Last updated: 22 ก.พ. 2565 | 1040 จำนวนผู้เข้าชม |
ในปี ค.ศ. 1991 นาฬิกา เคป คอด (Cape Cod) ได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้ลายเส้นดินสอหนาและหนักแน่นของ อองรี ดอริญี (Henry d’Origny) ด้วยตัวเรือน <<สี่เหลี่ยมจัตุรัสในสี่เหลี่ยมผืนผ้า>> ที่สร้างรูปขึ้นโดยข้อเชื่อมทรง <<โซ่สมอ>> ครึ่งสองชิ้น และในวันนี้ CAPE COD ได้รังสรรค์หน้าปัดอันงดงามใหม่ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และเผยให้เห็นถึงสองโลกอันแสนโดดเด่นพิเศษ
ในปี ค.ศ. 2018 Hermès (แอร์เมส) ได้ริเริ่มการประชุมร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์และไมโครเทคโนโลยีของสวิส (Swiss Center for Electronics and Microtechnology (CSEM)) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเนอชาแตล (Neuchâtel) เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเสาะหานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ช่วยในการริเริ่มสร้างสรรค์ และการประชุมครั้งนั้นได้มอบซึ่งการเริ่มต้นโครงการสำหรับรังสรรค์หน้าปัดที่ผลิตขึ้นจาก silicon wafer (เวเฟอร์ซิลิคอน) และนำมาสู่ผลลัพธ์ของลวดลาย <<Crépuscule>> (เครปูสกูล: พลบค่ำ) อันวิจิตรประณีตและละเอียดอ่อน โดยศิลปินนักออกแบบกราฟิก Thanh-Phong Lê (แทง-ฟอง เล)
สำหรับการสร้างสรรค์ครั้งนี้ แอร์เมสได้เลือกใช้เวเฟอร์ซิลิคอน และคุณสมบัติของสารกึ่งตัวนำที่ถูกดึงมาใช้กับกระบวนการไมโครอิเล็กทรอนิกส์มามอบคุณภาพด้านความสวยงามอันบริสุทธิ์ และเป็นตัวแทนของการนำมาใช้เป็นครั้งแรก โดยขึ้นอยู่กับปริมาณของวัสดุที่เติมเข้าไปในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งจะมอบทั้งความแตกต่างของสีสัน ทั้งความลุ่มลึก และแถบเฉดสีอันมีเอกลักษณ์เฉพาะได้อย่างไม่สิ้นสุด กระบวนการทางเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ดำเนินการโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญภายในห้องปฏิบัติการต่างๆ ของ CSEM
ความสวยงามของหน้าปัด เคป คอด เครปูสกูล เหล่านี้สร้างสรรค์มาจากแผ่นวัสดุชิ้นเดี่ยวที่มีความหนาเพียง 0.5 มม. และถูกเคลือบผ่านกระบวนการอันแม่นยำสูงด้วยฟิล์มบางๆ (72 นาโนเมตร) ของsilicon nitride(ซิลิคอนไนไตรด์ ) เพื่อให้ได้มาซึ่งเฉดสีน้ำเงินเข้มตามต้องการ
จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการพิมพ์ด้วยแสงหรือ photolithography (โฟโตลิโทกราฟี) ในระหว่างที่เวเฟอร์ถูกวางอยู่ท่ามกลางแสงสีน้ำเงินเพื่อพิมพ์ลวดลาย กระบวนการนี้ยังเกี่ยวข้องกับการอาบหลายขั้นต่อเนื่องกัน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการเคลือบทอง และตามมาด้วยการอาบอื่นๆ เพื่อขจัดวัสดุที่มากเกินความต้องการ ก่อนที่สุดท้ายนั้น แผ่นสำหรับหน้าปัดนี้จะถูกตัดตามรูปทรงของตัวเรือน CAPE COD
โดยหน้าปัดพร้อมด้วยชุดเข็มชี้ชุบทองเรียวยาวนี้ได้เผยให้เห็นเฉดสีน้ำเงินอันมีมิติหลากหลายที่โปรยปรายไปด้วยเยลโลโกลด์ ซึ่งได้มาจากวิธีการเฉพาะหนึ่งเดียวที่ผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์และนาโนเทคโนโลยี ทั้งยังจับคู่มากับสายนาฬิกาแบบแถวเดียว หรือสายพันรอบข้อมือแบบสองแถวทำจากหนังวัวสีน้ำเงินเข้ม ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตพิถีพิถันภายในห้องปฏิบัติการที่ชำนาญของ Hermès Horloger (แอร์เมส ออร์โลเฌอร์) เพื่อมอบสัมผัสอันแสนพิเศษให้กับนาฬิกา CAPE COD crépuscule
7 ต.ค. 2567
12 ต.ค. 2567
12 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567