Last updated: 5 ก.ย. 2568 | 250 จำนวนผู้เข้าชม |
Ulysse Nardin ผู้ผลิตนาฬิกาอิสระจากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัวผลงานรุ่นใหม่ Freak [X Crystalium] ซึ่งเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของศาสตร์การผลิตนาฬิกาชั้นสูง ทั้งในด้านนวัตกรรมเชิงกลไกและการออกแบบที่แหวกแนวเหนือความคาดหมาย รุ่นพิเศษนี้นำเสนอการผสมผสานอย่างกล้าหาญระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับศิลปะการตกแต่งชั้นสูง ด้วยการเลือกใช้ Crystalium วัสดุใหม่ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาที่ยากและซับซ้อน เพื่อสร้างดิสก์หน้าปัดที่เปล่งประกายงดงามและแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยความท้าทายของกระบวนการผลิตและความประณีตในทุกรายละเอียด Freak [X Crystalium] จึงถูกผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าในการผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยีและงานฝีมือไปสู่ขอบเขตใหม่โดยไร้ข้อจำกัด
นาฬิกา Freak เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 ได้ปฏิวัติวงการนาฬิกา ไม่ใช่เพียงการเปิดตัวรุ่นใหม่ แต่คือการประกาศจุดเริ่มต้นของยุคสมัย ด้วยแนวคิดที่กล้าทลายทุกกรอบดั้งเดิม นำเสนอนาฬิกาทีไม่มีเข็ม ไม่มีหน้าปัด และไม่มีเม็ดมะยม เปี่ยมด้วยนวัตกรรมที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ซึ่ง Freak แสดงให้เห็นถึงการบอกเวลาในรูปแบบใหม่ โดยใช้กลไกภายในนาฬิกาบอกเวลา นี่คือนาฬิการุ่นบุกเบิกในกลุ่ม "ซูเปอร์วอทช์" ที่ไม่เพียงโดดเด่นด้านรูปลักษณ์อันแปลกตา แต่ยังเปลี่ยนแปลงแนวทางการออกแบบกลไกอย่างก้าวกระโดด การเปิดตัว Freak จึงไม่ใช่เพียงการนำเสนอผลงานใหม่ แต่เป็นการเปิดประตูสู่บทใหม่ของประวัติศาสตร์นาฬิกาชั้นสูง ที่ผู้เชี่ยวชาญขนานนามว่าเป็น "Modern Horology Era"
เบื้องหลังนวัตกรรม คือความอัจฉริยะและวิสัยทัศน์ของ Dr. Ludwig Oechslin ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในทศวรรษ 1980 ขณะที่อุตสาหกรรมนาฬิกาส่วนใหญ่กำลังหันไปสู่เทคโนโลยีควอตซ์ แต่ Ulysse Nardin ร่วมกับ Oechslin รังสรรค์ผลงานอัศจรรย์ นาฬิกาข้อมือจักรกลที่สามารถแสดงแผนที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ นั่นคือ Astrolabium Galileo Galilei นาฬิกาเรือนพิเศษนี้ถือเป็นนาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ไม่กี่ปีถัดมา ในปี 2001 จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมและความเป็นอิสระดังกล่าว นำมาสู่การเปิดตัว Freak นาฬิกาแบบบอกเวลาอย่างเดียวที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังเป็นหนึ่งในผลงานปฏิวัติวงการนาฬิกาชั้นสูงที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ Freak ยังเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่นำเทคโนโลยีซิลิคอนมาใช้ในกลไก นับเป็นก้าวสำคัญที่จุดประกายแห่งนวัตกรรมไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมนาฬิกา พร้อมเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการบอกเวลา ความแม่นยำ และ ประสิทธิภาพอันเหนือชั้น นับตั้งแต่เปิดตัว Freak ได้รับการจดสิทธิบัตรมากกว่า 20 ฉบับ และกลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการนาใกาแห่งศตวรรษที่ 21 มากไปกว่าความก้าวหน้าทางวิศวกรรม Freak คือนิยามของ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมเชิงกลไกและจิตวิญญาณแห่งความอิสระ ที่กล้าท้าทายขีดจำกัดดั้งเดิมของศาสตร์การผลิตนาฬิกา
Freak X เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 ถ่ายทอดดีเอ็นเอแห่งความกล้าในรูปแบบที่เรียบง่ายและทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มเม็ดมะยมสำหรับการขึ้นลานและตั้งเวลา จิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของ Freak ยังคงถ่ายทอดไว้อย่างครบถ้วน ผ่านกลไกแบบฟลายอิ้งที่แสดงเวลาชั่วโมง ส่วนนาฬิการุ่นใหม่ Freak [X Crystalium] ทาง Ulysse Nardin ได้ก้าวสู่บทถัดไปของนวัตกรรม โดยการผสานกลไกเข้ากับมิติใหม่ของการออกแบบ ผ่านดิสก์แสดงชั่วโมงหมุนที่ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการไฮเทค ซึ่งต่อยอดทางด้านวัสดุศาสตร์ พร้อมผลักดันขีดจำกัดของการสร้างสรรค์นาฬิกาให้ก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม
Freak[ X Crystalium]
Disruptive by Nature, Refined by Craft
สำหรับ Ulysse Nardin นวัตกรรมไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่กลไกจักรกล แต่ยังสะท้อนผ่านประสบการณ์ที่สัมผัสได้ในทุกมิติ ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์ และกลไกบนข้อมือ Freak คือตัวแทนแห่งจิตวิญญาณนั้น สัญลักษณ์แห่งความกล้าคิด กล้าทำ และการผลักดันขอบเขตของนวัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นบทพิสูจน์อันทรงพลังที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการปูทางอนาคตของศาสตร์นาฬิกาชั้นสูง
ปัจจุบันกับ Freak [X Crystalium] มรดกแห่งนวัตกรรมก้าวสู่มิติใหม่ของศิลปะการตกแต่งระดับไฮเทค ดิสก์ชั่วโมงหมุนถูกสร้างจาก Crystalium วัสดุปฏิวัติที่ผสานความแม่นยำทางวิทยาศาสตร์เข้ากับเสน่ห์แห่งความงาม นี่คือขั้นตอนแห่งการรังสรรค์
หัวใจสำคัญของวัสดุที่ใช้คือ รูทีเนียม โลหะหายากในกลุ่มแพลตตินัม ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความแข็งแกร่งและประกายระยิบระยับ โดยหายากกว่าทองคำขาวถึง 10 เท่า ในกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลาและความแม่นยำ วัสดุจะผ่านการตกผลึกด้วยวิธีการระเหยอย่างช้าๆ ภายใต้การควบคุมอย่างเข็มงวด คล้ายปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งที่ก่อตัวบนผิวกระจก ผลลัพธ์ของกระบวนการที่ใช้เวลาพัฒนาหลายปีนี้ คือ โครงสร้างผลึกธรรมชาติที่ซับซ้อน งดงามราวลวดลายแฟรคทัลที่ไม่อาจเลียนแบบได้ พื้นผิวเปล่งประกายและรายละเอียดระดับจุลภาค ทุกดิสก์ชั่วโมงจึงเปรียบเสมือนชิ้นงานศิลปะที่มีลักษณะเฉพาะหนึ่งเดียว เพื่อเสริมความงดงามให้ยิ่งโดดเด่น แต่ละชิ้นงานได้รับการเคลือบด้วยเทคนิค PVD สีโรสโกลด์ ก่อนจะเคลือบเงาสีดำด้วยมืออย่างประณีต โดยใช้น้ำยาเคลือบเงาเฉพาะทาง เพื่อเน้นความแตกต่างของสีและเพิ่มมิติในการเล่นแสง นี่ไม่ใช่เพียงกระบวนการตกแต่ง แต่คือการรังสรรค์งานศิลปะวัสดุขั้นสูงแห่งอนาคต
Freak [X Crystalium] มาในตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำ มอบความแกร่งที่แฝงด้วยความล้ำสมัย โดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนและมาตรบอกชั่วโมงสีดำที่ผสานกันอย่างลงตัว เสริมด้วยสะพานจักรนาทีที่ออกแบบอย่างบรรจง เพิ่มความเฉียบคมให้กับดีไซน์โดยรวม นาฬิกามาพร้อมสายยางลายบอลลิสติกสีดำ ที่ช่วยเติมเต็มบุคลิกอันดุดันและร่วมสมัย พื้นหลังสีดำเข้มทำหน้าที่เป็นเวทีอันสมบูรณ์แบบในการขับเน้น ดิสก์ชั่วโมง Crystalium ให้เปล่งประกายยิ่งขึ้นในเฉดโรสโกลด์ที่ดูมีชีวิตชีวา เล่นแสงเงาและเพิ่มมิติทางสายตา ทั้งหมดนี้คือการสร้างสรรค์ที่สะท้อนความงดงาม ตราตรึงใจในทุกมุมมอง
ภายในตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ UN-230 โดดเด่นด้วยฟลายอิ้งคารูเซล พร้อมบาลานซ์วีลซิลิคอนสุดล้ำ ระบบเอสเคปเมนต์ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างสมบูรณ์ภายในห้องปฏิบัติการซิลิคอน SIGATEC ของ Ulysse Nardin อุปกรณ์ทั้งสองชิ้น
ถูกแขวนด้วยสะพานจักรที่ทำหน้าที่เป็นเข็มนาที หมุนครบหนึ่งรอบในทุกหนึ่งชั่วโมง ขณะที่ดิสก์ชั่วโมง Crystalium ซึ่งมีตัวชี้วัดอยู่ใต้กลไก ทำหน้าที่เป็นเข็มชั่วโมง หมุนครบหนึ่งรอบในทุก 12 ชั่วโมง การเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องนี้ คือการผสานอย่างกลมกลืนระหว่างวิศวกรรมอันล้ำลึกและศิลปะชั้นสูง ให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แบบ
Freak [X Crystalium] คือนาฬิกาที่สะท้อนแก่นแท้แห่ง Ulysse Nardin ทั้งความเชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์กลไก นวัตกรรมอันล้ำสมัยและจิตวิญญาณแห่งความกล้าบุกเบิก นาฬิการุ่นนี้จึงเป็นการรังสรรค์ผลงานแห่งอนาคตของวงการนาฬิกาชั้นสูงที่ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
Ulysse Nardin
No Boundaries. Since 1846.
Ulysse Nardin คือแบรนด์นาฬิกาอิสระสัญชาติสวิสที่มาปฏิวัติวงการนาฬิกาชั้นสูง เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกาผ่านนวัตกรรมและงานฝีมือของช่างนาฬิกาที่ไม่มีใครเทียบได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1846 ที่เมือง Le Locle ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์นี้ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วสำหรับเครื่องมือบอกเวลาที่แม่นยำ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสำรวจมหาสมุทร ตลอดระยะเวลาห้าชั่วอายุคน ครอบครัว Nardin ได้ผลิตโครโนมิเตอร์ทางทะเลที่มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุด ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากกองทัพเรือ และถูกใช้โดยนักวิทยาศาสตร์ในสาขาต่างๆ เช่น ธรณีศาสตร์, ดาราศาสตร์, และวิทยาศาสตร์โลก
Ulysse Nardin เป็นผู้นำในการนำนวัตกรรมในด้านการแสดงเวลา กลไกที่ผลิตขึ้นเอง การวิจัยและพัฒนาวัสดุศาตร์ โดยสะสมรางวัลทางเทคนิคและการออกแบบมากกว่า 4,300 รางวัล แบรนด์ได้เปิดตัวผลงานอันล้ำสมัย เช่น นาฬิกาเสียงแรกที่มีกลไก Jacquemarts automatons, Astrolabium Galileo Galilei, และปฏิทินถาวรเรือนแรกที่สามารถตั้งเวลาได้ทั้งข้างหน้าและข้างหลังผ่านเม็ดมะยม ปูทางในการใช้ซิลิคอนในวงการนาฬิกา นอกจากนั้น Ulysse Nardin ยังได้พัฒนา DiamonSil® ซึ่งเป็นการรักษาพื้นผิวของกลไกที่มาปฏิวัติวงการนาฬิกา
นาฬิกา Freak เปิดตัวในปี 2001 ได้สะท้อนถึงแนวทางเฉพาะของ Ulysse Nardin ที่ผสมผสานเทคโนโลยีระดับสูงและฝีมือของช่างนาฬิกาได้อย่างลงตัว โดย 20 ปีหลังจากนั้น Freak [ONE] ได้รับรางวัล "Most Iconic Watch" จาก Grand Prix d’Horlogerie de Genève
โดยทางแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาอิสระร่วมกับ Girard-Perregaux โดย Ulysse Nardin ยังคงพลักดันขอบเขตของศาสตร์การผลิตนาฬิกา มากำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับแบรนด์ที่มีประวัติยาวนาน พร้อมทั้งมีบูติกจำหน่ายนาฬิกาทั่วโลก รวมถึงแฟล็กชิพที่ตั้งอยู่ในเจนีวา ซิลิคอนวัลเลย์ ดูไบ และเซี่ยงไฮ้
@ulyssenardinwatches @ulyssenardinofficial @ulysse_nardin
5 ก.ย. 2568
5 ก.ย. 2568
5 ก.ย. 2568
5 ก.ย. 2568