Last updated: 21 ต.ค. 2568 | 50 จำนวนผู้เข้าชม |
ความแข็งแกร่ง หรือ Toughness คือ หนึ่งในคำพ้องความหมายที่ตรงกับนิยามของ Casio G-SHOCK และน่าจะเรียกว่าตรงตัวที่สุดเท่าที่จะนึกออก โดยที่มีอาคารค้นคว้าและวิจัยฮามามูระของ Casio เป็นแบ็คกราวน์ เพราะที่นี่คือ พื้นที่ทดลองที่ Kikuo Ibe วิศวกรหนุ่มที่โยนนาฬิกาที่เขามีความตั้งใจจะพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีความแข็งแกร่งนับจากปี 1981 จนกระทั่งมาสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในปี 1983 ซึ่งคนทั่วโลกรู้จักกันในชื่อ G-SHOCK
ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นพัฒนาการของ G-SHOCK อย่างต่อเนื่องและยิ่งได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ยุคทศวรรษที่ 2010 เพราะพวกเขาไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่วัสดุอย่างเรซินเพื่อใช้ในการผลิตตัวเรือนและสายเท่านั้น แต่ยังรุกเข้าสู่โลกแห่งโลหะ ซึ่งถ้าจะให้นับจริงๆ G-SHOCK มีจุดเริ่มต้นในปี 1996 กับรุ่น MR-G แต่ในปัจจุบัน เมื่อเข้าสู่ทศวรรษที่ 2020 ทางเลือกของนาฬิกาที่มากับตัวเรือนและสายซึ่งผลิตจากสเตนเลสสตีลมีเพิ่มมากขึ้น และ GM-2110D Metal Series ก็คือ หนึ่งในนั้น
ในงานเปิดตัว “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” นักมวยสุดฮอต ในฐานะ Brand Ambassador ซึ่งสวมใส่นาฬิกาไอคอนิก G-STEEL GM-2110D Metal Series สี Sky Blue พร้อมภาพแคมเปญใหม่ “Tough Like You” ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งความแข็งแกร่งเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง QP ได้มีโอกาสพูดคุยพร้อมกันกับทั้ง Kikuo Ibe บิดาแห่ง G-SHOCK ที่ให้เกียรติบินมาร่วมงานครั้งนี้ พร้อมกับซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน ในหลากหลายแง่มุมที่น่าสนใจทั้งเรื่องนาฬิกา และการทำงานร่วมกันของ G-SHOCK และแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่

GM-2110D Metal Series เป็นนาฬิกาสุดแกร่งรุ่นใหม่ล่าสุด โดยเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการนาฬิกาที่มีความทนทานแบบดั้งเดิมของ G-SHOCK แต่เพิ่มความหรูหราด้วยดีไซน์ทันสมัย และสไตล์ที่เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ตัวเรือนผลิตจากเรซินกรอบสเตนเลสสตีลขัดเงาอย่างพิถีพิถันเน้นความแข็งแกร่งตามมาตรฐาน G-SHOCK
แน่นอนว่าเมื่อ ‘ความทนทาน’ คือ เป้าหมายของการพัฒนาและเป็นภาพลักษณ์ที่ฝังแน่นลงในนาฬิกาทุกเรือนของ G-SHOCK ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่การนำเสนอสิ่งต่างๆ ออกสู่สาธารณชนและลูกค้าของพวกเขาจะต้องสื่อถึงเรื่องนี้เป็นจุดหลัก เช่นเดียวกับการเลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เปรียบเสมือนกับตัวแทนของแบรนด์อย่าง “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” นักมวยสุดฮอตให้เข้ามารับตำแหน่งนี้ พร้อมกับแคมเปญ Tough Like You ซึ่งคุณ Ibe ได้กล่าวถึงเป็นหัวข้อแรกของการสนทนากันเลย
‘อย่างแรกเลยนะครับ ผมประทับใจในตัวซุปเปอร์บอนนะครับ’ คุณ Ibe กล่าว ‘ผมได้มีโอกาสดู Youtube และได้ชมการชกของเขา บอกเลยว่า เขาคือนักกีฬาที่มีความแข็งแกร่ง และพอมาสัมผัสตัวจริง เป็นอีกด้านเลยนะครับ เขามีความอ่อนน้อมถ่อมตนมาก ซึ่งความต่างในลักษณะนี้แหละคือเสน่ห์ของเขา’
การเลือกซุปเปอร์บอน สิงห์มาวินมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ก็เรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังมีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นว่า แล้วทำไมต้องเป็นเขา ? คุณ Ibe ให้ความเห็นได้อย่างน่าสนใจว่า ‘มันคือการเปล่งแสง’ ซึ่งสอดคล้องกับซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน
‘ลองสังเกตดูที่ตัวเรือนนาฬิกาที่เป็นโลหะดูสิครับ แต่ละเหลี่ยมแต่ละมุมบนตัวเรือนจะมีการขัดเพื่อให้เกิดความสวยงามที่แตกต่างกันไป แต่เป้าหมายคือการเปล่งประกายที่สวยงาม ผมเชื่อว่าคนเราก็มีการเปล่งแสงในลักษณะเช่นนี้กัน เป็นการเปล่งประกายจากสิ่งที่อยู่ข้างใน ซึ่งผมเชื่อว่าซุปเปอร์บอนมีสิ่งนี้อยู่ในตัว และพอเห็นนาฬิกา (GM-2110D Metal Series) อยู่บนข้อมือของเขา ก็ยิ่งงดงามและมีการเปล่งประกายมากขึ้น ทั้ง 2 อย่างนี้ได้รับการส่งเสริมซึ่งกันและกัน’ คุณ Ibe กล่าว
สำหรับตัวซุปเปอร์บอน สิงห์มาวินได้ให้นิยามของคำว่าแข็งแกร่งเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เพราะในแวดวงมวยแล้ว คำว่าแข็งแกร่งไม่ได้มีแค่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องในเชิงกายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านต่างๆ อีกด้วย ‘มันเป็นเรื่องความรู้สึกและความคิดด้วยครับ ถ้าเราควบคุมอารมณ์และเอาชนะความรู้สึกไม่ได้ เราก็ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น การเป็นนักมวย ผมจะต้องฝึกซ้อมในแต่ละวันอย่างหนักและจะต้องมีวินัย ถ้าผมเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างก็ประสบความล้มเหลว เอาแค่เรื่องง่ายๆ อย่างการตื่นนอนขึ้นมาซ้อมตั้งแต่เช้า ถ้าคุณเอาชนะตัวเองไม่ได้ในจุดเล็กๆ แค่นี้เรื่องที่มากกว่านี้ก็ไม่ต้องพูดถึง ดังนั้น ความแข็งแกร่งในอีกด้านของผมคือ การที่จะต้องความคิดและจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน’

อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเรือนที่ผลิตจากโลหะ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกับนาฬิกาแบรนด์อิ่นๆ ที่ใช้วัสดุประเภทนี้ในการผลิตตัวเรือนและสาย ซึ่ง Ibe ในฐานะของ Father of G-SHOCK ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
‘เมื่อพูดถึงเรื่องของโลหะที่เป็นวัสดุในการผลิต แบรนด์อื่นๆ มักจะเน้นไปที่ตัวเรือนที่เรียบและไม่มีเหลี่ยมมุมมากเท่าไร แต่เมื่อมองมาที่นาฬิกาของ G-SHOCK แล้ว คุณจะพบว่า G-Steel ของเรานั้น มันดูเหมือนจะเรียบๆ แต่มีรายละเอียดที่อยู่บนตัวเรือนเพียบเลย ที่สำคัญ คือ ความเงา ที่เป็นจุดเด่นของนาฬิกาเรือนนี้ ซึ่งตรงนี้คือ ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาที่ใช้วัสดุโลหะ’
นั่นคือ ความเห็นของคนพัฒนา แต่ถ้ามองในแง่ของ User แล้ว GM-2110D Metal Series ไม่ได้เป็นแค่นาฬิกาที่ติดตัวเอาไว้ระหว่างซ้อมเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของซุปเปอร์บอนได้ด้วย เพราะชีวิตของเขาไม่ได้มีด้านเดียวนั่นคือ การชกมวยบนเวที แต่ในด้านปกตินาฬิกาเรือนนี้สามารถตอบสนองได้ดีไม่แพ้กัน
‘เป็นนาฬิกาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผมมากครับ เพราะว่าผมต้องออกงานบ่อย นาฬิกาเรือนนี้เรียกว่าสามารถสวมใส่ได้ทั้งการซ้อมและการออกงานที่เป็นทางการ GM-2110D Metal Series เป็นนาฬิกาที่ภายนอกดูเรียบหรู แต่มีความทนทานอยู่ภายใน คุณไม่ต้องห่วงเลยเพราะผมใช้สวมใส่ตอนออกกำลังกาย ว่ายน้ำ หรือเข้ายิม บางครั้งสวมแล้วเดินชนโน่นชนนี่ก็ไม่เป็นรอยและยังทำงานได้อย่างปกติ เหมาะกับผมมากๆ เลยครับ’
ตรงนี้ถือว่าใช่เลย เพราะถ้าคุณคุ้นเคยกับนาฬิกาของ G-SHOCK มาตั้งแต่แรกจะพบว่าการออกแบบถูกเน้นไปที่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งจนกระทั่งมองข้ามเรื่องการดีไซน์ไป แต่ในปัจจุบันนาฬิกาของ G-SHOCK สามารถผสมผสานสิ่งที่เรียกว่า Function และ Fashion เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
‘ต้องบอกว่าการออกแบบ G-SHOCK แต่ละรุ่นในปัจจุบัน เราจะมีทีมทำงานร่วมกันเยอะมาก ทีมพัฒนานาฬิกา ทีมดูแลเรื่องวัตถุดิบ และทีมออกแบบซึ่งดูแลครอบคลุมทั้งในเรื่องของการเลือกแบบ สีสัน และรูปทรง โดยจะยึดกับเทรนท์ที่กำลังมาแรงและเป็นที่ต้องการอยู่ในเวลานั้น ทุกส่วนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างนาฬิกาที่มีความโดดเด่นและสอดรับกับความต้องการของลูกค้า ณ ตอนนั้น’
‘แน่นอนว่าในโลกเรา ผมว่า G-SHOCK คือ นาฬิกาที่ทนทานที่สุดละ และถ้าจะต้องเดินหน้าต่อไปในอนาคต ผมว่าคงจะต้องพานาฬิกาเรือนนี้ออกสู่นอกโลกละ...อวกาศ คือ สิ่งที่น่าสนใจ ผมอยากสร้าง G-SHOCK ให้มีความทนทานต่อการใช้งานภายใต้สภาพแวดล้อมอวกาศ ถ้าผมทำแบบนี้ ไม่แน่นะครับ ผมอาจจะไปเป็นเพื่อนกับพวกเอเลี่ยน และเราคงได้เล่นสเก็ตช์บอร์ดกันอย่างสนุกสนานแน่นอน’
ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อกาลเวลาผ่านไป G-SHOCK จะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่คอนเซ็ปต์หลัก คือ ความแข็งแกร่ง จะยังคงเหมือนเดิม
21 ต.ค. 2568
21 ต.ค. 2568
21 ต.ค. 2568
22 ต.ค. 2568