BVLGARI Bvlgari Bvlgari

ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของนาฬิกาคอลเลคชั่นบุลการี บุลการี (Bvlgari Bvlgari) ด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสานกับตำนานช่างอัญมณีแห่งโรมัน (Roman Jeweler) อย่างลงตัว พร้อมฉายประกายแสงอันโดดเด่นอีกครั้งบนเรือนเวลาที่เป็นดั่งจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ด้วยการแสดงออกอันเป็นหัวใจแห่งสุนทรียะความสวยงามของบุลการี (Bvlgari) ที่นำพานาฬิกา บุลการี บุลการี ให้กลายเป็นมาตรฐานแห่งความไร้กาลเวลา และในวันนี้ได้รับการจินตนาการขึ้นใหม่ภายใต้ความวิจิตรประณีตของหน้าปัดหินอ่อนใหม่

มนตร์วิเศษของไอคอนนี้อยู่ที่ความสามารถในการสร้างสรรค์ตนเองขึ้นมาใหม่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นตัวแทนถึงการทดสอบแห่งกาลเวลา โดยคอลเลคชั่น บุลการี บุลการี ได้ออกเดินทางบนเส้นทางนี้มาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี คอลเลคชั่นนี้ได้กลายเป็นตัวแทนความกล้าหาญอันสร้างสรรค์ของเมซง (Maison) และยังคงความต่อเนื่องในการแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญของบุลการีทั้งในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาและการรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณี ถือกำเนิดขึ้นโดย จิอานนี บุลการี (Gianni Bulgari) ณ บูติกแห่งประวัติศาสตร์บนถนนรู เดอ โรน 30 (rue du Rhône 30) ของเมืองเจนีวา ในฐานะของขวัญที่มอบแด่ลูกค้าระดับสูงของแบรนด์ โดยผลงานนี้ได้ทลายวิธีการการประดิษฐ์นาฬิกาหรูหราแบบดั้งเดิมนับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1975 โดยการบุกเบิกซึ่งการผสมผสานระหว่างเครื่องประดับอัญมณี เครื่องบอกเวลา และแฟชั่น ที่ผลงานนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและขับเคลื่อนให้ช่างอัญมณีแห่งโรมันผู้ซึ่งรังสรรค์เรือนเวลาอันล้ำค่ามานับตั้งแต่ยุค 1920s นี้ได้เดินหน้าก้าวเข้าสู่ยุคใหม่

สองปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1977 เฌรัลด์ ฌองตา (Gérald Genta) ได้ตีความงานออกแบบนี้ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนรูปมาสู่คอลเลคชั่นนาฬิกาเชิงสัญลักษณ์ครั้งแรกของเมซง พร้อมทั้งวางรากฐานให้กับความล้ำเลิศแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาที่นิยามความเป็นบุลการีดังเช่นทุกวันนี้ คอลเลคชั่น บุลการี บุลการี ได้จับจิตวิญญาณแห่งวัฒนธรรม เสน่ห์อันเย้ายวนใจ ความสง่างาม และสไตล์อิตาเลียนขนานแท้ ด้วยสิ่งมหัศจรรย์เล็ก ๆ ของตัวอักษร “BB” ซึ่งดึงความสนใจของหล่าบุคคลในสังคมชั้นสูงของโรมันและซูเปอร์สตาร์ระดับสากล ทั้งสติง (Sting), จอร์จ ไมเคิล (George Michael) และทินา เทอร์เนอร์ (Tina Turner) ตลอดจนเซนดายา (Zendaya), ซูเซิน ซาแรนดอน (Susan Sarandon) และบิล เกตส์ (Bill Gates)

เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความชื่นชอบในหมู่นักสะสม บุลการีได้เผยโฉมเรือนเวลารุ่นพิเศษใหม่ของ บุลการี บุลการี ทั้งหมด 4 รุ่น โดยมีตัวเรือนให้เลือก 2 ขนาด คือ 26 มม. และ 38 มม. มาพร้อมหน้าปัดหินอ่อนที่ชวนให้หวนนึกถึงความยิ่งใหญ่ของกรุงโรมได้ทันที หินอ่อนอันหนักแน่นและเรืองรองถูกนำมาใช้โดยบุลการีด้วยความเคารพและความประณีตเช่นเดียวกับบรรดาอัญมณีล้ำเลอค่า โดยเมซงได้ผสมผสานหินอ่อนไว้ภายในผลงานสร้างสรรค์ของแบรนด์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องประดับอัญมณี แต่การทำงานกับหินอ่อนยังคงเป็นความท้าทายสำคัญอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อเป็นขั้นตอนของการตัดชิ้นส่วนที่มีความละเอียดอ่อนอย่างหน้าปัดของเรือนเวลาแล้ว งานหัตถศิลป์นี้ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น และด้วยลายเส้นตามธรรมชาติของหินอ่อนยิ่งทำให้ผลงานแต่ละชิ้นนั้นมีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวโดยแท้

งานแกะสลักอันประณีตด้วยสัญลักษณ์ครบรอบพิเศษ ภายในเรือนเวลา 2 เวอร์ชัน มาพร้อมหน้าปัดหินอ่อนสีเขียว “เวิร์ด อัลปิ (Verde Alpi)” ในตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ ขณะที่อีก 2 เวอร์ชัน มาในตัวเรือนโรสโกลด์และหน้าปัดหินอ่อนสีฟ้า ซึ่งหน้าปัดของรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าจะรังสรรค์จากหินอ่อนสีน้ำเงินเข้ม “บลู อินแคนโต (Blu Incanto)” ส่วนรุ่นที่มีขนาดเล็กกว่าจะแสดงไว้ด้วยหน้าปัดหินอ่อนสีฟ้าไอซีบลู “อัซเซอร์โร อินฟินิโต (Azzurro Infinito)” โดยตัวเรือนขนาด 26 มม. ทั้ง 2 รุ่น ตกแต่งด้วยเครื่องหมายบอกเวลาประดับเพชร ในขณะที่เวอร์ชัน 38 มม. จะบรรจุกลไกไขลานอัตโนมัติ โซโลเทมโป (Solotempo) คาลิเบอร์ บีวีแอล 191 (BVL 191) พร้อมมอบพลังงานสำรองนาน 42 ชั่วโมง

ได้ต้นแบบมาจากการแกะสลักบนเหรียญโรมันโบราณ ที่ขอบตัวเรือนของบุลการี บุลการี แสดงชื่อแบรนด์ไว้อย่างกล้าหาญเพื่อแสดงเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว พร้อมทั้งอักษรสไตล์โรมันอันโดดเด่นซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 1934 ในช่วงระหว่างการปรับโฉมใหม่ของบูติกแฟล็กชิพ เวีย คอนดอตติ (Via Condotti) ของเมซง นับจากนั้นเป็นต้นมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์เรื่อยมา เหนือกว่าข้อความจารึก งานออกแบบนาฬิกานี้ยังได้รับแรงบันดาลใจอย่างลุ่มลึกจากภาษาภาพของเมืองอันเป็นนิรันดร์ (Eternal City) ด้วยโครงร่างของภาพที่สะท้อนถึงเสาหินอ่อนเรียงรายของวิหารแพนธีออน (Pantheon) หรือระเบียงคดและลานเสาที่เป็นเสมือนอนุสรณ์สถาปัตยกรรมของกรุงโรม ด้วยการเปิดตัวครั้งแรกของหน้าปัดจากหินธรรมชาตินี้ เมซงได้นำเสนอการตีความใหม่อันน่าทึ่งแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของคอลเลคชั่นอย่างยิ่งใหญ่

“นาฬิกาบุลการี บุลการี มีทั้งความเรียบง่ายและเข้มแข็ง ทันต่อยุคสมัยอยู่เสมอ ด้วยงานออกแบบอันบริสุทธิ์สะท้อนดีเอ็นเอของเรา ได้อย่างสมบูรณ์โดยไร้ความจำเป็นในการตกแต่งเพิ่มเติมใด ๆ ในวันนี้เมซงได้หวนคืนสู่จิตวิญญาณของผลงานสร้างสรรค์แบบดั้งเดิม โดยเสริมความน่าหลงใหลอันลุ่มลึกยิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานเทคโนโยลีอันทันสมัย” ฟาบริซิโอ บวนนามาซซา สติยิอานี (Fabrizio Buonamassa Stigliani) ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของบุลการีอธิบาย นำเสนอนาฬิการุ่นหน้าปัดหินอ่อนใหม่ทั้งสี่รุ่นที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2025 นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญแห่งการเฉลิมฉลองสไตล์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง

ถ่ายทอดความเป็นบุลการีได้เหนือกว่าครั้งใด ๆ คอลเลคชั่นเครื่องประดับอัญมณี บุลการี บุลการี (Bvlgari Bvlgari) ยังได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของไอคอนนี้ด้วยผลงานสร้างสรรค์ใหม่ที่ได้หวนคืนอย่างเข้มแข็งสู่ความกล้าหาญดั้งเดิม นับตั้งแต่แหวนแห่งตำนานที่มาพร้อมดิสก์พลิกหมุนได้ ที่ผู้สวมใส่สามารถพลิกระหว่างด้านอินเสิร์ตด้วยอัญมณีที่แตกต่างกัน สู่การแกะสลักโลโก้คู่รอบวงกลมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหรียญโรมันโบราณ ชิ้นงานเหล่านี้ยังฟื้นคืนรหัสงานออกแบบอันเป็นไอคอนิกของคอลเลคชั่นไว้ด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจร่วมสมัย เพื่อเชิกชูมรดกอันกล้าแกร่งของแบรนด์ การเปิดตัวล่าสุดยังรวมไปถึงสร้อยคอเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัตชิ้นโดดเด่นซึ่งจับคู่มากับสร้อยข้อมือ ร่วมไปกับสร้อยคอแบบยาวที่สามารถสวมใส่ได้อย่างหลากหลายรูปแบบสำหรับการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่อันสนุกสนาน มาพร้อมการฝังตกแต่งบนดิสก์ด้วยเปลือกหอยมุก (mother-of-pearl) บนด้านหนึ่งและออนิกซ์อีกด้านหนึ่ง ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์เหนือกาลเวลาของตำนานแห่งคอลเลคชั่น เช่นเดียวกับสายโซ่รังสรรค์ด้วยมือที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านการจินตนาการขึ้นใหม่ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่ยังคงไว้ด้วยสุนทรียะแห่งความสวยงามร่วมสมัย พร้อมทั้งเติมเต็มความสมบูรณ์ของคอลเลคชั่นด้วยสายสร้อยข้อมือแบบลวดใหม่ ที่มีให้เลือกทั้งทำจากโรสโกลด์ 18 กะรัต ประดับด้วยเปลือกหอยมุก หรือเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัต ประดับด้วยออนิกซ์สีดำ ถือเป็นการผสมผสานความหรูหราที่สามารถสวมใส่ได้ทุก ๆ วัน เข้ากับสไตล์ไอคอนิกอันโดดเด่น และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการสวมใส่ได้อย่างกลมกลืนที่ไร้ซึ่งข้อจำกัดของเพศ วัย และเจเนอเรชั่น