ROGER DUBUIS Hommage la Placide

Last updated: 12 พ.ย. 2568  |  269 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ROGER DUBUIS Hommage la Placide

Roger Dubuis เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษเพื่อเป็นการรำลึกถึงนาฬิการุ่น “Hommage” ของแบรนด์ ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการคารวะต่อเหล่าปรมาจารย์ที่เคยสร้างแรงบันดาลใจให้กับ Mr. Roger Dubuis (มร. โรเชอร์ ดูบุยส์) ผู้ก่อตั้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการหวนกลับมาสรรเสริญ ตัวตนของชายผู้สร้างตำนานนั้นด้วย ผ่านผลงานรุ่นพิเศษ Hommage La Placide ผลิตจำกัดเพียง 28 เรือน สร้างขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์โดยผสมผสานชิ้นส่วนดั้งเดิมกับองค์ประกอบที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ พร้อมมาตรฐานตราประทับแห่งคุณภาพ Poinçon de Genève อันทรงเกียรติ

นาฬิกาเรือนนี้พาผู้สวมใส่ย้อนรอยกาลเวลา 30 ปีแห่งประวัติศาสตร์ของ Roger Dubuis จากวันแรกที่ มร. โรเชอร์ ดูบุยส์ ก้าวสู่โลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง จนถึงปัจจุบันที่ชื่อของเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าสร้าง กล้าท้าทาย และไม่เคยหยุดพัฒนา เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปีของแบรนด์ Geneva Maison อย่างสง่างามและทรงความหมาย


หัวใจของ Hommage La Placide คือคาลิเบอร์ 1472 ซึ่งเกิดจากการผสานระหว่างชิ้นส่วนดั้งเดิมและชิ้นส่วนที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ เป็นการบรรจบระหว่าง “อดีต” และ “ปัจจุบัน” ผ่านศาสตร์แห่งกลไกและความงามของรายละเอียดทุกชั้นเชิงในงานตกแต่ง โดยแรงบันดาลใจของคอลเลกชันนี้สะท้อนกลับไปยัง “Hommage” รุ่นแรกในปี 1996 ผลงานที่ มร. ดูบุยส์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงอาจารย์ เพื่อน และช่างนาฬิกาผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งหล่อหลอมเขามา แต่คราวนี้ Roger Dubuis ได้หวนกลับมาเล่าเรื่องราวของชายผู้สงบนิ่งและเปี่ยมปัญญาคนนั้น ผ่านการอุทิศผลงานแด่ Placide ฉายาที่ มร.บุยส์ ได้รับในวัยเยาว์ ขณะเป็นลูกเสือ ซึ่งสะท้อนถึงบุคลิกอันสงบ ละเมียด และมีเมตตา นามนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของการสร้างสรรค์เรือนเวลารุ่นพิเศษนี้

จุดเริ่มต้นของการฟื้นคืนชีพครั้งนี้อยู่ที่คาลิเบอร์ RD14 กลไกระบบอัตโนมัติรุ่นแรกของ Roger Dubuis เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 และครั้งนี้ถูกนำกลับมาฟื้นสภาพทีละเรือน ผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด เพื่อคืนชีพให้กลไกกลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์ดังเดิม คาลิเบอร์นี้โดดเด่นด้วย Swan Neck Regulator กลไกปรับเทียบแบบดั้งเดิมที่มีความประณีตสูง ให้การปรับตั้งที่แม่นยำและมีความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้สปริงสายใยที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์เอง จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Roger Dubuis ได้รับสถานะ “Manufactory” อย่างแท้จริง


เมื่อพื้นฐานของกลไกได้รับการรื้อฟื้น RD14 จึงถูกจับคู่กับโมดูล RD72 โดยกลไกปฏิทินร้อยปี (Perpetual Calendar) ที่ Roger Dubuis เคยหลงใหลและเลือกใช้ในปี 1999 โดยแสดงวัน เดือน ปี อธิกสุรทิน และข้างขึ้นข้างแรมครบถ้วน โดยไม่ต้องปรับตั้งจนถึงปี ค.ศ. 2100 สำหรับโปรเจกต์นี้ โรงงานต้องผลิตชิ้นส่วนใหม่ขึ้นถึงครึ่งหนึ่งของกลไก รวมถึงแทนเครื่อง สะพานจักร และองค์ประกอบย่อยกว่า 50% ทั้งหมดทำขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์ เพื่อยืนยันความสามารถในการผลิตครบวงจรในยุคปัจจุบัน กลไกนี้ยังมีระบบแสดงเดือนและปีอธิกสุรทินร่วมกันบนวงเดียว ด้วยกลไกเฟืองรูปดาวสองชุดซ้อนแกนร่วมอย่างงดงาม

การผสมผสานระหว่างสองกลไกนี้ให้กำเนิดคาลิเบอร์ RD1472 กลไกรุ่นใหม่ที่ประดับโรเตอร์พิงก์โกลด์ 18 กะรัต ประกอบด้วยชิ้นส่วนกว่า 291 ชิ้น ผ่านกระบวนการตกแต่งถึง 15 เทคนิค ทั้งการขัดลบมุม ขัดเงา ลาย Geneva stripes ขัดปลายฟันเฟือง การเซาะลาย perlage และการขัดผิวแบบ mirror polish ทุกขั้นตอนสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญขั้นสูงที่แบรนด์สืบทอดจากช่างนาฬิกายุคบุกเบิกจนถึงวันนี้

ตราประทับ Poinçon de Genève ยังคงเป็นหัวใจของมาตรฐานความเป็นเลิศในผลงานของ Roger Dubuis เช่นเดิม แม้ข้อกำหนดของตรานี้จะพัฒนาไปตามยุคสมัย โดยในปัจจุบันจะทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาทั้งเรือน ไม่ใช่เพียงตัวคาลิเบอร์ ทำให้ทีมช่างต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับ “การตั้งกลไก” เพื่อให้ผ่านมาตรฐานอันเข้มงวดของยุคใหม่ อีกหนึ่งหลักฐานแห่งความเป็นเลิศของศิลป์ช่างเจนีวา

บนหน้าปัด Hommage La Placide ความซับซ้อนถูกเล่าอย่างมีชั้นเชิง ผ่านโครงสร้างแบบหลายชั้นที่ Roger Dubuis ใช้เป็นภาษาทางศิลป์เฉพาะตัวมาโดยตลอด หน้าปัดนี้ประกอบด้วยห้าชั้นของความงามที่แตกต่าง แต่ผสานกันอย่างกลมกลืน เริ่มจากขอบหน้าปัดที่ปัดลายวงกลมเคลือบโรเดียม ประดับตัวเลขและเส้นนาที ขณะที่ส่วนของปฏิทินทำจากเปลือกหอยมุก ตัดขอบด้วยการขัดมุมมืออย่างละเอียด ชั้นหลักเคลือบสี “Leman Blue” ซึ่งเป็นการคารวะต่อทะเลสาบเจนีวา ภาพที่ มร. บุยส์ มองเห็นทุกเช้าระหว่างการเดินทางไปเรียนช่างนาฬิกา ชั้นถัดมาเป็นวงหน้าปัดย่อยทำจากมุกเช่นกัน ส่วนชั้นสุดท้ายคือแผ่นแสดงข้างขึ้นข้างแรมที่ใช้หินอะเวนจูลีนสีน้ำเงินลึกฝังพระจันทร์ทองคำ 18 กะรัตโค้งมนระยิบระยับ


ตัวเรือนพิงก์โกลด์ 18 กะรัต ในขนาด 38 มิลลิเมตร ประกอบสายหนังสีน้ำเงินเปลี่ยนได้ พร้อมหัวเข็มขัดที่สลักตรา Roger Dubuis ดั้งเดิม ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อให้รู้สึกเสมือนประสบการณ์ระหว่างอดีตและอนาคตมาบรรจบกันในเรือนเดียว

นาฬิการุ่น Hommage La Placide และ Excalibur Biretrograde Calendar ที่เปิดตัวในโอกาสเดียวกันนี้ คือบทเพลงแห่งการเฉลิมฉลองจิตวิญญาณของผู้ก่อตั้งที่ไม่เคยดับสูญ เป็นการเชื่อมโยงเส้นทางจากรากเหง้าแห่งหัตถศิลป์ Geneva มาสู่ความร่วมสมัยในทุกจังหวะของกลไกและเส้นโค้งบนหน้าปัด และเพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าของนาฬิการุ่น Hommage ทั่วโลก Roger Dubuis ได้เชิญชวนให้พวกเขาเยี่ยมชมบูติกของแบรนด์ทุกแห่ง เพื่อรับสายหนังรุ่นพิเศษ Hommage strap สำหรับเรือนเวลาสุดรักของตนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สัญลักษณ์ของความผูกพันที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเงียบงาม

Roger Dubuis คือชื่อที่ผสมผสานระหว่างบุคลิกเฉพาะตัวและศาสตร์แห่งกลไกอย่างไร้ขอบเขต ตั้งแต่ปี 1995  แบรนด์ผู้สร้าง “ความหรูหราที่มีชีวิต” ผ่านปรัชญาแห่งความสุข อิสรภาพ และความบ้าคลั่งอันสร้างสรรค์ ที่ท้าทายกรอบของเครื่องบอกเวลาชั้นสูง ด้วยพลังแห่งจินตนาการและความกล้าที่จะต่าง จนวันนี้ Hommage La Placide ได้กลายเป็นบทพิสูจน์อีกครั้ง ว่าความคลั่งไคล้ในความงามนั้น เมื่อถูกถ่ายทอดด้วยมือของช่างผู้สงบนิ่งและหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก ย่อมกลายเป็น “เรือนเวลาแห่งนิรันดร์” อย่างแท้จริง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

TAG HEUER

13 พ.ย. 2568

ZENITH DEFY Zero G

15 ต.ค. 2568

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้