Last updated: 12 ก.ย. 2559 | 2406 จำนวนผู้เข้าชม |
Slim d’Hermès Pocket Panthère
“Nature at Full Gallop” คือแนวคิดหลักประจำปี 2016 ของสุดยอดแบรนด์อย่าง Hermès ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ธรรมชาติ” ในฐานะแรงบันดาลใจชั้นเลิศและแหล่งวัตถุดิบหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่ง Slim d’Hermès Pocket Panthère นาฬิกาพกรุ่นล่าสุดที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวก็สะท้อนแนวคิดนี้ออกมาได้อย่างวิจิตรตระการตา
พื้นหน้าปัดของ Slim d’Hermès Pocket Panthère นั้น โดดเด่นด้วยภาพเสือดาวงามสง่าที่กำลังเยื้องย่างบนผืนหิมะสีเงินอย่างมีชีวิตชีวา อันเป็นภาพจากฝีมือการสร้างสรรค์ของจิตรกรชื่อดัง Robert Dallet ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องถึงความสามารถในการถ่ายทอดภาพสัตว์ในสกุลแพนเทอราต่างๆ ออกมาได้อย่างสมจริง รวมถึงมีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับแบรนด์ Hermès ในการออกแบบผลงานโด่งดังหลากหลายชิ้นช่วงยุคปี 1980’s ยิ่งไปกว่านั้น ความเลอค่าของนาฬิกาพกเรือนนี้ อยู่ที่การจำลองภาพผลงานของ Dallet ด้วยศิลปะผสมผสานเทคนิค “การแกะสลัก” ลวดลายร่วมกับเทคนิคการลงสี “อีนาเมล” อย่างสลับซับซ้อนจนได้เป็นผลลัพธ์สุดงดงามชวนพิศวง
งานอาร์ตเวิร์คที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานแนวใหม่นี้ได้ทลายกำแพงข้อจำกัดเดิมๆ โดยทั้งสองเทคนิคต่างช่วยส่งเสริมจุดเด่นของกันและกัน แสดงให้เห็นถึงพื้นผิวและแสงเงาอันแสนวิจิตรละเอียดอ่อน ภาพเสือดาวนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคอีนาเมลแบบ Grand Feu (งานลงยาด้วยการเผา) ซึ่งเป็นการใช้แปรงลงผงสีโดยผสมกับน้ำหรือน้ำมันบนองค์ประกอบต่างๆ ทีละสี แล้วทำการผนึกให้คงทนถาวรด้วยการอบในเตาเผาอุณหภูมิสูงจนผงสีเหล่านั้นหลอมรวมกันเป็นเนื้อแก้ว โดยจะต้องทำขั้นตอนเช่นนี้ซ้ำๆ กันอย่างอดทนกว่า 25 ครั้งเพื่อชุบชีวิตให้กับพญาเสือดาวซึ่งเป็นพระเอกของชิ้นงาน ส่วนทิวทัศน์หิมะโดยรอบที่ช่วยขับเน้นความเด่นนั้น เกิดขึ้นจากเทคนิคการแกะสลักแผ่นทองคำขาวที่เล่นระดับอย่างประณีตถึงห้าชั้นเพื่อสร้างให้เกิดมิติ รายละเอียดการขัดเงาผสมกับการขัดด้านช่วยให้เกิดความสมจริงของชั้นหิมะบนหินภูเขาซึ่งแซมด้วยกอหญ้าที่พลิ้วไหวอ่อนช้อย อีกทั้งยังบรรจงเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้มากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ความร้อนสูงเคลือบอ็อกซิไดซ์บนพื้นผิวของชิ้นงานบางส่วน
ตัวเรือนทองคำขาวขนาด 45 มิลลิเมตร ของ Slim d’Hermès Pocket ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นอย่างทุ่มเทโดยช่างฝีมือจากเวิร์กช้อปแห่ง Hermès ด้วยดีไซน์บริสุทธิ์เรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความรู้สึกหรูหราเหนือกาลเวลา การออกแบบสลักตัวขอ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ถูกคำนวณขนาดและค่าองศาการจัดวางมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ครอบพอดีกับเม็ดมะยมและขอบโค้งมนของตัวเรือนอย่างลงตัว ส่วนสายคล้องและกระเป๋าหุ้มนั้นผลิตขึ้นจากวัสดุหนังจระเข้ฮาวาน่าผิวด้านสีน้ำตาลภูมิฐาน บริเวณฝาหลังตัวเรือนเป็นแบบโปร่งใสซึ่งเผยให้เห็นการทำงานของกลไก ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของเรือนเวลา
Slim d’Hermès Pocket Panthère ได้รับการขับเคลื่อนด้วยจักรกล Ultra-Thin H1950 ซึ่งยังคงจุดเด่นด้วยความบางเพียง 2.6 มิลลิเมตร สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 42 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มความมั่นใจของประสิทธิภาพการทำงานด้วยไมโคร-โรเตอร์สุดซับซ้อน และตามธรรมเนียมเรือนเวลาแห่ง Hermès แล้ว บนพื้นผิวของกลไกจึงได้รับการตกแต่งด้วยลวดลายแพทเทิร์น “Sprinkling of Hs” เฉกเช่นเดียวกับเรือนเวลาในรุ่นอื่นๆ
การเปิดตัว Slim d’Hermès Pocket Panthère ครั้งนี้ของ Hermès จัดได้ว่าสง่างามสมศักดิ์ศรี ทรงคุณค่าเชิงอัครศิลป์ในระดับที่นักสะสมตัวยงไม่ต้องจำเป็นต้องลังเลในการไขว่คว้ามาครอบครอง
เรื่อง : Chuleerat Bunnakiatkul
8 ต.ค. 2567
20 ก.ย. 2567
7 ต.ค. 2567
26 ก.ย. 2567