JEAN-CHRISTOPHE BABIN

Last updated: 26 ธ.ค. 2567  |  1145 จำนวนผู้เข้าชม  | 

JEAN-CHRISTOPHE BABIN

เป็นเวลากว่า 11 ปีที่ Jean-Christophe Babin ดูแลแบรนด์ Bulgari ในฐานะ CEO พร้อมกับความสำเร็จของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะในด้านเครื่องประดับที่ Bulgari นั้นมีความทรงพลังจากความเชี่ยวชาญที่สืบทอดมายาวนานเท่านั้น แต่ยังทำให้เครื่องบอกเวลาของ Bulgari ยกระดับความเหนือชั้นด้วยนวัตกรรมกลไกอันยอดเยี่ยม ด้วยตำแหน่งที่สุดในโลกจากความบางเฉียบของนาฬิกาในตระกูล Octo Finissimo และคว้ารางวัลมากมายจาก GPHG ที่เปรียบเสมือนรางวัลออสการ์ของโลกแห่งเวลา ในงาน Geneva Watch Days 2024 หรือ GWD ที่ผ่านมา Bulgari มีผลงานนวัตกรรมใหม่ที่สุดอัศจรรย์อีกครั้งในธีม The Sound of Bulgari ที่ผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์เปิดใจให้สัมภาษณ์พร้อมกับผลงานใหม่ละลานตา

การนำเสนอผลงานในธีม The Sound of Bulgari ปีนี้ที่งาน GWD มีแนวคิดอย่างไร?
Bulgari เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในกลไกตีบอกเวลาหรือ Chime watches ซึ่งอาจจะมีประมาณ 10 แบรนด์ในสวิตเซอร์แลนด์ที่สามารถสร้างสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาด้วยเสียงที่ซับซ้อนได้ เพราะเป็นกลไกที่ทำได้ยาก แม้จะมีการพัฒนากลไกนี้มานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แล้วก็ตาม ดังนั้น เราจึงได้เพิ่มผลงานนาฬิกาที่บอกเวลาด้วยเสียงนี้ในคอลเลกชันของเรามากว่าทศวรรษแล้ว แต่ในขณะที่หลายแบรนด์นั้นก็รังสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาด้วยเสียงในท่วงทำนองที่คุ้นเคยเดิมๆ เช่น Westminster หรือเสียงของนาฬิกาที่หอนาฬิกา Big Ben ในอังกฤษตลอดระยะเวลา 2 ศตวรรษที่ผ่านมา นาฬิกาแต่ละเรือนและทุกเรือนที่มีกลไกตีบอกเวลาจะให้เสียงในท่วงทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างยิ่ง ไม่มีใครคิดถึงนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะท่วงทำนองตีบอกเวลาของ Big Ben นั้นมาจากโบสถ์ จึงมีทำนองที่กลมกลืน เรียบง่ายและมีความสม่ำเสมอ

เราในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการสร้างสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาด้วยเสียงระดับโลก เราต้องการท่วงทำนองที่แตกต่าง เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่แก่นแท้ของท่วงทำนองตีบอกเวลาด้วยเสียงจะเหมือนกันทุกคน  เรามีโอกาสทำงานร่วมกับวาทยกรรุ่นใหม่ Lorenzo Viotti ซูเปอร์สตาร์ของวงการออเคสตร้าที่มีอายุเพียง 30 กว่าปี เขาเป็นวาทยกรจากเมืองโลซานน์ ผู้ซึ่งได้กำกับและควบคุมการบรรเลงของวงดนตรีอันยิ่งใหญ่ อย่าง Netherlands Philharmonic Orchestra, Netherlands Chamber Orchestra และวงโอเปร่าแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ เราทำงานร่วมกับ Lorenzo ตั้งแต่ 3-4 ปีก่อน จากครั้งแรกกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และเข้าร่วมกับการสร้างสรรค์นาฬิกาในเวลาต่อมา เราเริ่มต้นการประชุมจากความคิดเห็นเกี่ยวกับโทนเสียงของระบบตีบอกเวลาว่า เหตุใดต้องเป็น Westminster ตอนนั้นเรายังไม่เจอคำตอบ และ Lorenzo ก็พูดขึ้นมาว่า ทำไมไม่เป็นโทนอื่นล่ะ? มันคงวิเศษมากถ้ามีทำนองที่แตกต่างออกไปจากคนอื่นๆ แต่เราก็ไม่ต้องการโทนดนตรีที่ทันสมัยของ Westminster เราต้องการแนวคิดที่แตกต่าง และเขาก็กลับมาพร้อมกับไอเดียของ ‘ไตรโทน’ (tritone) ซึ่งเป็นช่วงห่างของโทนเสียงอันมีเอกลักษณ์เฉพาะที่สร้างพลวัตอย่างมาก เป็นท่วงทำนองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เราเริ่มจากแนวคิดเกี่ยวกับไตรโทนที่อสมมาตร สู่การพัฒนาชุดค้อน 4 ชิ้นใหม่ทั้งหมด เพราะเราไม่สามารถใช้ค้อนแบบคลาสสิกได้ นี่จึงเป็นการคิดค้นพัฒนานาฬิกาตีบอกเวลาครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของ Bulgari และเป็นที่มาของนาฬิกา Octo Roma Grande Sonnerie ที่ตีบอกเวลา 4 โน้ตเสียงที่อาจไม่คุ้นเคยจากค้อน 4 ชิ้น แต่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียงไตรโทนที่ไม่เข้ากันจึงเป็นเหมือนการเตือนโดยธรรมชาติในนาฬิกาที่บอกเวลาผ่านการได้ยินเสียง

การเพิ่มจำนวนชุดค้อนจาก 2 ชิ้นเป็น 4 ชิ้น ทำให้นาฬิกาหนาขึ้นกว่ารุ่นก่อนหรือไม่?
ถ้าดูจากขนาดตัวเรือนที่ 45 มิลลิเมตรซึ่งค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าดูภาพรวมแล้วจะเห็นว่ามีความบาง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตัวเรือนและความหนาจะสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก หากเรายังคงใช้ตัวเรือนที่ 42 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามันจะทำให้ดูหนากว่านี้ เราจึงเลือกที่จะใช้ขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตรที่ทำให้ดูบางกว่า นั่นเป็นความสัมพันธ์ที่เรามักคิดถึงเสมอในระหว่างการออกแบบเกี่ยวกับความหนาและความกว้างของตัวเรือน เราจะค่อยๆ ปรับจนกระทั่งได้ความสวยงามที่สมบูรณ์แบบ หากเรารู้ว่ากลไกที่เราใช้มีความซับซ้อนมาก เราจะเลือกใช้ตัวเรือนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างขึ้นเพื่อควบคุมความหนาของตัวเรือน ซึ่งสองส่วนนี้ต้องมีความสมดุลกันเสมอ เพื่อให้เกิดความรับรู้ด้านสุนทรียภาพที่สวยงามที่สุด

นอกจากคอลเลกชัน Octo ที่มาพร้อมความซับซ้อนสูงจากนวัตกรรมกลไกแห่งเสียงใหม่แล้ว คุณยังมีสไตล์ความหรูในธีมเสียงอีกใช่ไหม?
เรายังมีผลงาน Serpenti Pallini High Jewelllery ซึ่งเป็นผลงานปฏิวัติล่าสุดจากคอลเลกชัน Serpenti ระดับไอคอน เป็นนาฬิกาประดับอัญมณีและซีเคร็ตวอทช์ เมื่อปากของงูปิดก็จะเผยความงามของกำไลแห่งอัญมณีที่ล้ำค่า โครงสร้างของ Serpenti Pallini มีความน่าสนใจอย่างยิ่งจากลูกปัดทองคำขนาดเล็กที่เรียงร้อยประกอบเข้าด้วยกัน ลูกปัดเหล่านี้ทำให้สามารถสร้างดีไซน์ที่หลากหลาย เช่นการผสานรวมกับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรในลวดลายของเกล็ดที่วางทีละเม็ดบนสายทองถักทอด้วยเทคนิคที่มาจากวิธี en tremblant (ออง ทรอมบลองท์) เทคนิคเก่าแก่ที่พัฒนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 ในปารีส และเราก็ยังอาจนำมาผสานกับมรกตหรือทับทิมได้ หากลูกค้าต้องการอีกด้วย นอกจากนี้ในส่วนหัวของนาฬิกาก็ยังคงมาพร้อมกลไกไขลาน Piccolissimo ที่เป็นกลไกจักรกลเล็กที่สุดในตลาดเวลานี้ ที่มีน้ำหนักเพียง 1.3 กรัม และสามารถดึงออกมาจากตัวเรือนได้หากต้องการส่งซ่อม คุณไม่ต้องส่งไปทั้งเรือน แต่สามารถถอดเพียงกลไกส่งซ่อมหากมีปัญหา มันดูปลอดภัยและสบายใจกว่าถ้าต้องส่งไปทั้งเรือนสำหรับลูกค้าบางคน ซึ่งกลไกเองก็มีความพิเศษและมีขนาดเล็ก
จึงมีมูลค่าที่ไม่น้อยเช่นกัน

แล้วนาฬิกา Serpenti Pallini High Jewelllery เข้ากับธีม Sound of Bulgari อย่างไร?
เพราะลูกปัดทองคำที่ปลายหางเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวก็จะมีเสียงเบาๆ อันที่จริงมันเป็นเพียงแนวคิด ไม่ใช่การสร้างเสียงเหมือนระบบตีบอกเวลา แต่เป็นแนวคิดที่สามารถเล่นกันนาฬิกาได้ด้วยเสียงเบาๆ เท่านั้น

เราเห็นความร่วมมือมากมายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ระหว่าง Bulgari กับศิลปินต่างๆ คุณมีแนวคิดอย่างไรในการทำงานร่วมกับศิลปินเหล่านี้?
Bulgari เป็นแบรนด์ที่เริ่มต้นมาสำหรับผู้หญิง และเราก็มีความใกล้ชิดกับศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมาย เราจึงเป็นเสมือนผู้อุปถัมภ์งานศิลปะที่มีงบประมาณสำหรับการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมสำคัญ การบูรณะโบราณสถานและบริจาคให้กับศิลปะต่างๆ มากที่สุด เช่น นิทรรศการผลงานชิ้นเอกจากคอลเลกชัน Torlonia พิพิธภัณฑ์ Louvre ในกรุงปารีส Bulgari คือผู้สนับสนุนมูลนิธิ Torlonia Foundation สำหรับงานนี้ 100% ในการบูรณะรูปปั้นสำคัญในประวัติศาสตร์ หรือเรายังมีรางวัล Maxi Bulgari Prize ที่ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มอบรางวัลให้กับศิลปะดิจิทัลที่เกิดจากปัญญประดิษฐ์ เรามีความกระตือรืนร้นอย่างมากต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะ และแน่นอนกิจกรรมเหล่านี้ก็เป็นเสมือนการก่อร่างสร้างฐานของมูลนิธิ Bulgari Foundation ที่เกี่ยวเนื่องกับผลงานรุ่นผลิตจำนวนจำกัดของเราด้วย ในปีนี้เรายังได้สร้างสรรค์ผลงานซีรีส์พิเศษร่วมกับ Tadao Ando ในผลงาน 4 ฤดู กับคอลเลกชัน Serpentis โดยเลือกหินหรือวัสดุธรรมชาติที่เข้ากับสีสันของฤดูกาล ซึ่งจะไล่เฉดสีจากใบไม้สีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีฟ้าเยือกเย็นและสีชมพูอ่อนหวาน

เรายังฉลองครบรอบ 140 ปีของแบรนด์ด้วยผลงานรุ่นพิเศษที่เป็นความร่วมมือกับ Fender Custom Shop ในรุ่น Bulgari Aluminium GMT x Fender® Limited Edition ซึ่งความร่วมมือนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีกีตาร์ไฟฟ้าระดับตำนาน Stratocaster อีกด้วย ตัวอย่างที่เรานำเสนอในปีนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกับภาคศิลปะที่ Bulgari ยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญเสมอ

เมื่อธีมปีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเสียงและดนตรี อยากทราบว่าคุณชอบดนตรีแนวไหนโดยส่วนตัว เพลงของลิซ่าใช่ไหม?
ใช่ ก็อาจดูแปลก เพราะโดยส่วนตัวผมอาจไม่ใช่แนวดนตรีคลาสสิก แต่ชื่นชอบดนตรีโอเปร่ามาก ผมยังชอบดนตรีร็อคและดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับ Fender และผมก็ยังชอบเคป๊อปด้วย!

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

MARC A. HAYEK

24 พ.ย. 2568

JULIEN TORNARE

21 ต.ค. 2568

RAYMOND LORETAN

24 พ.ย. 2568

MUNEHISA SHIBASAKI

24 พ.ย. 2568

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้