LEDERER CIC 39 RACING GREEN

วิสัยทัศน์อันเป็นที่ยอมรับชื่นชม ผ่านผลงาน CIC 39 มม.
CIC 39 มม. ก้าวสู่เวทีประกาศผลรางวัล Louis Vuitton Watch Prize ในฐานะผู้เข้ารอบ สุดท้าย นี่คืออีกหนึ่งก้าวสําคัญของการเดินทาง ที่สะท้อนปรัชญาแห่งการสร้างสรรค์ของ Bemhard Lederer วันที่ 16 ธันวาคม CIC 39 มม. Racing Green ได้รับการประกาศชื่อ เป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายเพื่อชิงรางวัล Louis Vuitton Watch Prize ไม่เพียงเพราะโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่สะดุดตา หากแต่ยังเพราะวิสัยทัศน์ลึกซึ้งที่หล่อหลอมให้เกิดเรือนเวลานี้ เอกสารชุดนี้จึงถูกจัดทําขึ้นเพื่อบอกเล่าและแบ่งปัน วิสัยทัศน์ที่ว่าด้วยเรื่อง

การเดินทางของนักสร้างสรรค์นาฬิกาเพื่อค้นหาความจริงเชิงกลไก ความจริงใจ ความเชื่อมั่นว่าอนาคตของศาสตร์แห่งเรือนเวลาไม่ได้อยู่ที่การตกแต่งและหากแต่เป็นความหมายที่แท้จริง CIC 39 มม. จึงถือกําเนิดขึ้นในฐานะเรือนเวลาที่ผลักดันวงการให้ ก้าวไปข้างหน้าด้วยแก่นแท้, นิ่งสงบ ลึกซึ้ง และเปี่ยมด้วยความเคารพต่อเวลาที่ดําเนินไป

“การสร้างสรรค์นาฬิกาเรื่องใดก็ตามที่ยังมีโจทย์ค้างคา เราจะมุ่งหน้าไปหาคําตอบ"

ความจริงที่ยังไม่ถูกคลี่คลาย
กลายเป็นภารกิจค้นคว้าแสวงหาไปตลอดชีวิต
เรื่องราวของ CIC 39 มม. เริ่มต้นจากปริศนาที่ค้างคาม คามานับศตวรรษ นนคอ เปราะบางของกลไก detent escapement กลไกที่ได้รับการยกย่องว่ามีประสิทธิภาพสูง แต่กลับค่อนข้างเปราะบางและไม่เสถียรเมื่อทํางานในแอมพลิจูดต่ํา จึงกลายเป็นหนึ่งใน โจทย์ที่ทั้งเย้ายวนชวนค้นคว้าและยากจะไขความลับของศาสตร์แห่งเรือนเวลา Abraham-Louis Breguet เคยทดลองกับโจทย์นี้มาแล้ว George Daniels ก็เคยเดินทางสํารวจเส้นทางนี้เช่นกันเกิดขึ้นนับจากนั้นไม่ใช่เพียงการพัฒนาแต่คือการเดินทางอันยาวนานหลายปีแห่งการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า การคํานวณใหม่ไม่รู้จบ ความสงสัยหลายต่อและความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ ทุกคําตอบที่ดูเหมือนจะใกล้เข้ามากลับสลายไป แต่ทุกความล้มเหลว กลับทิ้งไว้ซึ่งความจริง เบาะแส และเศษเสี้ยวแห่งความเข้าใจ ความก้าวหน้าจึงเป็น เส้นทางที่ยากลําบากและเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง แต่ไม่เคยถูกลืมเลือนและทอดทิ้งแม้ชั่วขณะ

จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อ Bernhard Lederer ตระหนักว่าการปรับแต่งเพียงอย่างเดียวไม่ อาจแก้โจทย์ ได้ ค่าตอบคือต้องอาศัยการประดิษฐ์สิ่งใหม่ตั้งแต่ต้น ด้วยสองชุดเฟือง อิสระที่แต่ละชุดขับเคลื่อนด้วยกลไก constant-force ควบคุมความเสถียรของการจ่าย พลังงานของตนเอง และชุดเอสเคปวีลคู่ที่ผลัดกันส่งแรงกระ ระตุ้นด้วยจังหวะที่เที่ยงตรง CIC 39 มม. จึงถือกําเนิดขึ้นในฐานะเรือนเวลาที่สะท้อนคํามั่นนี้ ไม่ใช่การเลียนแบบ ขนบประเพณี แต่คือการต่อยอดและขยายนิยามของสิ่งที่มี เป็นผลงานที่พิสูจน์ว่า นวัตกรรมมีคุณค่าเมื่อมันน่าไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

“ผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวหรือสังคมวงการนาฬิกาหรอกครับ แต่
ความสงสัยใคร่รู้เป็นสิ่งที่ดึงดูดผมเข้ามา และทุกความผิดพลาดได้
กลายเป็นครูที่สอนให้ผมเชี่ยวชาญในศาสตร์นี้"

ปรัชญา กล้าท้าทาย 
ให้ทาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
สําหรับ Bernhard Lederer แล้วนาฬิกาไม่ใช่วัตถุ หากแต่เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความคิดและวิสัยทัศน์ ความท้าทายของเส้นทางที่เขาเลือกเดิน แม้จะเป็นเส้นทางที่ไม่มีใครกล้าไปถึง ผลงานของเขาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการชื่นชมเพียงผิวเผิน แต่เพื่อให้ผู้คนได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทุกชิ้นส่วน ทุกเส้นโค้งของสถาปัตยกรรม ทุกแรงที่เคลื่อนไหว ล้วนสะท้อนความเชื่อว่าวงการ นาฬิกายังมีพื้นที่ให้ค้นพบ และอนาคตจะเป็นของผู้ที่ยึดมั่นในความจริงใจมากกว่าความตระการเพียงผิวเผิน ปรัชญาของเขาจึงหยั่งรากจากความเชื่อมั่นที่ไม่ได้เกิดจากความเคยชิน แต่จากการตั้ง คําถามตลอดชีวิต และความกล้าที่จะเลือกเส้นทางที่คนอื่นๆ ได้ละเลยทอดทิ้ง

นวัตกรรมต้องมีความหมาย ไม่ใช่เพียงการสร้างสิ่งใหม่เพื่อความแปลกตา 
สําหรับ Bernhard Lederer คุณค่าของนวัตกรรมจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมันสามารถแก้ปัญหา กลไกที่แท้จริง ทําให้ระบบกระจ่างชัดขึ้น ควบคุมพลังงานให้มั่นคง หรือเปิดมุมมองสู่ ความเข้าใจที่ลึก ข้าใจที่ลึกซึ้งกว่าเดิม สิ่งอื่นที่ไม่ตอบโจทย์เหล่านี้ก็เป็นเพียงเสียงรบกวนที่ไร้สาระสําคัญ

ความก้าวหน้าต้องตั้งอยู่บนความจริง
ความก้าวหน้าจะต้องไม่เป็นการหักล้างทักษะความเชี่ยวชาญที่สั่งสม แต่ต้องสืบทอด ภูมิปัญญาจากอดีตไว้ พร้อมทั้งกล้าที่จะไม่ถูกจํากัดด้วยกรอบเดิมๆ การเดินหน้าของวงการนาฬิกาไม่ใช่การละทิ้งประเพณี หากแต่เป็นการขัดเกลาและปรับแต่งจน เกิดความกลมกลืนและความชัดเจนอย่างแท้จริง

สมรรถนะต้องเกิดขึ้นจากโครงสร้าง มิใช่เพียงสไตล์ภายนอก
เรือนเวลาควรเผยให้เห็นตรรกะของการเคลื่อนไหว ผ่านความชัดเจนเชิงสถาปัตยกรรมผ่านเส้นสายและมิติที่ทําให้กลไกบอกเล่าเรื่องราวได้ด้วยตัวเอง ความงามของกลไกจึงไม่ได้เกิดจากการประดับตกแต่ง

แต่มาจากความสมดุลของแรงกลไก ความชัดเจนของเจตจํานง และความสง่างามของ ระบบที่ไม่มีสิ่งใดต้องซ่อนเร้น มีเพียงความจริงให้ปรากฏชัดเท่านั้น

ความรู้ต้องถูกส่งต่อ ไม่ใช่เก็บซ่อนไว้
กลไกควรเป็นโอบรับและถ่ายทอดองค์ความรู้ ยกระดับทักษะฝีมือของศาสตร์แห่งการ สร้างนาฬิกา แทนที่จะเป็นที่เก็บงําซุกซ่อน เมื่อมองไปอนาคต หน้าที่ของเราคือการส่งต่อ จิตวิญญาณแห่งคุณภาพที่ไม่เคยลดทอน ให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อสืบทอดสิ่งที่เป็นนิยาม แท้จริงของงานสร้างนาฬิกาชั้นสูง

"นวัตกรรมต้องแก้ปัญหาได้จริง
หากไม่สามารถทําได้ มันก็ยังคงเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น”

เมื่อกลไกกลายเป็นภาษาสื่อสาร 
ความเข้าใจก็กลายเป็นสิ่งที่งดงาม
CIC 39 มม. ถูกออกแบบมาให้เป็นเสมือนเอกสารฉบับตั้งต้น ทุกเฟืองจักร ทุกสะพาน และทุกคาน ถูกจัดวางด้วยความตั้งใจ เพื่อให้การเคลื่อนไหวเผยให้เห็นเส้นทางการส่งผ่านของพลังงานและทําให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความเที่ยงตรงแม่นยํา

นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร สถาปัตยกรรมของกลไกจึงไม่ใช่เพียงเพื่อการทํางานเท่านั้น แต่ เพื่อการถ่ายทอดเรื่องราว Bernhard Lederer เชื่อว่างานสร้างนาฬิกาต้องดํารงอยู่ใน ฐานะองค์ความรู้ที่มีชีวิต และ CIC ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นทั้งผลงานชิ้นเอกและหนังสือ ตําราปลายเปิดสําหรับผู้ที่ปรารถนาจะศึกษาเรียนรู้

หัวใจของ CIC คือกลไกเมโทรโนม องค์ประกอบขนาดเล็กแต่ทรงอิทธิพล ที่พลิกโฉม พฤติกรรมการทํางานของ detent escapement อย่างแท้จริง มันปกป้องกลไกจากการขึ้น ลานแน่นจนเกินไป และควบคุมการส่งผ่านของพลังงานอย่างแม่นยําในจุดที่ detent มักจะ อ่อนไหวที่สุด นั่นคือที่ระดับแอมพลิจูดต่ํา การถือกําเนิดของมันต้องผ่านการวิเคราะห์เชิงลึก การทดลองไม่รู้จบ และการออกแบบใหม่อย่างรอบด้าน ทุกวันนี้ เมโทรโนมทําหน้าที่เป็นพลัง เงียบแต่ทรงอํานาจ ช่วยให้ CIC ทํางานได้อย่างกลมกลืน มั่นคง และเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่น เป็นนวัตกรรมที่ดูเรียบง่าย แต่กลับเปลี่ยนทุกสิ่งไปโดยสิ้นเชิง

ชีพจรแห่งกลไกที่สัมผัสได้
CIC 39 มม. เป็นผลงานที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ในรูปแบบที่เงียบสงบ ลึกซึ้งกว่า กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมทําหน้าที่เสมือนหน้าต่างและเลนส์ ที่ช่วยให้ความโค้ง มนของกลไกดูนุ่มนวล และนําสายตาไปสู่จังหวะการทํางานของ escapement อัน เป็นหัวใจของกลไกด้วยสัดส่วนที่สมดุล เป็นชิ้นงานที่ดํารงอยู่เคียงข้างผู้สวมใส่อย่างมีชีวิตชีวา

CIC ถ่ายทอดความเที่ยงตรงด้วยบรรยากาศสงบ ราวกับการการทําสมาธิ ทุกสายตา ที่ทอดมองจะค้นพบรายละเอียดใหม่ ทั้งแนวขอบที่ขัดเงาแวววาว ฟันเฟืองที่เผยรูปทรง เรขาคณิต หรือการเก็บรายละเอียดที่สะท้อนความทุ่มเทตั้งใจชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าของ ช่างผู้เชี่ยวชาญ เป็นบทสนทนาอันนิ่งสงบระหว่างความงามของกลไกและกาลเวลา ที่ดําเนินไปอย่างละเมียดละไม

RACING GREEN
การตีความในแบบเฉพาะตัวของ BERNHARD เอง
หน้าปัดสีเขียวของ Racing Green มีจุดกําเนิดจากความทรงจําส่วนตัว นั่นคือ รถวินเทจ Sunbeam-Talbot ของ Bernhard ซึ่งสําหรับเขา สีนี้คือสัญลักษณ์แห่งความสง่างามเชิง วิศวกรรม ความทนทาน และพลังที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ใน CIC 39 มม. จิตวิญญาณ นั้นถูกปลุกให้มีชีวิตผ่านการเคลือบผิวแบบด้านพิเศษที่ช่วยลดการสะท้อนและเพิ่มความ งดงามให้ปรากฏชัด ดึงดูดสายตาให้จับจ้องไปยังความลึกของเฉดสี มากกว่าความเงา วาวบนพื้นผิว

ตัวเรือนขนาด 39 มม. ทําจากทองคําโรสโกลด์ 5N ขอบหน้าปัดและขอบด้านข้างของตัว เรือนที่ขัดเงา ช่วยเพิ่มประกายความอบอุ่นให้กับสีเขียวอย่างละเมียดละไม ขณะที่ คริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมเปิดมุมมองดี่ม าสู่กลไกเชิงประติมากรรมภายใน หน้าต่างที่ ตําแหน่ง 10 นาฬิกาเผยให้เห็นจังหวะการเคลื่อนไหวอันเงียบสงบของกลไก Constant force เป็นเครื่องย้ําเตือนว่าทุกชิ้นส่วนที่ผ่านการเลือกสรรให้มีความงดงามเชิงสุนทรียะ ใน CIC มีไว้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงในกลไกเสมอ

สิ่งเหล่านี้ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสมือนลายเซ็นของ Bernhard Lederer นั้น คือการหลอมรวมระหว่างความทรงจํา วิศวกรรม และปรัชญาที่ถูกหล่อหลอมด้วยเป้าหมาย

การวางรากฐาน
สู่วิถีแห่งเรือนเวลาในอนาคต
สําหรับ Bernhard Lederer แล้วความเป็นอิสระไม่ใช่หนทางแห่งความโดดเดี่ยว หากแต่ คือความรับผิดชอบ เป็นหน้าที่ที่จะเคารพต่ออดีต พร้อมทั้งเปิดเส้นทางสู่อนาคต กล้าที่ จะสํารวจพื้นที่ที่คนอื่นๆ ยังคงลังเล และยกระดับศาสตร์แห่งเรือนเวลาด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพื่อการอวดแสดง ผลงาน CIC 39 มม. จึงถือกําเนิดขึ้นเพื่อสะท้อนคํามั่นที่ว่า เรือนเวลาที่ไม่ลอกเลียนขนบประเพณี แต่ต่อยอดและขยายนิยามสิ่งที่มีอยู่เดิม เป็นผลงานที่พิสูจน์ว่านวัตกรรมมีคุณค่าก็ต่อเมื่อนําไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

ผลงานของเขาคือการผสานความเข้มงวด ระเบียบวินัย และวิธีการ เข้ากับความใคร่รู้และการขบคิดใคร่ครวญในมิติความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง

"เวลาจะเผยความจริง เฉพาะแก่ผู้ที่กล้าตั้งคําถามต่อมันเท่านั้น”

เกี่ยวกับ BERNHARD LEDERER
ปีหน้าจะเป็นวาระครบรอบ 40 ปีแห่งเส้นทางของ Bernhard Lederer ในศาสตร์แห่งเรือนเวลา เป็นสี่ทศวรรษที่ไม่เพียงสร้างสรรค์นาฬิกา แต่ยังทุ่มเทเพื่อสํารวจดินแดนที่ยังเปิดโอกาสให้พัฒนาและต่อยอด

ในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสถาบันผู้ผลิตนาฬิกาอิสระ Academie Horlogere des Createurs Indépendants (AHCl) Lederer เป็นหนึ่งในเจเนอเรชันแรกของปรมาจารย์ ช่างประดิษฐ์นาฬิกาอิสระที่ได้พลิกโฉมศาสตร์วงการนาฬิการ่วมสมัย ผ่านตัวตนที่มีเอกลักษณ์ เจตจํานงที่ชัดเจน และความกล้าที่จะสํารวจในเส้นทางที่ยังไม่มีใครค้นพบ มาก่อน นับตั้งแต่เริ่มต้น Bernhard Lederer หลงใหลและทุ่มเทให้กับสิ่งที่ยังเป็น ปริศนา คําถามที่ยากและยังค้างคา และยังรอการสํารวจค้นพบ

ผลงาน Central Impulse Chronometer (CIC) ของเขา ซึ่งได้รับรางรางวัลสองครั้งจาก นวัตกรรมและสมรรถนะเชิงเวลาอันโดดเด่น

และเป็นสิ่งสะท้อนอันชัดเจนที่สุดของปรัชญา Bernhard Lederer: ความก้าวหน้าใน โลกแห่งเรือนเวลาไม่ได้เกิดจากการตกแต่งประดับประดาอันฉาบฉวย แต่จากความกล้าที่จะทดลองสิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็นไปไม่ได้

ผลงานของเขาคือการผสานความเข้มงวดแบบเยอรมันและวินัยแบบสวิส เข้ากับความอยากรู้อยากเห็นและการใคร่ครวญในเชิงมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ผลงานทุกเรือนเวลาจึง สะท้อนปรัชญาที่หยั่งรากในความอดทน ความจริงใจ และความเชื่อมั่นว่าเรือนเวลาต้อง ถ่ายทอดความเข้าใจเหนือสิ่งอื่นใด สําหรับ Bernhard Lederer ศาสตร์แห่งการทํา นาฬิกาคือการแสวงหาความจริงอย่างสงบแน่วแน่ เป็นพื้นที่ที่ความสอดคล้องทางกลไก หลอมรวมกับอารมณ์ และที่ซึ่งนวัตกรรมกลายเป็นการอุทิศตน ไม่ใช่แค่เพียงความทะเยอทะยาน

Bernhard Lederer ไม่ได้แสวงหาคําตอบที่ง่าย เขาแสวงหาคําตอบที่ยังไม่ถูกค้นพบ

PENDULUM
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 ในฐานะผู้แทนจําหน่ายนาฬิกาหรูแห่งแรกในประเทศไทย และมีบูติกทั้งสิ้น 4 แห่งในปัจจุบัน ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสําคัญๆ ทั้งในเขต กรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้ Pendulum เป็นตัวแทนจําหน่ายนาฬิกาหรูมากกว่า 40 แบรนด์ ทั้งภายในบูติกของตนเองและช่องทางการจัดจําหน่ายอื่นๆ ตอบโจทย์ความชอบชื่นชมที่หลากหลายของคนรักนาฬิกา ความหลากหลายของแบรนด์ชั้นนํานี้เอง ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นําของ Pendulum ในตลาดค้าปลีกนาฬิกาหรูในประเทศไทย