FRANCK MULLER Vanguard Crazy Hours Jisbar

Last updated: 9 เม.ย 2568  |  414 จำนวนผู้เข้าชม  | 

FRANCK MULLER Vanguard Crazy Hours Jisbar

เป็นผลงานความร่วมมือครั้งแรกของ แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) ที่มี “ความเชี่ยวชาญในเรื่องความซับซ้อน” เป็นวิสัยทัศน์ และ จิสบาร์ (Jisbar) ศิลปินแนวป็อป-สตรีท ชาวฝรั่งเศส ผู้ตีความประวัติศาสตร์ศิลปะผ่านมุมมองของวัฒนธรรมร่วมสมัย โปรเจ็กต์สุดพิเศษนี้ขยายขอบเขตของการออกแบบเรือนเวลาและศิลปะ จนได้ผลลัพธ์เป็น แวงการ์ด เครซี อาวร์ส จิสบาร์ (Vanguard Crazy Hours Jisbar) เรือนเวลา ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นด้วยหลากสีสันในจักรวาลและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปินท่านนี้

ผลงานจากความร่วมมือที่ถือเป็นก้าวสำคัญครั้งใหม่ของ แฟรงค์ มุลเลอร์ คอลเลกชั่นนี้ ถูกนำเสนอที่งาน เวิลด์ พรีเซนเทชั่น ออฟ โอต ออร์โลเฌรี (WPHH) อันทรงเกียรติ บนพื้นฐานของเรือนเวลาระดับไอคอน แวงการ์ด เครซี อาวร์ส (Vanguard Crazy Hours) ในตัวเรือน วีฟอร์ตีทรี (V43) คอลเลกชั่นสุดพิเศษนี้ถือเป็นการยกย่องแนวคิดอันล้ำสมัยอย่างแท้จริง โดยเน้นย้ำถึงความงดงามอันสนุกสนานที่มีรูปแบบการแสดงเวลาต่างจากเรือนเวลา เครซี อาวร์ส เอดิชั่นอื่น ๆ ด้วยการมีวิสัยทัศน์ทางศิลปะของ จิสบาร์ มาส่งเสริมให้เกิดเอกลักษณ์สุดพิเศษ ผ่านดีไซน์หน้าปัดที่ถูกเปลี่ยนโฉมให้เป็นงานศิลปะที่มีชีวิตชีวา รูปลักษณ์ของหลักชั่วโมงแต่ละตัวได้ถูกถ่ายทอดผ่านรูปแบบที่เป็นจักรวาลของ จิสบาร์ ในขณะที่ยังคงรักษาแก่นแท้ของแนวคิดที่ทำให้คอมพลิเคชั่น เครซี อาวร์ส กลายเป็นหนึ่งในไอคอนแห่งวงการนาฬิกา

นิโคลัส รูแดซ (Nicholas Rudaz) ซีอีโอ แห่ง แฟรงค์ มุลเลอร์ เจนีว่า กล่าวว่า “จิสบาร์ ได้ทำการออกแบบหน้าปัดและตัวเลขของเรือนเวลาขึ้นมาอย่างโดดเด่นอันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่สุดของ แฟรงค์ มุลเลอร์ โดยทำการใส่ภาพศิลป์ในจักรวาลของเขาเข้าไป ในขณะที่ยังคงรักษาแก่นแท้เชิงแนวคิดอันซับซ้อนที่เหนือธรรมดาของเรือนเวลารุ่นนี้เอาไว้”

ศิลปะแห่งการท้าทายเวลา
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตระหนักถึงการสะท้อนภาพและการไตร่ตรองที่สั่งสมมาหลายปี ผมรู้สึกทึ่งกับความกล้าหาญของ แฟรงค์ มุลเลอร์ เสมอมา ในฐานะแบรนด์ที่พยายามทำลายกรอบเดิม ๆ และขยายขอบเขตการสร้างสรรค์ออกไปเช่นเดียวกับผม จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครั้งแรกของเรา ผมรู้ว่าเราสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่พิเศษมาก ๆ ขึ้นมาได้” จิสบาร์ กล่าว

แวงการ์ด เครซี อาวร์ส จิสบาร์ ถือกำเนิดขึ้นจากการผสมผสานศิลปะร่วมสมัยและการประดิษฐ์เรือนเวลาสุดล้ำเข้าด้วยกัน โดยเป็นการก้าวข้ามแนวคิดของการแสดงเวลาด้วยงานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ หน้าปัดได้กลายมาเป็นผืนผ้าใบขนาดเล็กให้ศิลปินท่านนี้ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด หลักชั่วโมงแต่ละตำแหน่งได้แสดงถึงภาพจักรวาลอันสดใสของ จิสบาร์ โดยนำแรงบันดาลใจมาจากรายละเอียดที่โดดเด่นที่สุดในผลงานของเขา อันเป็นการเชื่อมโยงความแม่นยำของการประดิษฐ์เรือนเวลาเข้ากับการแสดงออกทางศิลปะด้วยการผสมผสานดีเอ็นเอ ของ แฟรงค์ มุลเลอร์ เข้ากับวิสัยทัศน์อันห้าวหาญของ จิสบาร์

คอลเลกชั่นที่รังสรรค์การแสดงเวลาด้วยรูปโฉมใหม่ของการสร้างสรรค์
เรือนเวลาคอลเลกชั่นนี้ถูกสร้างขึ้นมา 5 เวอร์ชั่น ด้วยการผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียงเวอร์ชั่นละ 50 เรือน ผลงานที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้นี้ได้ก้าวข้ามกรอบของเรือนเวลาแบบเดิม ๆ ด้วยการผสานแนวทางศิลปะเข้าไปอย่างลงตัว โดยมีทั้งเวอร์ชั่นวัสดุคาร์บอน สตีล ไทเทเนียม ไทเทเนียมเคลือบสีดำ และโรสโกลด์ โดยแต่ละเวอร์ชั่นล้วนสะท้อนถึงสุนทรียศาสตร์อย่างมีเอกลักษณะเฉพาะตัว ผ่านการออกแบบสุดพิถีพิถันเพื่อให้สอดคล้องกับภาพจักรวาลของ จิสบาร์

อย่างไรก็ตาม เรือนเวลาคอลเลกชั่นนี้มิได้เป็นเพียงทางเลือกเพิ่มเติมจากผลงานของศิลปินเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานที่สร้างแรงบันดาลใจและอิทธิพลให้กับเรือนเวลาอีกด้วย โดยสร้างบทสนทนาที่เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและเรือนเวลาระดับสูงเข้าด้วยกัน จิสบาร์ ได้สร้างสรรค์งานศิลป์ขึ้นมา 5 รูปแบบเพื่อให้เข้ากับเรือนเวลาแต่ละเวอร์ชั่นอย่างลงตัว การสื่อสารอย่างละเอียดอ่อนเกิดขึ้นบนหน้าปัดซึ่งเปรียบเสมือนผืนผ้าใบ ก่อกำเนิดเป็นการผสมผสานระหว่างวัตถุและงานศิลปะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จิสบาร์ กล่าวว่า “เรือนเวลานี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะของผม และงานศิลปะของผมก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเรือนเวลานี้ด้วย นี่คือการสร้างบทสนทนาทางศิลปะที่ไม่ซ้ำใคร”

งานศิลป์ที่สวมใส่ได้ และควรค่าต่อการครอบครอง
ผู้เป็นเจ้าของ แวงการ์ด เครซี อาวร์ส จิสบาร์ แต่ละท่าน มิได้เป็นเพียงผู้ครอบครองเรือนเวลาที่มีความพิเศษเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ดูแลงานศิลปะอันแท้จริง ซึ่งเป็นชิ้นงานศิลปะที่จับต้องได้จากความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินท่านนี้ โดยแต่ละเรือนจะมาพร้อมกับงานศิลปะบนผ้าใบลินินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่ง จิสบาร์ ลงมือสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยการลงสีด้วยมือก่อนที่จะแบ่งงานศิลปะออกเป็นจำนวน 50 ชิ้นในแต่ละผืน โดยมีคุณลักษณะดุจปริศนาที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งนักสะสมแต่ละท่านจะได้เป็นเจ้าของชิ้นงานเพียงหนึ่งเดียวของการสร้างสรรค์ครั้งนี้ โดยเป็นงานศิลปะของแท้ที่ได้รับการลงนามและประกอบเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกล่องบรรจุเรือนเวลา ด้วยการผสมผสานระหว่างการประดิษฐ์เรือนเวลาอันเลอเลิศและการแสดงออกทางศิลปะ แฟรงค์ มุลเลอร์ และ จิสบาร์ ได้มอบประสบการณ์ให้กับเรือนเวลาแต่ละเรือนโดยจะเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา เพราะเป็นชิ้นงานที่จับต้องได้ของการพบกันระหว่างความแม่นยำแห่งจักรกลและแรงบันดาลใจทางศิลปะ

แม้แต่กล่องบรรจุก็กลายเป็นส่วนขยายของงานศิลปะ ซึ่งเน้นย้ำถึงการบรรจบกันระหว่างความเป็นอัจฉริยะด้านกลไกของ แฟรงค์ มุลเลอร์ และจักรวาลหลากสีสันของ จิสบาร์ การออกแบบที่เป็นแรงบันดาลให้กับหน้าปัดนั้น เป็นลวดลายคลาสสิกที่สะท้อนผ่านเรือนเวลาและสร้างความเชื่อมโยงที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ของการแสดงเวลาและศิลปะ


อารมณ์แห่งการแสดงเวลาอย่างแตกต่าง
เครซี อาวร์ส ของ แฟรงค์ มุลเลอร์ เป็นหนึ่งในไอคอนระดับสัญลักษณ์ของวงการประดิษฐ์เรือนเวลาร่วมสมัย ที่ท้าทายธรรมเนียมเดิมด้วยการแสดงเวลาในรูปแบบที่เหนือระเบียบแบบแผน ด้วยหลักชั่วโมงที่ไม่ได้จัดเรียงต่อเนื่องกัน ซึ่งสร้างลักษณะการเคลื่อนไหวดุจการเต้นบัลเล่ต์ที่น่าชม ทำให้การอ่านค่าเวลาเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างน่าประหลาดใจ แนวทางที่ไม่ธรรมดานี้ได้สะท้อนผ่านจักรวาลอันเป็นอิสระและมีชีวิตชีวาของ จิสบาร์ อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยกฎการรับรู้เวลาที่ถูกตีความใหม่

เช่นเดียวกับงานศิลปะของเขา ที่ซึ่งเหล่าไอคอนในอดีตถูกผสานเข้ากับสัญลักษณ์แห่งปัจจุบัน เครซี อาวร์ส โดย จิสบาร์ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับรูปทรงของหลักชั่วโมง เพื่อกระตุ้นอารมณ์ใหม่ ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงบนความมหัศจรรย์แห่งการแสดงเวลา

การแสดงออกถึงความประณีตและความพิเศษ
ความร่วมมือของ แฟรงค์ มุลเลอร์ กับ จิสบาร์ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองให้กับงานฝีมืออันเป็นเลิศและวิสัยทัศน์ทางศิลปะอันล้ำสมัย ถูกนำเสนอที่งาน เวิลด์ พรีเซนเทชั่น ออฟ โอต ออร์โลเฌรี ในเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของผู้ผลิตเรือนเวลารายนี้ งานอันทรงเกียรตินี้ได้รวบรวมเหล่าผู้แทนจำหน่ายและสื่อมวลชนจากทั่วโลกมาอยู่ ณ สถานที่เดียวกันในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ ภายใต้จักรวาลการสร้างสรรค์อันน่าหลงใหลของ แฟรงค์ มุลเลอร์

ในโอกาสนี้ เรือนเวลา ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัดคอลเลกชั่นนี้ได้ถูกจัดแสดงร่วมกับผืนผ้าใบลินิน 5 ผืนที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยแรงบันดาลใจจากงานศิลปะชิ้นต้นฉบับของ จิสบาร์ เพื่อให้เหล่านักสะสมได้ชื่นชม ด้วยการแสดงสุดพิเศษที่ศิลปินจะมาทำการสร้างชิ้นงานแต่ละชิ้นกันแบบสด ๆ โดยเสริมรายละเอียดที่ไม่ซ้ำใครจากการวาดด้วยมือ เมื่อทำเสร็จแล้ว งานศิลปะแต่ละชิ้นจะถูกแบ่งออกเป็น 50 ชิ้นโดยมีลายเซ็นกำกับอยู่ทุกชิ้น เพื่อให้ผู้ซื้อแต่ละท่านได้เป็นเจ้าของชิ้นงานที่ได้รับการรับรองจาก จิสบาร์ การนำเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจในครั้งนี้แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมกันของ แฟรงค์ มุลเลอร์ และ จิสบาร์ อย่างชัดเจน นั่นก็คือ การก้าวข้ามขอบเขตของเรือนเวลาชั้นสูงและศิลปะร่วมสมัย เพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานอันเลอเลิศที่เวลาและความคิดสร้างสรรค์ถูกผสานรวมกันเป็นการแสดงออกถึงความล้ำเลิศของการประดิษฐ์เรือนเวลา

เกี่ยวกับ เฮาส์ ออฟ แฟรงค์ มุลเลอร์
เฮาส์ ออฟ แฟรงค์ มุลเลอร์ (House of Franck Muller) ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1991 โดยช่างนาฬิกาชั้นครู แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาและนักธุรกิจ วาร์ทัน เซอร์เมกส์ (Vartan Sirmakes) โดยเป็นหนึ่งในบริษัทนาฬิกาอิสระที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในการประดิษฐ์เรือนเวลาร่วมสมัย โดย แฟรงค์ มุลเลอร์ นั้นเลื่องชื่อในด้านความประณีตในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และส่วนใหญ่ยังเป็นนวัตกรรมกลไกที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตน ณ หมู่บ้าน เกนท์ออด (Genthod) ในเมืองเจนีวา หรือที่รู้จักกันในชื่อ วอทช์แลนด์ (Watchland) ด้วยความสำเร็จจากการเปิดตัวผลงานที่เป็นครั้งแรกของโลกและสิทธิบัตรมากกว่า 50 ฉบับ แฟรงค์ มุลเลอร์ ได้สร้างสีสันด้วยประดิษฐกรรมเวลาชิ้นเอกของโลก ที่ได้รับความชื่นชมจากผู้คนที่สนใจและหลงใหลในเรือนเวลา รวมถึงเหล่าคนดังจากทั่วโลก เช่นเดียวกับผลงานการออกแบบอันเป็นการสะท้อนถึงความก้าวหน้าและความล้ำสมัยทางเทคนิคซึ่งมอบให้กับประวัติศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูง

เกี่ยวกับ จิสบาร์
จิสบาร์ (Jisbar) ถือกำเนิดขึ้นใน ค.ศ. 1989 เขาเป็นศิลปินชาวฝรั่งเศสที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวด้วยการผสมผสานมรดกจากเหล่าปรมาจารย์ในประวัติศาสตร์ศิลป์ เข้ากับพลังอันมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมป๊อปและศิลปะแนวสตรีท ผลงานของเขาเด่นด้วยแนวทางร่วมสมัยที่แน่วแน่ซึ่งตีความผลงานศิลปะระดับไอคอนชิ้นต่าง ๆ ขึ้นใหม่ผ่านเลนส์สมัยใหม่อย่างถี่ถ้วนทั้งลักษณะความเป็นเมืองและสีสัน จากผ้าใบสู่ผ้าใบ จิสบาร์ ได้วิเคราะห์และสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกของ บอตตีเชลลี (Botticelli) ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) และฟริดา คาห์โล (Frida Kahlo) ขึ้นมาใหม่ โดยผสมผสานผลงานเหล่านี้ให้เป็นภาษาภาพที่ทรงพลังซึ่งเชื่อมโยงการอ้างอิงถึงแฟชั่น ความหรูหรา กีฬา และดนตรี เข้าด้วยกัน สไตล์ที่จดจำได้ทันทีของเขาผสมผสานท่าทางตามสัญชาตญาณ รายละเอียดของกราฟิก และการพิมพ์ที่โดดเด่น ได้สร้างสรรค์การตีความใหม่ในการสนทนาของศิลปะคลาสสิกกับรหัสดีไซน์แบบร่วมสมัย เขาปรากฎตัวบนเวทีศิลปะระดับนานาชาติด้วยการจัดแสดงผลงานในแกลเลอรีและงานแสดงศิลปะที่มีชื่อเสียงใน นิวยอร์ก เวนิส สิงคโปร์ เจนีวา และดูไบ ซึ่งดึงดูดความสนใจของนักสะสมและผู้ชื่นชอบศิลปะร่วมสมัยไปทั่วโลก จิสบาร์ มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องโดยขยายขอบเขตศิลปะของเขาผ่านโครงงานสร้างสรรค์ที่ผสมผสานภาพวาด ศิลปะดิจิตอล และการทำงานชิ้นพิเศษร่วมกับบุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ การสำรวจประเพณีและความทันสมัยอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ทำให้สถานะของเขาแข็งแกร่งขึ้นในฐานะบุคคลสำคัญในแวดวงศิลปะร่วมสมัย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้