Last updated: 27 พ.ค. 2568 | 209 จำนวนผู้เข้าชม |
เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ ประเภทบุคคลชายรายการแรกของฤดูกาล จัดขึ้นเป็นประจาทุกปีที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ อันโด่งดังด้วยความสวยงามของสนามและการออกแบบอย่างพิถีพิถันที่ทาให้การเล่นที่แม่นยาได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม โดยเป็นการแข่งขันกอล์ฟชายระดับเมเจอร์เพียงรายการเดียวจากทั้งหมดสี่รายการ ที่ผู้เข้าร่วมจะต้องได้รับคาเชิญเท่านั้น และจะจัดขึ้นที่สนามเดียวกันทุกปี ในฐานะพันธมิตรของการแข่งขัน Rolex ได้สนับสนุนการรักษาประเพณีการแข่งขันและความเป็นเลิศนี้มาตั้งแต่ปี 1999
ปีนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 89 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 เมษายน และจะเป็นการฉลองครบรอบ 3 เหตุการณ์สาคัญสาหรับสมาชิกในครอบครัว Rolex ได้แก่ การครบรอบ 10 ปีที่ จอร์แดน สปีธ (Jordan Spieth) คว้ากรีนแจ็คเก็ตอันทรงเกียรติ (ปี 2015) การครบรอบ 20 ปีที่ ไทเกอร์ วูดส์ (Tiger Woods) คว้าแชมป์มาสเตอร์สสมัยที่ 4 (ปี 2005) ด้วยช็อตประวัติศาสตร์ที่หลุม 16 ที่โด่งดัง และการครบรอบ 40 ปีที่ เบอร์นาร์ด ลังเกอร์ (Bernhard Langer) คว้าแชมป์มาสเตอร์สครั้งแรก (ปี 1985) โดย Bernhard Langer ซึ่งเป็นแชมป์มาสเตอร์ส 2 สมัยและอดีตมือ 1 ของโลก จะปิดฉากอาชีพที่น่าทึ่งของเขาที่สนามออกุสต้า เนชันแนล ซึ่งเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันมาสเตอร์สมาแล้วถึง 40 ครั้ง และเป็นสมาชิกทีมยุโรปในการแข่งขัน Ryder Cup 10 ครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาได้ 5 ครั้ง และยังเคยทาหน้าที่เป็นกัปตันที่ไม่ลงเล่นของทีมยุโรปที่ชนะในปี 2004 ด้วย
เมื่อพูดถึงความรู้สึกของเขากับการแข่งขันมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ Jordan Spieth กล่าวว่า "ชัยชนะในเมเจอร์ครั้งแรกของผมน่าจะเป็นความทรงจาที่พิเศษที่สุด มันเป็นความฝันที่ผมตั้งเป้ามาตั้งแต่เด็ก ที่อยากจะคว้าแชมป์เมเจอร์ และรายการมาสเตอร์สก็เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ผมชอบที่สุด ผมคิดว่ามันย้อนกลับไปถึงการได้เห็น Tiger คว้าชัยที่นั่น การเติบโตในอเมริกา มันเหมือนกับการมองซ เปอร์ โบวล์ของกอล์ฟ ซึ่งเป็นจุดส งสุดของกีฬาของเรา ประวัติศาสตร์ของสนามกอล์ฟและวิธีที่มันได้รับการด แลรักษา การห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในเขตที่มีเชือกกั้น และห้ามถ่ายภาพ ทาให้รายการนี้แตกต่างจริงๆ”
สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ (Scottie Scheffler) ซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัว Rolex Testimonee จะกลับมาป้องกันตาแหน่งแชมป์ของเขาหลังจากคว้ากรีนแจ็คเก็ตเป็นครั้งที่สองในระยะเวลาเพียงสามปี เมื่อเดือนเมษายน 2024 นักกอล์ฟชาวอเมริกันผู้นี้มีปีที่น่าทึ่งด้วยความสาเร็จที่โดดเด่นมากมาย รวมถึงการเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ชนะการแข่งขัน PGA TOUR® ได้ถึงเจ็ดครั้ง นับตั้งแต่ Tiger Woods ทาได้ในปี 2007 และการคว้าแชมป์ FedEx Cup และหาก Scheffler ประสบความสาเร็จในการป้องกันตาแหน่งแชมป์ที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ เขาจะทาสถิติเทียบเท่ากับ Jack Nicklaus ซึ่งเป็นสมาชิก Rolex Testimonee อีกท่านหนึ่ง ในฐานะนักกอล์ฟที่ชนะทัวร์นาเมนต์อันทรงเกียรตินี้ถึงสามครั้งในสี่ปี
เมื่อกล่าวถึงชัยชนะในปีที่แล้ว Scottie Scheffler ระบุว่า "เพราะมันคือรายการมาสเตอร์ส มันจึงมีบางสิ่งที่พิเศษเสมอ เมื่อคุณเติบโตที่นี่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือการแข่งขันลาดับแรกที่เราหมายตาไว้ – กับประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเมนต์นี้ สนามกอล์ฟ ออกุสต้า เนชันแนล และการเล่นในสนามกอล์ฟเดียวกันทุกปี คุณแค่ฝันถึงโอกาสที่จะได้เล่นในทัวร์นาเมนต์นั้นและมีโอกาสที่จะชนะมัน" 2/3
การคว้าชัยชนะในรายการ มาสเตอร์ส ถือเป็นหนึ่งในความสาเร็จสูงสุดในกีฬากอล์ฟ ซึ่งบ่อยครั้งถือว่าเป็นจุดสูงสุดของกอล์ฟ มันต้องอาศัยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการแสวงหาความเป็นเลิศ ความมุ่งมั่นที่จะเป็นที่หนึ่ง และความทุ่มเทในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาให้ Rolex เป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชนะจะได้รับคาเชิญเข้าร่วมการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้ตลอดชีวิต รายการเดอะ มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องเกียรติยศและประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ความเป็นเลิศในระดับสูงสุด โดดเด่นในด้านชื่อเสียงและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ได้รับการยกย่องเรื่องสภาพสนามที่สวยงาม ตั้งแต่กรีนที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันไปจนถึงทางเดินที่เรียงรายไปด้วยต้นอาซาเลีย ทุกรายละเอียดที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ สะท้อนถึงชื่อเสียงของทัวร์นาเมนต์ในด้านความแม่นยาและความเป็นเลิศ
สมาชิกคนอื่นๆ ของครอบครัว Rolex ที่หวังจะท้าชิงและคว้าแชมป์เมเจอร์แรกของพวกเขา ได้แก่ นักกอล์ฟสวีเดนที่มีพรสวรรค์อย่าง ลุดวิก อาเบิร์ก (Ludvig Åberg) ซึ่งจะพยายามสร้างผลงานจากการจบอันดับที่สองในทัวร์นาเมนต์เมื่อปีที่แล้ว และ วิกเตอร์ ฮอฟแลนด์ (Viktor Hovland) ซึ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ นี้ เป็นครั้งที่หก และได้รับเกียรติเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ดีที่สุด (Low Amateur Honors) ในปี 2019 ในฐานะเป็นนักกอล์ฟนอร์เวย์คนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันมาสเตอร์ส และนักกอล์ฟที่เป็น Rolex Testimonee ท่านอื่นๆ เช่น คีแกน แบรดลีย์ (Keegan Bradley), เจสัน เดย์ (Jason Day), ไบรสัน เดอแชมโบ (Bryson DeChambeau), โธมัส เดตรี (Thomas Detry), นิค ดันแล็ป (Nick Dunlap), แมตต์ ฟิตซ์แพทริก (Matt Fitzpatrick), ซุงแจ อิม (Sungjae Im), บรูคส์ เคปก้า (Brooks Koepka), คอลลิน โมริคาวา (Collin Morikawa), โฮอาคิน เนียแมน (Joaquín Niemann) และจัสติน โธมัส (Justin Thomas) ก็จะร่วมชิงชัยเช่นเดียวกับอดีตแชมป์ เฟร็ด คัพเพิลส์ (Fred Couples) (1992), ฮิเดกิ มัตสึยามะ (Hideki Matsuyama) (2021), ฟิล มิคเคลสัน (Phil Mickelson) (2004, 2006, 2010), โฆเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล (José María Olazábal) (1994, 1999), จอน ราห์ม (Jon Rahm) (2023) และอดัม สก็อต (Adam Scott) (2013)
ศึกเดอะ มาสเตอร์ส ยังมีส่วนสนับสนุนการพัฒนากีฬากอล์ฟ ด้วยการสนับสนุนการแข่งขันของนักกอล์ฟมือสมัครเล่น ได้แก่ รายการ Augusta National Women’s Amateur ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2019 โดยมีนักกอล์ฟสมัครเล่นหญิงชั้นนาของโลกเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ Rose Zhang สมาชิกของ Rolex Testimonee ที่คว้าแชมป์ในปี 2023 ก่อนที่จะเทิร์นโปร หลังจากนั้นไม่นาน โดยได้คว้าชัยสองครั้งใน LPGA Tour จนถึงปัจจุบัน การแข่งขันในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน โดยรอบสุดท้ายจะเล่นที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ นอกจากนี้ การแข่งขันมาสเตอร์สยังสนับสนุนการแข่งขันชิงแชมป์สมัครเล่นสาคัญรายการอื่นๆ เช่น Asia-Pacific Amateur Championship และ Latin America Amateur Championship ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขอบเขตและการเข้าถึงทั่วโลกของมันในวงการกอล์ฟ
ความสัมพันธ์ของ Rolex กับกีฬากอล์ฟย้อนกลับไปถึงปี 1967 เมื่อ Arnold Palmer ร่วมกับเพื่อนสนิทและสมาชิก The Big Three เช่น Nicklaus และ Gary Player ได้เข้าร่วมเป็น Rolex Testimonee คนแรกๆ ของ Rolex และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การมีส่วนร่วมของ Rolex ในกีฬากอล์ฟก็ได้แผ่ขยายออกไปอย่างมาก โดยขยายการสนับสนุนในทุกระดับของกีฬา ทั้งนักกอล์ฟชั้นนาและสมัครเล่น หน่วยงานที่ดูแล และทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปฏิทินการแข่งขันกอล์ฟ
เกี่ยวกับ ROLEX และ GOLF
Rolex เฉลิมฉลองความสาเร็จของมนุษย์ ด้วยการยกย่องเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายและอารมณ์ความรู้สึก ที่นาไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสาเร็จจากการตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง ที่ไม่ใช่เพียงแค่ถ้วยรางวัล ตลอดเกือบ 60 ปีแล้วที่ Rolex ได้ร่วมสร้างตานานอันยั่งยืนกับวงการกอล์ฟ ผ่านความร่วมมือกับนักกีฬาระดับแนวหน้า รายการแข่งขันระดับโลก และองค์กรชั้นนา พร้อมยกระดับมาตรฐานแห่งความเป็นเลิศในทุกกิจกรรมที่แบรนด์ได้มีส่วนร่วม ความร่วมมืออันยาวนานนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1967 เมื่อ Arnold Palmer ร่วมกับ Jack Nicklaus และ Gary Player ก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟกลุ่มแรกที่ได้รับเกียรติเป็น Rolex Testimonee ผู้เล่นระดับตานานทั้งสามคนนี้เป็นที่รู้จักในนาม The Big Three ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการกอล์ฟไปตลอดกาล การเป็นพันธมิตรกับ Rolex ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความมุ่งมั่นที่มีร่วมกัน คือเพื่อพัฒนาเกมการเล่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความแม่นยาที่ไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่นั้นมา ความร่วมมือนี้ก็เติบโตขยายขอบเขตออกไป แทรกซึมอยู่ในเกมการแข่งขันทุกระดับทั่วโลก ตั้งแต่การแข่งขันของนักกอล์ฟฝีมือชั้นยอดและระดับตานาน ไปจนถึงการแข่งขันชิงแชมป์ระดับเมเจอร์ทุกรายการ ซึ่งความสาเร็จที่ผ่านมาตอกย้าถึงการประสบความสาเร็จขั้นสูงสุดในกีฬานี้ เช่นเดียวกับทัวร์นาเมนต์ระดับมืออาชีพชั้นแนวหน้า และการแข่งขันชิงแชมป์ระดับมือสมัครเล่นทั่วโลก ซึ่งมีชื่อของ Rolex ปรากฏอยู่เสมอ
Rolex มุ่งมั่นสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟระดับมือสมัครเล่นอย่างเต็มที่ และค่านิยมของแบรนด์ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นระดับชั้นนาทั่วโลก การสนับสนุนกีฬากอล์ฟของ Rolex นั้นหล่อหลอมจากความซื่อตรงและการเคารพต่อขนบปฏิบัติที่ส่งเสริมความเชี่ยวชาญและการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คงอยู่ต่อไป ตลอดจนความเข้าใจถึงความสาคัญในการลงทุนส่งเสริมเพื่อพัฒนาวงการกีฬาให้ยั่งยืนสาหรับคนรุ่นต่อไป
เกี่ยวกับ ROLEX
กิตติศัพท์ด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญที่เหนือชั้น
Rolex คือผู้ผลิตนาฬิกาแบบบูรณาการอย่างอิสระจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสานักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ซึ่งแบรนด์มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ ความสง่างาม และคุณค่าอันทรงเกียรติ กลไกนาฬิกา Oyster Perpetual และ Perpetual ผ่านการรับรองจาก COSC ก่อนเข้าสู่การทดสอบอย่างเข้มข้นภายในองค์กรเพื่อพิสูจน์ความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพ และความทนทานสูงสุด การรับรองสถานะ Superlative Chronometer สามารถสังเกตได้จากตราสัญลักษณ์สีเขียว เพื่อเป็นการรับประกันว่านาฬิกาทุกเรือนผ่านการทดสอบเฉพาะโดย Rolex ภายในห้องปฏิบัติการของแบรนด์ตามเกณฑ์อันเข้มงวดที่กาหนดขึ้น ซึ่งจะได้รับการประเมินโดยองค์กรอิสระจากภายนอกอยู่เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่า Rolex ยังคงเป็นมาตรฐานสูงสุดแห่งเรือนเวลา
คาว่า ‘Perpetual’ ที่ปรากฏอยู่บนนาฬิกา Rolex Oyster ทุกเรือนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คาที่สลักอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา หากแต่หมายถึงปรัชญาที่หล่อหลอมวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน Hans Wilsdorf (ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ) ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้บ่มเพาะแนวคิดของความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน ที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ และเป็นจุดกาเนิดของนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาที่สาคัญของ Rolex อีกมากมาย อาทิ รุ่น Oyster นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของโลกที่กันน้าได้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1926 และกลไกไขลานอัตโนมัติ Perpetual rotor ที่ Rolex คิดค้นขึ้นในปี 1931 ทั้งนี้ Rolex ได้จดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 600 ฉบับตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแบรนด์ ที่โรงงานทั้งสี่แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์ได้ออกแบบ พัฒนา และผลิตชิ้นส่วนสาคัญของนาฬิกาเอง นับตั้งแต่การหล่อส่วนทองอัลลอย การประกอบกลไก การประดิษฐ์ด้วยฝีมือเชิงช่าง การประกอบตัวเรือน และการเก็บรายละเอียดของกลไก ตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา นอกจากนี้ Rolex ยังมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผลงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม กีฬา การสารวจ ตลอดจนบุคคลผู้ทุ่มเทในการแสวงหาแนวทางเพื่ออนุรักษ์โลกใบนี้ให้ยั่งยืน
6 มิ.ย. 2568
13 มิ.ย. 2568
6 มิ.ย. 2568
13 มิ.ย. 2568