GUCCI High Watchmaking 2025

ในปี 2025 คอลเลกชันนาฬิกาชั้นสูงลำดับที่ห้าของ Gucci ได้เผยโฉมผลงานที่ก้าวล้ำทั้งในด้านงานฝีมือและนวัตกรรม โดยเปิดตัวเรือนเวลาใหม่ 7 รุ่น ภายใต้ไลน์ G-Timeless, GUCCI 25H และ Gucci Interlocking นาฬิกาแต่ละเรือนในคอลเลกชันใหม่นี้นับเป็นก้าวสำคัญของแต่ละไลน์ สะท้อนการพัฒนาอย่างกล้าหาญทั้งในด้านเทคนิค ซับซ้อนของกลไก และการตกแต่งอันประณีต เพื่อสดุดีรหัสความงามของแบรนด์ ตลอดจนความชำนาญเชิงหัตถศิลป์ และความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดที่เป็นหัวใจของ Gucci

G-Timeless
คอลเลกชัน G-Timeless หนึ่งในผลงานเปี่ยมเอกลักษณ์ของ Gucci ได้รับการเติมเต็มด้วยนาฬิกาใหม่ 5 เรือนสุดหรู ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคชั้นสูงของ Métiers d'Art โดยได้แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหมลายเก่าในคลังมรดกของแบรนด์ แต่ละเรือนเปรียบดั่งงานศิลปะเฉพาะตัว ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Gucci อย่างลึกซึ้ง หน้าปัดทำหน้าที่เสมือนผืนผ้าใบจิ๋ว อุทิศให้กับงานหัตถศิลป์โบราณและศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง ทุกเรือนมีขนาด 40 มิลลิเมตร ประดับกลไกทูร์บิญองฝังเพชร และฝาหลังแกะสลักลวดลายด้วยมืออย่างประณีต

G-Timeliess รุ่นใหม่เรือนแรกถ่ายทอดลายพิมพ์ Flora อันเป็นสัญลักษณ์ของ Gucci ซึ่งวาดโดยศิลปินชาวอิตาเลียน Vittorio Accornero ผ่านงานประติมากรรมทองคำขาวที่งดงามราวบทกวี ดอกไม้จิ๋วถูกลงสีด้วยมืออย่างประณีตบนพื้นอีนาเมลขาวแบบ grand feu ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติและอัญมณี เช่น หยกสีม่วง ไข่มุกเปลือกหอย และเวอร์ไดต์ (verdite) ตัดกับสายจระเข้สีดำอย่างสง่างาม

G-Timeliess รุ่นที่สอง ในตัวเรือนทองคำขาว ได้แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอลายเรือ Velieri ของ Accornero ถ่ายทอดบทกวีแห่งท้องทะเลผ่านหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่ลงลายแกะสลักและแอร์บรัชด้วยมือ ประดับด้วยเพชร พร้อมเรือสองลำที่รังสรรค์จากเทคนิค ไมโครมาร์เก็ตทรี (micro-marquetry)—ลำหนึ่งประกอบด้วยชิ้นไม้ 28 ชิ้น อีกลำ 12 ชิ้น และตกแต่งด้วยปืนใหญ่ทองคำแบบนูน 3 มิติ ดาว พระจันทร์ และโลโก้ Gucci ที่เรืองแสง สร้างสัมผัสแห่งจักรวาลเหนือคลื่นทะเล ปิดท้ายด้วยสายจระเข้สีดำ

เรือนที่สามนั้น เป็นผลงานที่อุทิศให้กับโลกใต้น้ำจากลายผ้า Perle ในซีรีส์ Animalia หน้าปัดทองคำขาวล้อมเพชร ตกแต่งพื้นหลังด้วยอีนาเมลขาว grand feu จากนั้นจึงเลเซอร์ลายละเอียดและเพ้นท์ด้วยมือ ถ่ายทอดชีวิตสัตว์ทะเลอย่างวิจิตร ประดับด้วยโครโซเพรส (chrysoprase) หยก และลูกแก้วมูราโนจากเวนิส เพื่อเพิ่มประกายให้กับงานออกแบบ มาพร้อมสายจระเข้สีขาว

เรือนที่สี่สะท้อนแรงบันดาลใจจากลาย Safari ที่ Accornero วาดไว้ในปี 1969 ตัวเรือนทองคำโรสโกลด์ หน้าปัดเปลือกหอยมุกสลักลวดลายซาวานน่าด้วยเลเซอร์ และเพ้นท์ภาพสัตว์ป่าอย่างมีชีวิตชีวาโดยจิตรกรมือจิ๋วผู้ชำนาญ ปิดท้ายด้วยสายจระเข้สีเขียว

เรือนสุดท้ายถ่ายทอดความเร้าใจของกีฬาขี่ม้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของ Gucci จากผ้าพันคอวินเทจ สู่หน้าปัดที่ประดิษฐ์จากไม้โอลีฟอิตาเลียน 40 ชิ้น ใช้เทคนิคไมโครมาร์เก็ตทรี พร้อมชิ้นงานทองคำโรสโกลด์แกะสลักเป็นรูปม้าและนักขี่ม้า ซึ่งเพ้นท์สีด้วยมือ และประดับด้วยซาโวไรต์ไล่เฉดที่เพิ่มมิติของการเคลื่อนไหวให้กับตัวเรือน ปิดท้ายด้วยสายจระเข้สีดำอย่างสง่างามและทรงพลัง

GUCCI 25H
นับตั้งแต่การเปิดตัวกลไกเฉพาะของแบรนด์ในปี 2021 ตามมาด้วยทูร์บิญองแบบสเกเลตันในปี 2022 ปฏิทินร้อยปีในปี 2023 และกลไกตีบอกเวลาระบบ minute repeater ในปี 2024 คอลเลกชัน GUCCI 25H ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของศาสตร์การผลิตนาฬิกาในทุกๆ ปี และในปี 2025 นี้ก็ไม่ต่างกัน กับการเปิดตัวนาฬิกาสเกเลตันพร้อมกลไกทูร์บิญอง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโคลอสเซียมแห่งกรุงโรมโบราณ

แม้จะยังคงโดดเด่นด้วยตัวเรือนบางพิเศษ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของคอลเลกชัน โดยมีความหนาเพียง 8.4 มิลลิเมตร แต่ GUCCI 25H Amphitheater รุ่นใหม่นี้ก็ยกระดับความวิจิตรไปอีกขั้น ด้วยการตกแต่งหน้าปัดแบบสามมิติอันซับซ้อนจากเพชรทรงบาแก็ตต์ บนขอบด้านในของตัวเรือนโรสโกลด์หลายชั้น

ตำแหน่ง 6 นาฬิกาคือกรงทูร์บิญองไร้แกนหรือ flying tourbillon ที่โดดเด่นสะกดสายตา นาฬิกามาพร้อมสายจระเข้สีน้ำตาลเข้ม และหัวเข็มขัดประดับเพชรที่ออกแบบให้มีโครงสร้างสอดรับกับตัวเรือน

เรือนเวลานี้จึงเป็นบทใหม่ที่น่าทึ่งของคอลเลกชัน GUCCI 25H ซึ่งยังคงเดินหน้าผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับนวัตกรรมและศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงอย่างไร้ขีดจำกัด

Gucci Interlocking
หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 2024 คอลเลกชัน Gucci Interlocking ได้รับการสานต่ออย่างสง่างามในปีนี้ ด้วยนาฬิการุ่นใหม่ขนาด 41 มิลลิเมตร ตัวเรือนโรสโกลด์ที่ประดับเพชรหลากขนาดแบบโมเสก (mosaic) ซึ่งบรรจงฝังด้วยมืออย่างประณีต

เช่นเดียวกับรุ่นก่อน นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยตัวเรือนทรงหมอน (cushion-shaped) หนา 10.7 มิลลิเมตร มาพร้อมกลไก flying tourbillon ที่ตกแต่งด้วยโลโก้ Interlocking G และกลไกแสดงเวลาชั่วโมงแบบกระโดดหรือ jumping hours ที่ซับซ้อนและล้ำสมัย

ตัวเรือนตกแต่งด้วยเพชรหลากขนาดที่เปล่งประกายเล่นแสงราวอัญมณีมีชีวิต ขณะที่หน้าปัดสีดำแบบหลายชั้นถูกออกแบบอย่างแยบยล ประกอบด้วยแผ่นดิสก์บอกชั่วโมงเคลือบแล็กเกอร์ด้วยมือ แฝงตัวอย่างมีเสน่ห์อยู่ภายใต้กระจกแซฟไฟร์รมควัน และแผ่นดิสก์นาทีอยู่ใต้กระจกอเวนเจอรีน (aventurine) ซึ่งเปล่งประกายระยับและเคลื่อนไหวอย่างกลมกลืนกับน้ำหนักเหวี่ยงที่อยู่ด้านหลัง

ปิดท้ายด้วยสายจระเข้สีดำ เติมเต็มความหรูหราและความซับซ้อนทางวิศวกรรมกลไกที่หลอมรวมกันอย่างลงตัวในเรือนเวลาแห่งศิลป์รุ่นนี้

เกี่ยวกับ Gucci
Gucci ก่อตั้งขึ้นในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1921 และได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์หรูชั้นนำของโลกอย่างมั่นคง นับตั้งแต่การเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ Gucci ยังคงเดินหน้ากำหนดนิยามใหม่ให้กับความหรูหราและแฟชั่น โดยยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์ งานฝีมือแบบอิตาเลียน และนวัตกรรม ภายใต้การนำของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สเตฟาโน คานติโน (Stefano Cantino)

Gucci เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลักชัวรี่ระดับโลก Kering ซึ่งบริหารจัดการแบรนด์ชั้นนำด้านแฟชั่น เครื่องหนัง เครื่องประดับ และแว่นตาหรู

ติดตามและค้นพบเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Gucci ได้ที่ www.gucci.com