Last updated: 29 ก.ย. 2567 | 237 จำนวนผู้เข้าชม |
Girard-Perregaux (จิราร์ด-แพร์โกซ) เพิ่มสองบทใหม่ในเรื่องราวที่เริ่มต้นในปี 1975 ครั้งนี้อวดโฉมในตัวเรือนพิงค์โกลด์อันหรูหราขนาด 42 มม. และยังคงเอกลักษณ์ของ Laureato ในเรื่องรูปทรงและพื้นผิวที่ตัดกัน โดยจับคู่กับหน้าปัดสีเขียว Sage Green และสีน้ำเงิน Ultramarine Blue อันน่าหลงใหล ซึ่งดูเหมือนจะเปลี่ยนสีเมื่อมองจากมุมที่ต่างกัน
Girard-Perregaux ก่อกำเนิดคอลเลกชั่น Laureato ขึ้นเมื่อปี 1975 ออกแบบให้มีรายละเอียดของรูปทรงต่างๆ ที่สอดประสานกลมกลืนกันอยู่ภายในเรือนเดียวอย่างงดงาม ไม่ว่าจะขอบตัวเรือนที่มีรูปทรงแปดเหลี่ยมซึ่งจัดวางไว้บนวงกลม รวมถึงตัวเรือนทรงถังเบียร์ ทำให้ Laureato เป็นคอลเลกชันที่ตราตรึงใจนักสะสมเสมอมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้ Girard-Perregaux ได้เพิ่มสมาชิกเรือนเวลา 2 รุ่นใหม่ ซึ่งมีตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร
โลหะล้ำค่าอย่างพิงค์โกลด์ที่นำมาผลิตเป็นตัวเรือนให้กับนาฬิกา Laureato ขนาด 42 มิลลิเมตร นอกจากจะให้สัมผัสอันอับอุ่นแล้ว ยังเพิ่มความสุนทรีย์ผ่านการขัดแต่งพื้นผิวอันประณีตทั้งการขัดเงาและกันขัดด้านซาติน ยิ่งเป็นการเน้นย้ำรูปทรงที่หลากหลายของดีไซน์ตัวเรือนให้ดูมีมิติที่งดงามมากยิ่งขึ้น ความล้ำค่าของทองคำยังส่งประกายอยู่บนหน้าปัดผ่านชุดเข็มและเครื่องหมายแทนหลักชั่วโมงรูปทรงบาตอง โดยทั้งหมดเคลือบด้วยสารเรืองแสงเพื่อให้ส่องสว่างเมื่อนาฬิกาอยู่ในที่มีแสงน้อย เข็มวินาที ณ กลางหน้าปัดก็มีรายละเอียดที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของ Girard-Perregaux สอดคล้องกับอักษรย่อ GP สีทองบนตำแหน่ง 12 นาฬิกา
พื้นหน้าปัดรังสรรค์ให้มีพื้นผิวสองลักษณะ เริ่มจากวงแหวนรอบขอบหน้าปัดอันเป็นสเกลนาทีสีขาวซึ่งมีพื้นหลังผิวเรียบ ในขณะที่พื้นผิวหน้าปัดที่เหลือทั้งหมดตกแต่งเป็นลวดลาย “Clous de Paris” สร้างเสน่ห์ให้หน้าปัดดูมีมิติที่น่าหลงใหล ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนในการรังสรรค์ในขั้นตอนต่างๆ กว่า 50 ขั้นตอน เพื่อให้ได้มาซึ่งหน้าปัดที่มีความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และประณีต อีกทั้งยังส่งให้สีสันใหม่ของหน้าปัดทั้งสองสีมีความสวยงามเย้ายวนมากยิ่งขึ้น
สำหรับสีสันใหม่ที่ Girard-Perregaux นำเสนอร่วมกับนาฬิกา Laureato 42 mm. รุ่นใหม่ 2 รูปแบบต่างมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มที่ สีเขียว sage green โดยทางแบรนด์ได้กล่าวว่าสีเขียวเฉดนี้เป็นสีสันที่สื่อถึงความปราดเปรื่องจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยอดเยี่ยมของตนเองที่มีมายาวนานตลอด 230 ปี ส่วนอีกหนึ่งสีคือ สีน้ำเงิน ultramarine blue ซึ่งถือเป็นเฉดสีที่ปรากฎมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลโดยพบเห็นได้จากสีของหินล้ำค่าอย่างลาพิสลาซูลี อีกทั้งยังมีความหมายว่า “โพ้นทะเล” ในภาษาละติน กล่าวได้ว่าเป็นโทนสีที่สะท้อนความรุ่มรวยได้อย่างสมบูรณ์
นอกเหนือจากความงามภายนอก เรือนเวลา Laureato 42 mm. ทั้งเวอร์ชัน sage green และ ultramarine blue ต่างขับเคลื่อนด้วยกลไกที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม นั่นคือกลไก in-house อัตโนมัติ Cal. GP01800 อันประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนกลไกทั้งสิ้น 191 ชิ้น ที่ต่างได้รับการขัดแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยส่วนของฐานเครื่องขัดแต่งด้วยลวดลายเกรนแบบวงกลม ขณะเดียวกัน ชิ้นส่วนต่างๆ ได้รับการลบเหลี่ยมมุม ขัดเงา ขัดซาติน และการแกะสลักรูปแบบต่างๆ สะพานจักรต่างๆ ก็ได้รับการตกแต่งด้วยลวดลาย Côtes de Genève เช่นเดียวกับโรเตอร์ทองคำที่ได้รับการตกแต่งด้วยลวดลายนี้ด้วย กลไกเครื่องนี้ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง ติดทับทิมกันสึก 28 เม็ด สำรองพลังงานยาวนาน 54 ชั่วโมง
Laureato 42 mm. ทั้งสองรุ่นจะจับคู่สวมใส่กับสายพิงค์โกลด์ โดยพิเศษมากยิ่งขึ้นสำหรับรุ่น ultramarine blue ที่มีตัวเลือกของสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน พร้อมอีกสายยางสีน้ำเงินอีกหนึ่งสายที่มาคู่กันสำหรับสลับเปลี่ยนด้วย
4 ต.ค. 2567
3 ต.ค. 2567
3 ต.ค. 2567