanctuary เขตคุ้มครองทางทะเลที่มีพื้นที่กว่า 3,295 ตารางไมล์ น่านน้ำของเขตคุ้มครองแห่งนี้เป็นหนึ่งในระบบนิเวศทางทะเลซึ่งมีความสำคัญระดับประเทศ และถือเป็นหนึ่งในระบบที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ทั้งเหนือผิวน้ำและใต้น้ำ รวมถึงเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่อยู่ในภาวะถูกคุกคาม

SUB 250T GMT ‘Great White’ Topper Edition มาพร้อมสายสเตนเลสสตีลแบบ “beads of rice” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ DOXA พร้อมตัวล็อกที่สามารถขยายได้เพื่อสวมทับชุดดำน้ำได้อย่างสะดวก ภายในชุดกล่องพิเศษยังประกอบด้วยสายยาง FKM สีกรมท่าแบบอินทิเกรตที่มาพร้อมบานพับสเตนเลสสตีลของ DOXA เพื่อเพิ่มทางเลือกในการสวมใส่

เกี่ยวกับ Topper Jewelers
ร้านค้าปลีกที่ตั้งอยู่ใจกลาง Silicon Valley ดำเนินกิจการโดยครอบครัวมาแล้วกว่า 3 รุ่นในเมืองเบอร์ลิงเกม รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์นาฬิกาหรูสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีจากสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และญี่ปุ่น อาทิ Grand Seiko, H. Moser & Cie, Glashütte Original, OMEGA, Blancpain, Breitling, Zenith, Longines, DOXA และ Oris รวมถึงแบรนด์อิสระชั้นเยี่ยมอย่าง Parmigiani Fleurier, Czapek & Cie และ Armin Strom

เกี่ยวกับ DOXA
DOXA Watches ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Le Locle แหล่งกำเนิดงานนาฬิกาสวิส ด้วยประสบการณ์ยาวนานตั้งแต่ปี 1889 แบรนด์ผสานทั้งขนบธรรมเนียมและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในหมุดหมายสำคัญของแบรนด์คือการเปิดตัวนาฬิกาดำน้ำสำหรับสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 1967 ซึ่งมาพร้อมขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวเพื่อคำนวณเวลาพักน้ำ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญด้านความปลอดภัยของนักดำน้ำ นาฬิกา DOXA SUB ได้กลายเป็นไอคอนที่จดจำได้ง่ายด้วยหน้าปัดสีส้มโดดเด่น และวันนี้ DOXA ยังคงยึดมั่นหลักการที่สืบทอดมากว่า 130 ปี นั่นคือการสร้างสรรค์นาฬิกาคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้