LA FABRIQUE DU TEMPS Louis Vuitton

เปิดประตูสู่โลกแห่งเครื่องบอกเวลาของ Louis Vuitton ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อันเฉียบคม ความชำนาญด้านวิศวกรรมกลไก และงานหัตถศิลป์ชั้นสูง ที่ได้รับการหลอมรวมความเที่ยงตรงและความงดงามเป็นหนึ่งเดียว ภายใน La Fabrique du Temps Louis Vuitton ศูนย์รวมความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาที่ทันสมัยและกว้างขวาง ตั้งอยู่ในเมือง Meyrin (เมแร็ง) ภายในกรุงเจนีวา ที่เราอยากพาทุกคนไปชมพร้อมๆ กัน

ชื่อ Louis Vuitton สะท้อนถึงความงดงามแห่งศิลปะการเดินทางและความหรูหราที่โลกจดจำ และไม่ได้มีเพียงกระเป๋า เสื้อผ้าและเครื่องประดับเท่านั้น แต่ชื่อของ Louis Vuitton ยังโดดเด่นในโลกแห่งเครื่องบอกเวลาด้วยผลงานที่งดงาม ซับซ้อนและน่าตื่นตะลึง ทั้งยังคว้ารางวัลระดับโลกอย่าง Grand Prix d’Horlogerie de Genève (GPHG) เวทีสูงสุดของวงการนาฬิกาโลกที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นออสการ์แห่งวงการนาฬิกา จากหลายผลงาน เช่น Tambour Carpe Diem คว้ารางวัล Audacity Prize ในปี 2021 รางวัลที่มอบให้กับแบรนด์ที่แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งความกล้าและความคิดสร้างสรรค์เหนือกรอบธรรมเนียมดั้งเดิม หรือในปี 2023 กับผลงานอย่าง Tambour Opera Automata ที่ได้รางวัล Mechanical Exception Prize ผลงานเรือนนี้ตีความแรงบันดาลใจจากโอเปร่าจีนผ่านหน้าปัดที่เปี่ยมชีวิต ตัวละคร Bian Lian หรือ “หน้ากากเปลี่ยนสี” ถูกถ่ายทอดในรูปแบบกลไกอัตโนมัติที่เปลี่ยนสีหน้าได้จริง พร้อมระบบแสดงเวลา Hidden Time Display ที่ซับซ้อน เป็นต้น ผลงานคว้ารางวัลสุดยอดเหล่านี้ ล้วนมาจากความทุ่มเทของทีม La Fabrique du Temps Louis Vuitton ไม่เฉพาะเครื่องบอกเวลาที่ประดับชื่อ Louis Vuitton เท่านั้น ที่นี่ยังเป็นฐานการผลิตนาฬิกาอีกสองแบรนด์สำคัญคือ Gérald Genta และ Daniel Roth ซึ่ง Jean Arnault ร่วมกับ Michel Navas และ Enrico Barbasini ผู้ก่อตั้ง เวิร์กช็อป La Fabrique du Temps พลิกฟื้นคืนชีพให้กับสองแบรนด์นี้อีกครั้ง

La Fabrique du Temps by Louis Vuitton ม่ใช่เพียงโรงงานผลิตนาฬิกา หากแต่คือ “ห้องทดลองแห่งเวลา” ที่รวบรวมช่างฝีมือ วิศวกร และศิลปินไว้ใต้หลังคาเดียวกัน ทุกคนทำงานเพื่อจุดหมายเดียวเพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาที่เป็นศิลปะอันงดงามซึ่งสะท้อนจิตวิญญาณของ Louis Vuitton เบื้องหลังประตูเหล็กบานใหญ่คืออาคารทันสมัยที่มีพื้นที่กว้างถึง 4,500 ตารางเมตรโดยประมาณ อาคารแห่งนี้เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่สะท้อนปรัชญา “Human Scale” ของแบรนด์ พื้นที่ทุกส่วนถูกออกแบบให้ทุกคนทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ให้แสงส่องถึงในจังหวะที่เหมาะสม และให้ศิลปะได้เติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี

ด้านล่างเป็นโถงต้อนรับที่ตกแต่งด้วยงานภาพกราฟิกสวยๆ ขนาดใหญ่ และ Objets Nomades ผลงานตกแต่งบ้านของ Louis Vuitton ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทาง รวมถึงถ้วยรางวัล Louis Vuitton Watch Prize ที่ Jean Arnault ริเริ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในวงการนาฬิกา โดยร่วมมือกับผู้ผลิตนาฬิกาอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการผลิตนาฬิกา เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ โครงการนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเขาในการสนับสนุนและส่งเสริมวงการนาฬิกาชั้นสูงให้เติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ก็ยังมีผลงานนาฬิการุ่นต่างๆ ของเมซงจัดแสดงให้ชมพร้อมกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของนาฬิกา Louis Vuitton นับตั้งแต่ปี 1910 จากชิ้นงานแรกที่เมซงสร้างขึ้นในชื่อ Star Clock นาฬิกาพกเพื่อการเดินทาง และนาฬิกาข้อมือผู้หญิง Totem ที่ออกแบบโดย Gaston-Louis Vuitton ในปี 1931 ก่อนจะมาเป็นนาฬิกาข้อมือที่เสมือนการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมแห่งเครื่องบอกเวลาอย่างจริงจังในปี 1988 ในรุ่น LV1 และ LVII ผลงานที่ผสมผสานศิลปะแห่งการเดินทางเข้ากับการบอกเวลาอย่างมีสไตล์ ตามมาด้วยปี 2002 เมื่อเมซงปิดเวิร์กช็อปในเมือง La Chaux-de-Fonds พร้อมการมาถึงของคอลเลกชั่น Tambour สัญลักษณ์แห่งยุคใหม่ในตัวเรือนที่ตีความหมายจากกลองที่ประดุจการสร้างเสียงก้องกังวาลของเวลา

ในปี 2009 Louis Vuitton ได้ร่วมมือกับเวิร์กช็อป La Fabrique du Temps เพื่อพัฒนากลไก Spin Time ที่ใช้ลูกบาศก์หมุนแทนเข็มบอกเวลา นวัตกรรมที่ไม่เพียงสร้างความตื่นเต้นให้วงการ แต่ยังสะท้อนความกล้าคิดต่างของแบรนด์ และเพียงสองปีถัดมา Louis Vuitton ก็เข้าซื้อเวิร์กช็อปแห่งนี้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงเวิร์กช็อปทำหน้าปัด Léman Cadran ในปี 2012 เพื่อรวมองค์ความรู้ด้านการผลิตไว้ครบวงจร และอีกสองปีต่อมา โรงงานแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ La Fabrique du Temps Louis Vuitton ก็กลายเป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์นาฬิกาชั้นสูงที่ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบกลไก การผลิตตัวเรือน การทำหน้าปัด ไปจนถึงงานตกแต่งทางศิลปะที่ต้องใช้ช่างฝีมือเฉพาะทาง

*ติดตามอ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ในนิตยสาร QP Thai Edition ฉบับเดือนตุลาคม 2025