CARTIER En Équilibre

Last updated: 17 พ.ย. 2568 | 35 จำนวนผู้เข้าชม |

หลังจากการเปิดตัวที่กรุงสตอกโฮล์ม คาร์เทียร์เปิดตำนานบทใหม่ของคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูงออง เอกิลิบร์ (En Équilibre) ณ กรุงปักกิ่ง คอลเลคชั่นนี้เป็นการสำรวจศิลปะแห่งความสมดุล ถ่ายทอดสไตล์เฉพาะตัวของคาร์เทียร์ที่เน้นความกลมกลืนและสัดส่วนอันสมบูรณ์แบบ มีการนำเสนอผลงานกว่า 480 ชิ้น ครอบคลุมทั้งเครื่องประดับและนาฬิกาชั้นสูง รวมไปถึงคอลเลคชั่นคาร์เทียร์เทรดิชั่น (Cartier Tradition) แต่ละชิ้นที่จัดแสดงที่ปักกิ่งในครั้งนี้ล้วนถ่ายทอดความงดงามเหนือกาลเวลาของความสมดุล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในมรดกของคาร์เทียร์

กรุงปักกิ่งเป็นเมืองที่ผสมผสานความยิ่งใหญ่และระเบียบแบบแผน ขนบประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัยได้อย่างงดงาม จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ที่จัดขึ้น ณ โรงแรม Aman Summer Palace ใกล้สวนของพระราชวังฤดูร้อนที่มีอายุกว่าหลายร้อยปี นับเป็นฉากหลังที่หลอมรวมวัฒนธรรมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนท่ามกลางลานตำหนักเก่า สวนศาลา และสายน้ำ

แนวคิดเรื่องความสมดุลคือหัวใจหลักในวิสัยทัศน์ของเมซง โดยสะท้อนออกมาในคอลเลคชั่นนี้ผ่านเส้นสายที่คมชัด รูปทรงอันทรงพลัง การจัดวางสีสันที่กลมกล่อม และจังหวะระหว่างพื้นที่ว่างและพื้นที่ทึบอย่างลงตัว

เมื่อก้าวเข้าสู่ลานจัดแสดง ผู้ชมจะได้สัมผัสกับชิ้นงานเครื่องประดับที่ขับเน้นสามบทหลัก ได้แก่ “สีสัน” “จังหวะ” และ “ปริมาตร” พร้อมกับชิ้นงานจากคอลเลคชั่นคาร์เทียร์เทรดิชั่น เรือนเวลาชั้นสูง และเรือนเวลาเครื่องประดับชั้นสูง แต่ละบทจะเผยให้เห็นการตีความความกลมกลืนในรูปแบบที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันยังมีโซนสำหรับชิ้นงานสั่งทำพิเศษที่จัดแสดงอัญมณีหลากสีสัน พร้อมรังสรรค์ความงดงามของความสมดุลในมิติใหม่

สีสัน
จากโทนสีบางเบาสู่การตัดกันของสีสันอันสดใส คาร์เทียร์สำรวจแก่นแท้ของสไตล์ผ่านพาเลตต์สีจากธรรมชาติ ที่สอดประสานกันดั่งบทเพลงซิมโฟนี

สร้อยคอบายซาส (BYZAS)
ผลงานสร้อยคอที่จับคู่แซฟไฟร์ทรงลูกแพร์เข้ากับมรกตแปดเม็ด ถ่ายทอดความงามของเฉดสีน้ำเงิน-เขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ที่เรียกว่า “ลวดลายหางนกยูง” เฉดสีเขียวเข้มของมรกตสะท้อนประกายของแซฟไฟร์ได้อย่างลงตัว ลวดลายฉลุโปร่งของตัวเรือนสร้างสมดุลระหว่างอัญมณีกับโครงสร้าง ขณะที่เพชรรูปทรงเรขาคณิตบริเวณขอบเพิ่มจังหวะและความประณีตให้กับองค์ประกอบโดยรวม

สร้อยคอคาฟาฌาเต (CAFAYATE)
สร้อยคอเส้นนี้โดดเด่นด้วยโอปอลคู่ เปล่งประกายระยิบระยับด้วยเฉดสีหลากมิติ ความงดงามของสีแดง ส้ม และเหลืองสะท้อนผ่านบรรดาแซฟไฟร์หลากสีสันที่เรียงสลับกัน เกิดเป็นความรู้สึกอบอุ่นตลอดทั่วทั้งชิ้นงาน ลวดลายเรขาคณิตค่อยๆ หลอมรวมเป็นเส้นโค้งมนอ่อนโยนรอบอัญมณีเม็ดกลาง สร้างสมดุลระหว่างสีสันที่สดใสและความอ่อนละมุนได้อย่างงดงาม

สร้อยคอดิวิตา (DIVITA)
ชิ้นงานนี้ผสมผสานลูกปัดหยก สปินเนล ทัวร์มาลีน โอปอล และเพชรเข้าด้วยกันบนดีไซน์เรขาคณิตและงานฉลุลวดลายโปร่งอันประณีต พาเลตต์สีอ่อนละมุนราวพฤกษาเข้ากันอย่างกลมกลืนกับอัญมณีที่มีรูปทรงเป็นธรรมชาติ ส่วนพู่ห้อยจากจี้กลางช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวและความอ่อนช้อยให้กับดีไซน์โดยรวม

เข็มกลัดนาคูรู (NAKURU)
เข็มกลัดชิ้นนี้สะท้อนถึงมรดกงานฝังและศิลปะการแกะสลักอัญมณีของคาร์เทียร์ (Glyptics) หินควอตซ์สีชมพูทั้งก้อนถูกนำมาแกะสลักเพื่อเผยให้เห็นรูปฟลามิงโกที่มีรายละเอียดเสมือนจริง ตั้งแต่จะงอยปากที่ทำจากอาเกตไปจนถึงเส้นลายขนนุ่มละเอียดทั่วลำตัว เพชรรูปว่าวที่ประดับอยู่ด้านล่างช่วยขับให้โทนสีหวานของเข็มกลัดดูเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น

จังหวะ
ความงามอันแท้จริงอยู่ในความเรียบง่าย นี่คือแก่นแท้ของความสมดุล ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงเรขาคณิตเชิงสถาปัตย์ ความสง่างามของสรรพสัตว์ หรือพลังแห่งพืชพรรณ คาร์เทียร์ถ่ายทอดจังหวะที่พอดีผ่านความเชี่ยวชาญในสัดส่วนและรูปทรง

สร้อยคอเวตราตา (VETRATA)
สร้อยคอเส้นนี้ประกอบด้วยเพชรหายากหลายชิ้น อย่างเพชรเหลี่ยมตัดมุมขนาด 8.15 กะรัต รูปทรงที่เพรียวบางได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์แนวอาร์ตเดโค ที่ชวนให้นึกถึงตึกระฟ้าในยุคก่อน ลวดลายเรขาคณิตแบบแผ่รัศมีตัดด้วยออนิกซ์ช่วยขับประกายของเพชรให้โดดเด่นพร้อมสร้างจังหวะการจัดวางที่ลงตัว

สร้อยคอปองแตร์รีเฟล็กซิโอ (PANTHÈRES REFLEXIO)
สร้อยคอโดดเด่นด้วยทัวร์มาลีนสีเขียวเม็ดกลางขนาดกว่า 74.10 กะรัต และจี้คอรัลสีแดงขนาด 14.91 กะรัต ถ่ายทอดคู่สีเขียว-แดงอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์อย่างทรงพลัง สองเสือแพนเธอร์ที่หันหน้าเข้าหากันอยู่ตรงกลางมีท่วงท่าที่สง่างาม ดวงตาประดับมรกต พร้อมลวดลายจุดออนิกซ์ที่ละเอียดงดงาม

สร้อยคอทุตตี้ ตาพรหม (TUTTI TA PROHM)
เกือบหนึ่งศตวรรษหลังจากที่เผยโฉมสไตล์ทุตตี้ ฟรุตตี้ (Tutti Fruitti) เป็นครั้งแรก คาร์เทียร์ยังคงต่อยอดแรงบันดาลใจจากพฤกษานานาพันธุ์ด้วยชิ้นงานมรกตสองเม็ดที่รายล้อมไปด้วยทับทิมแกะสลักทรงบาโรคที่เปี่ยมชีวิตชีวา ชวนให้นึกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ค่อยๆ ทวงคืนพื้นที่จากสถาปัตยกรรมอย่างงดงาม

สร้อยคอเนโมโรซา (NEMOROSA)
จากแรงบันดาลใจจากดอกแอนนีโมนในฤดูใบไม้ผลิสู่สร้อยคอแนวอาร์ตเดโค ที่ผสมผสานลวดลายดอกไม้และเรขาคณิตเข้าไว้ด้วยกัน มรกตสองเม็ดรายล้อมด้วยกลีบดอกไม้ที่ทำจากเพชร ออนิกซ์ และร็อกคริสตัล เทคนิคการฝังอัญมณีแบบไร้หนามทำให้มรกตดูลอยเด่น ออนิกซ์เพิ่มมิติความลุ่มลึก ส่วนร็อกคริสตัลช่วยขับแสงให้ชิ้นงานเปล่งประกายสะดุดตา

ปริมาตร
ความแม่นยำของสัดส่วน ความถูกต้องของปริมาตร และความกลมกลืนของโครงสร้าง คาร์เทียร์เผยความงามของ “ปริมาตรที่สมดุล” ผ่านเส้นสายเรียบง่ายแต่ทรงพลัง

สร้อยคอฮาลิอาด (HALIADE)
สร้อยคอเส้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกลียวคลื่นรอบแซฟไฟร์สีน้ำเงินเข้มขนาด 41.85 กะรัตจากมาดากัสการ์ โครงสร้างที่ซ้อนกันและงานฉลุลวดลายแบบโปร่งสร้างสัมผัสการเคลื่อนไหวราวกับคลื่นทะเล สะท้อนความเชี่ยวชาญในดีไซน์ที่สมดุลและฝีมือเชิงช่างชั้นสูงของคาร์เทียร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สร้อยคอซีโฟม กรีน ชาเมน (SEAFOAM GREEN CHAMANE)
คริโซเพรสและแซฟไฟร์คือตัวละครหลักในโรงละครแห่งสีสันแห่งนี้ สีเขียวอ่อนพบกับสีน้ำเงินเข้ม ตัดขอบด้วยประกายเพชรและออนิกซ์ ดีไซน์เส้นโค้งเรียบง่ายแต่ทรงพลังสร้างทั้งแรงดึงดูดใจและความกลมกล่อม เกิดเป็นความงามร่วมสมัยอันเหนือกาลเวลา

สร้อยคอนาจาอาตรา (NAJAATRA)
สร้อยคอรูปงูจงอางขดตัวปกป้องอะความารีนขนาด 51.70 กะรัต งูดูราวกับมีชีวิตด้วยรายละเอียดสมจริงตั้งแต่รูปทรงหัว ดวงตามรกต ไปจนถึงเกล็ดเพชรที่เปล่งประกายทรงอำนาจ เพชรเม็ดเล็กและอะความารีนเม็ดรองช่วยเสริมจังหวะและพลังชีวิตให้ชิ้นงานโดดเด่นรอบลำคอผู้สวมใส่

แหวนเฟล็กซูรา (FLEXURA)
แหวนวงนี้โดดเด่นด้วยแซฟไฟร์ศรีลังกาขนาดใหญ่เจียระไนทรงกองข้าว ล้อมรอบด้วยเพชรทรงสามเหลี่ยมสองเม็ดที่ต่อยอดเหลี่ยมของอัญมณีให้ต่อเนื่องกัน ตัวเรือนฉลุโปร่งช่วยให้แสงลอดผ่าน เพิ่มประกายและความพลิ้วไหวให้กับสีสันของอัญมณีได้อย่างงดงาม

คาร์เทียร์เดินหน้าท้าทายขีดจำกัดแห่งการสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด Rien de trop หรือ “ความพอดีคือที่สุดแห่งความงาม” ผลลัพธ์คือคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูงออง เอกิลิบร์ ที่ถ่ายทอดความงามของอัญมณีหายากในรูปแบบของความสมดุลอันสง่างาม สะท้อนจิตวิญญาณเปี่ยมความคิดสร้างสรรค์และสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมซง

นิทรรศการเครื่องประดับชั้นสูงออง เอกิลิบร์ (EN ÉQUILIBRE)