Last updated: 10 พ.ย. 2568 | 352 จำนวนผู้เข้าชม |
คอลเลกชัน DSTB 42 ได้รับการเติมเต็ม ด้วยนาฬิกาสองรุ่นใหม่ นาฬิการุ่นกลไก "True-Beat Seconds" (ทรู-บีท เซคัลส์) หรือกลไกวินาทีเดินแบบกระโดด โดยนาฬิกาเรือนนี้ Arnold & Son ได้นําเสนอมาพร้อมกับหน้าปัดสี Mint Green (มินท์ กรีน) ในรุ่นตัวเรือน Red Gold (เรด โกลด์) และหน้าปัดสี Ascot Blue (แอสคอต บลู) สําหรับรุ่นตัว เรือน Platinum (แพลทินัม) ซึ่งนาฬิกาแต่ละรุ่นผลิตในจํานวนจํากัดเพียง 18 เรือน โดยผสมผสานการจัดวาง หน้าปัดแบบอสมมาตร และความซับซ้อนทางกลไกเข้ากับกลไกพิเศษที่โดดเด่นของรุ่นนี้ หน้าปัดที่มีพื้นผิวแบบ เกรน ซึ่งมีความหนาแน่นและแวววาว ถูกประดับด้วยสะพานจักรทองคําแบบโปร่งสามชิ้น ที่รองรับกลไกวินาทีเดิน กระโดด ซึ่งถูกวางไว้ตรงข้ามกับหน้าปัดแสดงชั่วโมงสีขาวโอปอลแบบเยื้องศูนย์ การผสมผสานที่ละเอียดอ่อนของ พื้นผิวและการตกแต่งนี้ แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของความซับซ้อนและความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่กําหนดนิยามของคอลเลกชัน DSTB ได้อย่างชัดเจน

กลไก True-Beat Seconds (ทรู-บีท เซคัลส์) เป็นส่วนสําคัญของ มาตรบอกเวลาเดินเรือหรือ Marine Chronometers (มา รีน โครโนมิเตอร์) ที่ John Arnold (จอนห์ อาร์โนลด์) ได้จัดส่งให้กับกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งเฟืองจักรของนาฬิกาเหล่านี้ จะทํางานด้วยจังหวะที่มั่นคงของการสั่นเพียงหนึ่งครั้งต่อวินาทีที่บอกเวลาออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเข็มวินาทีที่ มีจังหวะที่ชัดเจนและสม่ําเสมอนี้เอง Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) จึงได้ประดิษฐ์กลไกที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่ง ของแบรนด์ขึ้น นั่นคือ True-Beat Seconds หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Deadbeat Seconds (เดธบีท เซคัลส์)
การกระโดดที่แม่นยํา
กลไก True-Beat Seconds (ทรู-บีท เซคัลส์) จําเป็นต้องมีกลไกเฉพาะ มาเสริม ไม่มีเครื่องบอกเวลาข้อมือใดที่มีเฟือง จักรที่เดินในอัตราหนึ่งรอบต่อวินาทีตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นความถี่ที่ออกแบบมาสําหรับนาฬิกาขนาดใหญ่บางรุ่น ดังนั้น กลไก A&S6203 จึงทํางานที่ความถี่ 4Hz (4 เฮิรตซ์) หรือ 8 ครั้งต่อวินาที การสร้างให้เข็มวินาที กระโดด จากขีดหนึ่ง ไปยังอีกขีดหนึ่งจึงต้องใช้กลไกเฉพาะ ซึ่งคล้ายกับเฟืองจักรอีกชุด กลไกนี้ถูกพัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง โดย ช่างทํานาฬิกาของ Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) และสงวนไว้สําหรับคอลเลกชันนี้เท่านั้น โดยกลไกทั้งหมด ถูก จัดแสดงเอาไว้อย่างสมบูรณ์บนฝั่งหน้าปัด เพื่อเป็นการยกย่องความก้าวหน้าครั้งสําคัญที่ John Arnold (จอห์น อาร์โนลด์ ได้นํามาสู่มาตรบอกเวลาเดินเรือหรือ Marine Chronometry (มารีน โครโนเมทรี)

ซื่อตรงต่อประวัติศาสตร์
กลไก True-Beat Seconds (ทรู-บีท เซคัลส์) ถูกจัดแสดงในลักษณะที่คู่ควรกับความสําคัญทางประวัติศาสตร์ในอดีตที่ มีต่อ Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) ด้วยการตัดสินใจวางกลไกนี้ไว้ที่ฝั่งหน้าปัด ซึ่งหมายความว่าตัวเครื่องจะต้องมีการไขว้กัน ทําให้ต้องเพิ่มระดับชั้นเข้าไปในกลไก A&S6203 และต้องมีการสร้างสะพานจักรเฉพาะขึ้นมาสาม ชิ้น โดยสะพานจักรเหล่านี้ ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับสไตล์ของ Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) ที่เป็น งานฉลุโปร่งหรือ Openwork ในแบบสามมิติและถูกสร้างขึ้นจากทองคําแท้
บนสะพานจักรเหล่านี้ เข็มวินาทีจะเดินสเกลที่ทอดยาวระหว่างตําแหน่ง 9 นาฬิกาถึง 12 นาฬิกา ซึ่งช่วยสร้างความ สมดุลที่ตรงข้ามกับหน้าปัดแสดงบอกชั่วโมงและนาที สีขาวโอปอลที่เยื้องศูนย์ไปอยู่ตรงตําแหน่ง 5 นาฬิกา การจัดวาง ลักษณะนี้สะท้อนถึง ทางเลือกด้านสุนทรียภาพที่ตั้งใจไว้ ซึ่งไม่ใช่แค่การจัดวางกลไกให้เยื้องศูนย์ไปอย่างจํากัดเท่านั้น ดังที่เห็นได้จากเม็ดมะยมที่ยังคงอยู่ที่ตําแหน่ง 3 นาฬิกา ตามปกติ

เข็มนาฬิกาอันพิถีพิถัน
การทํางานของกลไก True-Beat Seconds (ทรู-บีท เซคัลส์) สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มันเป็นการทํางานที่ สม่ําเสมอ มั่นคง และงดงาม ตุ้มถ่วงของกลไกเสริมที่ทําหน้าที่คล้ายเฟืองจักรนี้ ถูกออกแบบให้มีรูปร่างเหมือนสมอเรือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นรากฐานของ Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) ซึ่งมันจะเคลื่อนไหวไปพร้อมกับกลไกหลัก โดยทําหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของเข็มวินาทีที่ยาวและเรียวเล็กได้อย่าง เที่ยงตรงแม่นยํา
DSTB 42 เป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่โดดเด่นที่สุดของ Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากกลไก A&S6203 ที่ได้รับการพัฒนา สร้างชิ้นส่วน ประกอบ และปรับตั้งค่าอย่างสมบูรณ์ทั้งหมดที่โรงงานของแบรนด์เอง โดย กลไก ไขลานอัตโนมัตินี้ได้รับพลังงานจากโรเตอร์ที่ทําจากทองคํา 22 กะรัต และสามารถสํารองพลังงานได้นาน 55 ชั่วโมง โดยทํางานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (vibrations per hour) และแน่นอนว่ามันขับเคลื่อนกลไก True- Beat Seconds (ทรู-บีท เซคัลส์) ด้วยการกระโดดที่แม่นยํา 60 ครั้งต่อนาที
PENDULUM
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 ในฐานะผู้แทนจําหน่ายนาฬิกาหรูแห่งแรกในประเทศไทย และมีบูติกทั้งสิ้น 6 แห่งในปัจจุบัน ซึ่ง ล้วนตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสําคัญๆ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้ Pendulum เป็นตัวแทน จําหน่ายนาฬิกาหรูมากกว่า 30 แบรนด์ ทั้งภายในบูติกของตนเองและช่องทางการจัดจําหน่ายอื่นๆ ตอบโจทย์ความชื่น ชอบชื่นชมที่หลากหลายของคนรักนาฬิกา ความหลากหลายของแบรนด์ชั้นนํานี้เอง ช่วยตอกย้ําความเป็นผู้นําของ Pendulum ในตลาดค้าปลีกนาฬิกาหรูในประเทศไทย
19 ธ.ค. 2568
24 ธ.ค. 2568
10 ธ.ค. 2568