Last updated: 19 ก.ค. 2562 | 962 จำนวนผู้เข้าชม |
เริ่มต้นด้วย HydroConquest Full Ceramic ผลงานใหม่ในตระกูล HydroConquest ผลิตจากไฮเทคเซรามิกเฉดสีดำที่เรียกว่า ZrO2 ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันรอยขีดข่วน ทั้งยังคงสไตล์นาฬิกาดำน้ำแบบดั้งเดิม และทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยคุณสมบัติครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการกันน้ำได้ลึก 300 เมตร ขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียว เม็ดมะยมแบบขันเกลียว และตัวล็อคสายแบบพับเพื่อความปลอดภัยสองชั้น ภายในตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตร บรรจุด้วยกลไกอัตโนมัติ (L888.3) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อลองจินส์โดยเฉพาะ แสดงเวลาแบบสามเข็มพร้อมวันที่ อินเด็กซ์และเข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® ตัดกับเฉดสีดำเข้มของหน้าปัด นาฬิการุ่นใหม่นี้จับคู่กับสายรัดข้อมือรับเบอร์สีดำ ทั้งยังสามารถปรับขนาดสายได้เพื่อความสบายในการสวมใส่ รังสรรค์มาเอาใจคนรักกีฬาทางน้ำทุกประเภท
ทางด้านคอลเลกชั่น The Legend Diver Watch แนะนำเฉดสีดำใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นการนำเอานาฬิกาดำน้ำจากยุค 1960 มาปัดโฉมใหม่ โดยเพิ่มประสิทธิภาพของยุคสมัยใหม่ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ ตัวเรือนทำจากวัสดุสตีล ฝาหลังนาฬิกาสลักลายนักดำน้ำเช่นเดียวกับรุ่นต้นฉบับ นอกจากจะยังคงรักษาจิตวิญญาณของนาฬิการะดับตำนานของยุค 1960 เอาไว้แล้ว ลองจินส์ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพทางด้านเทคนิคให้กับนาฬิกาเรือนใหม่นี้ ได้แก่ การชุบเคลือบผิว PVD สีดำสำหรับดีไซน์ที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น, กระจกหน้าปัดแซปไฟร์คริสตัล, เม็ดมะยม 2 ตำแหน่ง, ฝาหลังตัวเรือนแบบขันเกลียวแน่นเพื่อประสิทธิภาพในการกันน้ำระดับ 300 เมตร (30 บาร์) ขอบตัวเรือนสามารถใช้งานและหยุดได้ด้วยการกดปุ่มเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถกำหนดระยะเวลาที่เหลือในการดำน้ำได้
นอกจากนี้ลองจินส์ยังเอาใจสาวกนาฬิกาสไตล์วินเทจด้วย The Longines Heritage Military ที่หยิบยกแรงบันดาลใจจากนาฬิกาลองจินส์ซึ่งเคยผลิตให้กับเหล่าทหารในหน่วย รอยัล แอร์ ฟอร์ซ แห่งสหราชอาณาจักร (RAF) ตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 38.5 มม. ดีไซน์สะท้อนถึงความสง่างามอันประณีตและจิตวิญญาณของนาฬิกาในอดีตที่มีขนาดเพียง 32.5 มม. ส่วนเม็ดมะยมออกแบบให้มีขนาดโอเวอร์ไซส์คล้ายกับนาฬิการุ่นเก่าซึ่งทำให้สามารถปรับตั้งเวลาได้ง่าย หน้าปัดผลิตจากโอพาลินสีเงินตกแต่งด้วยการพ่นละอองสีดำเพื่อให้ดูวินเทจ ภายในตัวเรือนสตีลบรรจุกลไกอัตโนมัติ (L888.2) มาพร้อมสายรัดข้อมือหนังสีเขียวน้ำตาล โดยมีอุปกรณ์ในการถอดเปลี่ยนสายมาให้บรรจุอยู่ในกล่องดีไซน์พิเศษ
สุดท้ายลองจินส์ยังภูมิใจนำเสนอ The Longines 1832 เรือนเวลาที่เป็นการสดุดีแด่ปีที่ก่อตั้งแบรนด์ผสมผสานดีไซน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงาม ผสมผสานขนบธรรมเนียม ความสง่างาม และประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว ภายในตัวเรือนสตีลบรรจุกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ L899 หน้าปัดแสดงฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรม (Moon phase) และวันที่ด้วยเข็มเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา หน้าปัดสีเบจตกแต่ง อินเด็กซ์ มาพร้อมสายหนังอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาลที่เรียบง่ายแต่สง่างาม
ร่วมสัมผัสตำนานอมตะของนาฬิกา Longines ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป, www.longines.co.th และ www.facebook.com/LonginesThailand
19 ก.ย. 2567
20 ก.ย. 2567
7 ต.ค. 2567
26 ก.ย. 2567