BREGUET Classique 7235, Classique 7225

Last updated: 25 ต.ค. 2568  |  32 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BREGUET Classique 7235, Classique 7225

หลังจากเปิดตัวผลงานรุ่นพิเศษเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 250 ปีแห่งการก่อตั้งตั้งแต่ช่วงต้นปี จากรุ่น Classique Souscription, Tradition Seconde Retrograde 7035, Type XX Chronograph 2075, Marine Hora Mundi 5555, Reine de Naples 9935 & 8925 ล่าสุด Bregeut เผยโฉมรุ่นฉลองครบรอบ 2 ศตวรรษครึ่งอีกสองรุ่นกับ Classique 7235 & Classique 7225 อย่างต่อเนื่อง

ในวาระครบรอบ 250 ปีแห่งการก่อตั้ง Breguet ชื่อที่ถือเป็นรากเหง้าแห่งศาสตร์ของการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง แบรนด์ผู้ให้กำเนิดทั้งทูร์บิญองและสปริงสายใยแบบ Breguet โดยไม่ได้มาเพียงแค่ผลงานเรือนเวลาใหม่สองรุ่นในตระกูล Classique เท่านั้น แต่ยังพร้อมประกาศถึงก้าวสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ด้วยการแนะนำ“Breguet Hallmark” ตรารับรองคุณภาพระดับสูงสุดของแบรนด์ด้วย นี่คือช่วงเวลาที่ Breguet ไม่เพียงเฉลิมฉลองอดีต หากแต่ยืนยันจิตวิญญาณแห่งความสมบูรณ์แบบในปัจจุบันและอนาคตของการประดิษฐ์นาฬิกา


Classique 7235
บทบรรณาการแด่รากเหง้าแห่งสไตล์ Breguet
จะอธิบาย “สไตล์แบบ Breguet” ได้อย่างไร? เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะรากฐานของเอกลักษณ์นี้ได้หยั่งลึกในประวัติศาสตร์กว่า สองศตวรรษครึ่ง ตั้งแต่ Abraham-Louis Breguet สถาปนาโรงงานขึ้นในกรุงปารีสเมื่อปี 1775

แต่หากต้องเลือกเพียงหนึ่งเรือนที่สรุปแก่นแท้แห่งสุนทรียะแบบ Breguet ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด คงหนีไม่พ้น นาฬิกา No. 5 ที่สร้างขึ้นในปี 1794 ด้วยตัวเรือนทรงกลมเรียบง่าย หน้าปัดกิโยเช่อันละเอียดลึกซึ้ง เข็มทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ตัวเลขอารบิกแบบ Breguet และขอบตัวเรือนแบบเซาระร่องเหรียญ ทุกองค์ประกอบกลายเป็นภาษาทางสุนทรียะแห่งเวลา ซึ่ง Classique 7235 ได้นำกลับมาตีความอีกครั้งด้วยความวิจิตรไม่แพ้ต้นฉบับ พร้อมจำนวนผลิตจำกัดเพียง 250 เรือน


Classique 7235 มาพร้อมตัวเรือนรังสรรค์จากทองคำ 18 กะรัต ซึ่งเป็นทองพิเศษของ Breguet Gold ในขนาด 39 มิลลิเมตร ความหนาประมาณ 9.9 มิลลิเมตร. ขอบตัวเรือนร่องละเอียดสะท้อนแสงงามอย่างสุภาพ หน้าปัดทองสลักลายกิโยเช่ Quai de l’Horloge ลายเฉพาะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ตั้งของเวิร์กช็อปต้นกำเนิดของ Abraham-Louis Breguet บนถนน Quai de l’Horloge กรุงปารีส หน้าปัดทองคำ 18 กะรัตประดับลายกิโยเช่เช่นเดียวกัน แบ่งพื้นที่อย่างประณีตด้วยวงชั่วโมงแบบตัวเลขโรมัน และหน้าปัดย่อยสำหรับ Moon Phaseทำจากทองคำแกะสลักอย่างประณีต, พลังงานสำรองในรูปโค้ง และ หน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่จัดวางอย่างสมมาตร เข็มชั่วโมงและนาทีแบบ Breguet blue steel hollow-tipped คือเอกลักษณ์เหนือกาลเวลา ขณะที่เข็มวินาทีและกำลังสำรองใช้เหล็กชุบสีน้ำเงินเช่นกัน ตัดกับพื้นหน้าปัดทองอย่างสง่างาม สายนาฬิกาหนังจระเข้ขัดด้านเพิ่มสัมผัสแห่งความหรูหรา

ภายในคือชุดกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 502.3 ทำงานด้วยความถี่ 3 เฮิรตซ์ พลังงานสำรองราว 45 ชั่วโมง กลไกชุดนี้เป็นหนึ่งในเครื่องจักรกลไกที่บางที่สุดในสาย Classique ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำและความงดงามของการตกแต่งด้วยลาย Geneva stripes และโรเตอร์ทองคำลายคลื่น ความสามารถกันน้ำระดับ 30 เมตร (3 บาร์) เสริมด้วยสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มและหัวเข็มขัดทองคำ 18 กะรัต


Breguet Classique 7235 ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 250 เรือนทั่วโลก เพื่อรำลึกถึงรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และจิตวิญญาณแห่งความงามเชิงกลไกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะในทุกจังหวะของเวลา Breguet ยังคงเป็นนิยามของความเที่ยงตรงและศิลปะแห่งความคลาสสิกอย่างแท้จริง

Classique 7225
แรงโน้มถ่วงใหม่แห่งความเที่ยงตรง
อีกหนึ่งผลงานคือ Classique 7225 นาฬิกาที่รวมหัวใจแห่งความแม่นยำเชิงกลไกและนวัตกรรมแม่เหล็กระดับสูงไว้ในเรือนเดียว ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานประวัติศาสตร์ Breguet No. 1176 ซึ่งผลิตระหว่าง 1802–1809 หนึ่งในนาฬิกาทูร์บิญองสี่นาทีรุ่นแรก และเป็นหนึ่งในห้าเรือนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงสมรรถนะสูงสุดของกลไก Breguet ในยุคนั้น โดยในปัจจุบันต้นฉบับถูกเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Breguet ที่กรุงปารีส


Classique 7225 ใช้กลไกความถี่สูง 10 เฮิรตซ์ พร้อมระบบ Magnetic Pivot Balance ซึ่งถือเป็นก้าวใหม่ทางวิศวกรรมเรือนเวลา แทนที่จะหลีกเลี่ยงสนามแม่เหล็ก Breguet กลับใช้พลังของมันเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับแกนจักรสมดุล โดยวางไมโครแม็กเนตสองตัวที่ปลายแกนทั้งสองด้าน เกิดเป็นสนามแม่เหล็ก 1.3 เทสลา (13,000 เกาส์) ที่ช่วยรักษาตำแหน่งให้ศูนย์กลางอยู่คงที่ ลดแรงเสียดทาน และเพิ่มความเสถียรของอัตราการสั่น ทำให้กลไกสามารถรักษาความเที่ยงตรงได้ถึง ±1 วินาทีต่อวัน ด้วยโครงสร้างนี้ แรงเสียดทานของแกนบาลานซ์ในทุกตำแหน่งทั้ง 6 ทิศทางจึงเกือบเท่ากัน เป็นความก้าวหน้าที่ต่อยอดมาจากนาฬิกา Classique Chronométrie 7727 ที่คว้ารางวัล Aiguille d’Or จาก GPHG 2014  มาแล้ว

เรือนเวลานี้บรรจุอยู่ในตัวเรือนทอง Breguet gold ขนาด 41 มิลลิเมตร ตกแต่งด้วยลายกิโยเช่ Quai de l’Horloge ทั้งขอบตัวเรือนและหน้าปัดที่จัดวางเข็มชั่วโมง-นาทีตรงกลาง ช่องพลังงานสำรองทรงพัดที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และหน้าปัดวินาทีขนาดเล็กสองวงที่ 2 และ 10 นาฬิกา โดยหน้าปัดซ้ายมีกลไกฟลายแบ็ค เพื่อความแม่นยำในการจับเวลาช่วงสั้น สะท้อนแนวคิดต้นกำเนิดของโครโนกราฟที่ Breguet คิดค้นในปี 1820


อีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าทึ่งคือ ชุดจักร escape-wheel ที่สร้างภาพเคลื่อนไหวแบบ phenakistoscope อุปกรณ์สร้างภาพเคลื่อนไหวแบบดั้งเดิมในศตวรรษที่ 19 ซึ่งถือเป็น ต้นแบบของ “animation” หรือ “motion picture” ในยุคแรก โดยแสดงตัวเลข “1775” และ “2025” สลับกัน 20 ภาพต่อวินาที เป็นเอฟเฟกต์แอนิเมชันที่สื่อถึงการเดินทางของแบรนด์จากอดีตสู่อนาคตอย่างงดงาม

Breguet Classique 7225 นาฬิกาแห่งวาระสำคัญ ที่เปรียบประดุจสัญลักษณ์ของการสานต่อจิตวิญญาณของผู้ให้กำเนิด A.-L. Breguet ผู้ซึ่งนิยามความเที่ยงตรงใหม่ให้โลกเห็น จากทูร์บิญองในศตวรรษที่ 18 สู่ magnetic pivot chronometry แห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นระบบที่ใช้แรงแม่เหล็กควบคุมแกนบาลานซ์ให้นิ่ง สมดุล และเที่ยงตรงในทุกตำแหน่ง ลดแรงเสียดทานและเพิ่มความทนต่อแรงกระแทกนั่นเอง


Breguet Hallmark
ตราประทับแห่งคุณค่าเหนือกาลเวลา
การเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของ Breguet มิได้เป็นเพียงการหวนรำลึกถึงอดีต แต่ยังเป็นการประกาศวิสัยทัศน์สู่อนาคตของความเป็นเลิศเชิงช่างฝีมือ

เพื่อสืบสานคุณภาพนี้ แบรนด์ได้เปิดตัว “Breguet Hallmark” — ตรารับรองคุณภาพที่รวบรวมมาตรฐานสูงสุดไว้ในสามมิติสำคัญ ได้แก่ ความงาม (Aesthetic), เทคนิคและความเที่ยงตรง (Technical & Chronometric) และ จริยธรรม (Ethical) ซึ่งสะท้อนทั้งฝีมือ ประสิทธิภาพ และคุณค่าที่อยู่เบื้องหลังทุกเรือนเวลา

ตราประทับใหม่นี้จึงมิใช่เพียงสัญลักษณ์แห่งคุณภาพ หากแต่เป็นคำมั่นต่อแนวทางของ Abraham-Louis Breguet ผู้เชื่อว่านาฬิกาที่แท้จริงต้องเป็นทั้ง “ผลงานวิศวกรรม” และ “ศิลปะที่มีชีวิต” ในเวลาเดียวกัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้