เรือนเวลาระดับตำนาน ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ ออโตมาตีค และ ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ แกรนด์ เดท ปรากฏโฉมครั้งใหม่พร้อมสายไทเทเนียม

คอลเลคชั่นฟิฟตี้ ฟาธอมส์ นั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานนับตั้งแต่ปี 1953 เมื่อบลองแปงได้เผยโฉมนาฬิกาดำน้ำรูปแบบโมเดิร์นเรือนแรก ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ก็สร้างความโดดเด่นล้ำสมัยทั้งในด้านเทคนิคและสุนทรียศาสตร์ความงดงาม ตั้งแต่หลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาพรายน้ำขนาดใหญ่ ดูโดดเด่นตัดกับหน้าปัดสีดำขลับ                              คุณสมบัติอันเพียบพร้อม ความสามารถในการกันน้ำ รวมถึงขอบหน้าปัดจับเวลาแบบหมุนได้ นับเป็นการสร้างมาตรฐานมิติใหม่ให้แก่วงการนาฬิกา บลองแปงในฐานะผู้บุกเบิกและผู้สร้างนิยามใหม่แห่งนาฬิกาดำน้ำ ยังได้นำเอาวัสดุระดับนวัตกรรมมาสร้างสรรค์นาฬิกาตั้งแต่ในยุคแรกเริ่ม อันที่จริงแล้วบลองแปงเริ่มใช้ไทเทเนียมมาตั้งแต่ต้นยุค 1960 เมื่อครั้งที่ผลิตนาฬิการุ่น มิล-สเปค สอง (MIL-SPEC II) ให้กับหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดของกองทัพเรือสหรัฐ (US Navy) ที่บลองแปงได้ประมูลกลับมาในปี 2015 โดยนาฬิการุ่นดังกล่าวนี้มีตัวเรือนที่ทำจากนิกเกิล ซึ่งเป็นโลหะผสมระหว่างทองแดง สังกะสี และนิกเกิลอัลลอยด์ที่สามารถป้องกันผลกระทบจากคลื่นสนามแม่เหล็กได้ ส่วนด้านหลังตัวเรือนทำจากไทเทเนียม เพื่อให้สามารถทนทานต่อแรงดันอากาศได้มากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ใต้น้ำ ซึ่งในสมัยนั้นไทเทนียมเป็นวัสดุที่ใช้กันแต่เฉพาะในอุตสาหกรรมการบินหรือการสำรวจอวกาศเท่านั้น แทบไม่เคยมีใครนำวัสดุชนิดนี้มาใช้ในการประดิษฐ์นาฬิกามาก่อน จึงมีความเป็นไปได้ว่า บลองแปงน่าจะเป็นผู้รังสรรค์เรือนเวลาแบรนด์แรกที่นำวัสดุชนิดนี้มาใช้ในการผลิตนาฬิกาทั้ง ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ ออโตมาตีค (Fifty Fathoms Automatique) และ ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ แกรนด์ เดท (Fifty Fathoms Grande Date) ถือเป็นนาฬิกาสองรุ่นที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน อีกทั้งขนบการสร้างสรรค์นวัตกรรมเรือนเวลาของบลองแปง สายไทเทเนียมรุ่นใหม่ที่เบาเหลือเชื่อได้มาเพิ่มเติมความครบถ้วนให้กับคอลเลคชั่น ที่เดิมมีสายให้เลือกเพียงสายผ้า (sail canvas) และสายนาโต (NATO) เท่านั้นโดยการสร้างสรรค์สายนาฬิกาไทเทเนียมนั้นต้องอาศัยกระบวนการประกอบและฝีมือการตกแต่งอย่างประณีตหลากหลายขั้นตอน ข้อสายแต่ละข้อผ่านการขัดแต่งลวดลายซาตินด้วยมือ แล้วจึงมาเรียงร้อยต่อกันด้วยเทคนิคการเข้าสลัก ทำให้ตัวสายสามารถโอบรัดข้อมือได้อย่างพอเหมาะพอดี อีกทั้งมีการใช้ระบบหมุดสลักที่จดสิทธิบัตรของแบรนด์ ทำให้หมุดสลัก (ซึ่งโดยทั่วไปมักจะอยู่ด้านข้างของสาย) ปรากฏอยู่ที่ด้านในของสายแทน เพื่อให้ขอบของสายคงความเรียบหรูและสวยงาม คุณลักษณะเฉพาะเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวเรือนและสายจะเชื่อมต่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างไร้ที่ติ หน้าปัดโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของฟิฟตี้ ฟาธอมส์ และยังรวมเอาทุกคุณสมบัติสำคัญของนาฬิกาดำน้ำไว้อย่างครบถ้วน เช่น หลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา®  (Super-LumiNova®) ที่ช่วยให้สามารถดูเวลาได้อย่างง่ายดายและชัดเจนในทุกสภาวะ รวมถึงขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียวที่ผลิตจากแซฟไฟร์ทนทานต่อรอยขีดข่วน

ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 45 มม. กันน้ำลึกที่ระดับ 30 บาร์ (ประมาณ 300 ม.) ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ ออโตมาตีค  และ ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ แกรนด์ เดท ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์รหัส 1315 ที่บลองแปงเป็นผู้รังสรรค์ขึ้นเอง โดยเป็นกลไกที่อยู่ในฟิฟตี้ ฟาธอมส์มาตั้งแต่ปี 2007 หรือใช้กลไกรหัส 6918B โดยกลไกทั้งสองรหัสสามารถป้องกันผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กด้วยซิลิคอน บาลานซ์ สปริง (silicon balance-spring) สำรองพลังงานได้ถึง 5 วัน ผ่านการทำงานของกระปุกลานคู่ถึงสามชุด กลไกผ่านการขัดแต่งอย่างงดงามเผยโฉมอยู่ด้านหลังตัวเรือนซึ่งเป็นกระจกแซฟไฟร์ใส

ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ ออโตมาตีค  มีทั้งหน้าปัดสีดำ และสีน้ำเงินขัดลายแสงพระอาทิตย์ (sunburst dial)  ส่วน ฟิฟตี้               ฟาธอมส์ แกรนด์ เดท ยังคงเอกลักษณ์หน้าปัดสีดำ เรือนเวลาน้ำหนักเบาและเพียบพร้อมเช่นนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของคนรักนาฬิกาแนวสปอร์ตหรูไซส์ใหญ่ ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆวัน