LAURENT FERRIER Sport Auto 79

Last updated: 17 มิ.ย. 2568  |  24 จำนวนผู้เข้าชม  | 

LAURENT FERRIER Sport Auto 79

หลังจากผ่านการแข่งขันสุดหฤโหดยาวนาน 24 ชั่วโมงเป็นระยะทาง 3,988 กิโลเมตร Laurent Ferrier (โลรองต์ แฟร์ริ เยร์), François Servanin (ฟรองซัวส์ แซร์วาแนน) และ François Trisconi (ฟรองซัวส์ ทริสโคนี) สามเพื่อนสนิทก็ขับรถ เข้าเส้นชัย พร้อมคว้าอันดับสามในการแข่งรถระดับตำนานอย่าง Le Mans (เลอ มังส์) ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ ยิ่งใหญ่สำหรับนักแข่งสมัครเล่นทั้งสามคน ในวันนั้นพวกเขาได้รับทั้งถ้วยรางวัล และของขวัญแสนพิเศษซึ่งคือ นาฬิกาเรือนหนึ่งและนั่นเอง คือจุดเริ่มต้นของความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่า คือการก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาที่ซื่อสัตย์ต่อคุณค่าดั้งเดิม เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหล และความงามแบบคลาสสิกโดยรากฐานแรกของแบรนด์นาฬิกานี้ได้ถูกวางลงอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 10 มิถุนายน 1979 แม้จะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าบริษัทจะถือกำเนิดขึ้นจริง แต่ความฝันก็ได้เริ่มต้นแล้วในวันนั้น


Sport Auto 79
ด้วยเรือนเวลา Sport Auto (สปอร์ต ออโต้) รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ Laurent Ferrier (โลรองต์ แฟร์ริเยร์) มิได้เพียงแค่หยิบเรือน เดิมมาทำใหม่ หากแต่เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของการ “รำลึก” สู่การสร้างสรรค์ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีของแบรนด์ Sport Auto 79 (สปอร์ต ออโต้ 79) เรือนนี้จึงเปรียบเสมือนการคารวะต่อห้วงเวลาอันไร้กาลเวลา ชัยชนะที่งดงาม ทว่า ฝังรากไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ตลอดกาล ห้วงเวลานั้นก็คือ โพเดียมอันดับ 3 ในการแข่งขัน Le Mans (เลอ มังส์) 24 ชั่วโมง ปี 1979 ชัยชนะในวันนั้น ไม่ได้เพียงนาถ้วยรางวัลกลับบ้าน แต่ยังได้วางเส้นทาง ชีวิตของสองผู้ก่อตั้งสู่โลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาที่เรารู้จักกันในวันนี้

Sport Auto 79 (สปอร์ต ออโต้ 79) รุ่นใหม่นี้จึงเป็นตัวแทนของความทรงจำต้นกาเนิด มันถ่ายทอดจิตวิญญาณของถ้วย รางวัลที่แม้จะ “มองไม่เห็น” ด้วยตา แต่กลับ “เปลี่ยนชีวิต” ได้อย่างเด็ดขาด ในท้ายที่สุดมันคือนาฬิกาที่บอกเล่า “จุด เปลี่ยน” ของชีวิต จากความหลงใหลหนึ่งสู่การเดินทางของอีกความหลงใหลหนึ่งอย่างงดงามและทรงพลัง

ความประณีตอย่างแยบยล
หน้าปัดสีครีมเคลือบผิวแบบโอพาลีน ให้ผิวสัมผัสคล้ายแป้งเนื้อละเอียด เกิดจากกระบวนการเคลือบผิวด้วยไฟฟ้า ที่มอบเฉด ชมพูเงินอมกุ หลาบอย่างแผ่วเบาให้กับพื้นผิว รายละเอียดเหล่านี้สะท้อนถึง ความละเมียดละไมและความถ่อม ตน ของสองผู้ก่อตั้ งแบรนด์ อดีตนักแข่งรถที่ไม่เคยโอ้อวดกับตาแหน่งอันดับ 3 ที่พวกเขาได้ในปี ’79 แต่เลือกจะจดจำมัน ไว้ด้วยความเงียบขรึมและภาคภูมิใจในใจตนเอง

“พวกเราไม่ใช่แชมป์ โลกหรอก” ประโยคที่Laurent (โลรองต์) มักพูดติดปากอยู่เสมอ
เพื่อสร้างความตัดกันอย่างมีชั้นเชิงกับหน้าปัดที่เรียบขรึม รุ่นใหม่นี้จึงมาพร้อมกับตัวเรือนและสายที่ทำจากเรดโกลด์ 5N ทั้งเรือนที่ปล่งประกายอย่างหรูหราแต่ไม่โอ้อวด โครงสร้างของตัวเรือนและสายถูกออกแบบด้วย เส้นโค้งหลายชั้นที่สอด ประสานกันอย่างประณีตราวกับเป็นการสลักเรื่องราวของการแข่งขันอันเป็นตำนานไว้ในทุกมุมมอง ความสูงศักดิ์ของโลหะมีค่านี้เปรียบเสมือนการสื่อถึงคุณค่าที่แท้จริงของรางวัลในวันนั้น ไม่ใช่เพียงถ้วยรางวัล หากแต่คือความกล้าหาญ ในการออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิต

หลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกา ทำจากเรดโกลด์ 5N เพิ่มความชัดเจนด้วยการเคลือบซุปเปอร์ลูมิโนว่าสีขาว เพื่อให้สามารถอ่านค่าได้ชัดเจนแม้ในที่แสงน้อยที่ตาแหน่ง 6 นาฬิกา มีหน้าปัดย่อยสำหรับวินาทีตกแต่งด้วยการขัดลายก้นหอย พร้อมกับมาร์กเกอร์สีเทาเนื้อแป้งเพิ่มลูกเล่นอย่างมีรสนิยม เช่นเดียวกับนาฬิการุ่นอื่น ๆ ในคอลเลกชัน Laurent Ferrier (โล รองต์ แฟร์ริเยร์) จุดเด่นคือความชัดเจนในการอ่านเวลา ซึ่งได้รับการปรับให้ดียิ่งขึ้นในรุ่นนี้ผ่านสเกลนาทีรอบหน้าปัดที่ใช้โทนสีเทาเนื้อแป้งเช่นเดียวกัน

โลโก้และเส้นไขว้กลางหน้าปัด ถูกจัดวางให้เข้ากันอย่างกลมกลืนในโทนเดียวกัน นอกจากนี้ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา มีช่อง แสดงวันที่แบบลาดเอียงขอบเฉียง ซึ่งขับเน้นด้วยเส้นพิมพ์ที่ประณีตและเข้าชุดกัน สุดท้ายคำว่า "Sport Auto" (สปอร์ต ออโต้) ปรากฏอย่างแนบเนียนในโทนเดียวกับหน้าปัดระหว่างเข็มกลางและหน้าปัดวินาที เป็นดีเทลเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับทุกรุ่นในคอลเลกชันเดียวกัน

ความเรียบง่ายที่สง่างาม
ทุกพื้นผิวของตัวเรือนผ่านการตกแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อขับเน้นเสน่ห์เฉพาะตัว ขอบตัวเรือนตกแต่งด้วยลายขัดซาตินแบบวงกลม ให้สัมผัสที่นุ่มนวลตัดกับด้านข้างที่ขัดเงาอย่างประณีต ขณะที่ตัวเรือนตรงกลางเลือกใช้ลายขัดซาตินในแนวตั้งเพื่อเพิ่มมิติให้กับงานออกแบบ สายโลหะแบบสามข้อยังคงแนวคิดการตัดสลับพื้นผิวไว้ได้อย่างกลมกลืนด้วย พื้นผิวขัดซาตินแนวตั้งที่ขับเน้นด้วยด้านข้างที่ลาดเอียงขัดเงา สายนาฬิกาถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับตัวเรือนได้อย่างลงตัว มงกุฎทรงลูกบอลขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ถูกออกแบบให้โค้งรับกับตัวเรือนเพื่อความสะดวกในการจับหมุนขึ้นลาน และด้วยการขันเกลียวอย่างแน่นหนา ทำให้นาฬิกาเรือนนี้สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 120 เมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ

ด้านข้างแต่ละฝั่งของตัวเรือนได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยเทคนิคเฉพาะ ขอบหน้าปัด (bezel) ขัดแต่งแบบซาตินลายวงกลม โดยมีขอบด้านข้างที่ขัดเงาคล้ายกระจกตัดกับตัวเรือนกลางที่ใช้การขัดแบบ ซาตินแนวตั้งสายโลหะแบบสามข้อต่อออกแบบตามแนวคิดสลับผิวสัมผัสนี้เช่นกัน ด้วยพื้นผิวซาตินบรัชแนวตั้งและขอบข้างที่ขัดเงาแบบลาดเอียงอย่างลงตัว เม็ดมะยมแบบสกรูทรงลูกบอลอันเป็นเอกลักษณ์ ถูกบูรณาการอย่างกลมกลืนกับตัวเรือนกลาง ด้วยความโค้งมนที่ช่วยให้จับหมุนได้ง่าย เพื่อเริ่มต้นกลไกอัตโนมัติได้อย่างสะดวก นาฬิกาเรือนนี้กันน้ำได้ลึกถึง 120 เมตร ซึ่งมอบความมั่นใจและความสบายใจในการใช้งานทุกวันอย่างเต็มที่

ศิลปะแห่งรายละเอียด
นาฬิการุ่น Sport Auto (สปอร์ต ออโต้) เรือนนี้มาในตัวเรือนเรดโกลด์ 5N มาพร้อมกับกลไก LF270.01 ซึ่งเป็นกลไก อัตโนมัติแบบมีไมโครโรเตอร์ ที่ถูกออกแบบ ตกแต่ง และประกอบขึ้นอย่างประณีตในเวิร์กช็อปที่เจนีวา กลไกนี้แข็งแรง และแม่นยา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากไมโครโรเตอร์ที่ใช้ระบบ natural escapement ตัวกลไกได้รับการตกแต่งด้วยมือ อย่างวิจิตร พร้อมติดตั้งโรเตอร์แกว่งทำจากแพลทินัม 950 ไมโครโรเตอร์นี้ยังมีลวดลายแกะสลักด้วยเลเซอร์อย่างละเอียด ซึ่งแฝงไว้ด้วยสัญลักษณ์ตัวเลขที่เป็นเกียรติแก่การแข่งขันปี 1979 ที่จะเห็นได้เฉพาะผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมเท่านั้น

สอดคล้องกับชื่อเสียงอันโด่งดังของ Laurent Ferrier (โลรองต์ แฟร์ริเยร์) ในด้านงานตกแต่งที่ไร้ที่ติ กลไกภายในจึง เปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกแห่งศิลปะเครื่องกล ที่ผู้ชื่นชอบนาฬิกาจะได้ชื่นชมผ่านกระจกแซฟไฟร์ด้านหลังตัวเรือนอย่างเพลิดเพลิน ทุกส่วนของกลไกเปล่งประกายด้วยพลังผ่านสะพานจักรที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตด้วยการขัดแบบซาตินบรัชแนวนอน พร้อมเคลือบรูเทเนียมอย่างละเอียดอ่อนให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัยในเวลาเดียวกัน

ขั้นตอนการตกแต่งมากมายถูกทำด้วยมืออย่างประณีตในเวิร์กช็อป LF finishing (แอลเอฟ ฟินิชชิ่ง) โดยเฉพาะในบรรดางานเหล่านี้การตกแต่งสะพานโรเตอร์ที่โดดเด่นด้วยความแม่นยาอันน่าทึ่ง ตั้งแต่การทำมุมขอบให้โค้งมน การขัดเงาด้วยไม้เจียนเทียน และยาขัดเพชร รวมถึงพื้นผิวที่ขัดเงากระจก หรือเทคนิค “brouillage” (การขัดลายเส้นแบบขีด ข่วน) ที่ด้านแท่นเครื่อง โดยใช้เวลารวม 2 ถึง 3 ชั่วโมงสำหรับการตกแต่งเพียงชิ้นส่วนนี้ชิ้นเดียวเท่านั้นความเชี่ยวชาญ นี้ยังสะท้อนอยู่ในทุกชิ้นส่วนของกลไก ด้วยมุมภายในที่ซับซ้อนอย่างมาก, ผิวโลหะขัดเงาสีดำ และการตกแต่งแบบซาตินบรัชเคลือบรูเทเนียม หรือการขัดลายวงกลม ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกควบคุมและผลิตขึ้นภายในเวิร์กช็อปของโรงงานเองอย่างครบถ้วน

รางวัลแห่งวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญ
นาฬิการุ่นนี้ไม่ได้เป็นเพียงการระลึกถึงการแข่งขันหรือมิตรภาพเท่านั้นแต่ยังสะท้อนถึงรางวัลที่แท้จริง นั่นคือรางวัลที่คุณมอบให้กับตัวเอง เมื่อความปรารถนาเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อเปลวไฟแห่งความหลงใหลถูกจุดขึ้นและสุดท้าย ก่อให้เกิดชีวิตชีวา

เส้นสายที่บริสุทธิ์ของ Sport Auto 79 (สปอร์ต ออโต้ 79) สะท้อนเรื่องราวร่วมของความมั่นใจ ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นอย่างไม่ยอมแพ้ และถ้าในที่สุดแล้ว เราไม่ได้แค่ฉลองความทรงจำของความสำเร็จในอดีตเท่านั้นแต่เป็นการเฉลิมฉลองรางวัลแห่งความสำเร็จส่วนตัวต่างหาก นี่คือคำเชิญชวนให้ฉลองกับทุกคนที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความหลงใหล

ให้ก้าวข้ามเส้นชัย และทำฝันให้กลายเป็นความจริง...

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้