Last updated: 21 พ.ย. 2568 | 266 จำนวนผู้เข้าชม |
TAG Heuer ถ่ายทอดเสน่ห์ของการแข่งขันยามค่ำคืนผ่านการตีความอันทรงพลังของเรือนเวลาระดับไอคอน TAG Heuer Monaco Chronograph ถ่ายทอดอะดรีนาลีนจากสนามแข่ง Formula 1® ในรัตติกาลอย่างเด่นชัด

TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิส ได้เผยโฉมการตีความอันโดดเด่นของเรือนเวลาระดับไอคอน ด้วย TAG Heuer Monaco Chronograph รุ่นใหม่ ดีไซน์ที่เฉียบคมและเปี่ยมพลังทำให้รุ่นลิมิเต็ดนี้พา TAG Heuer Monaco ก้าวสู่มิติใหม่ ส่องสว่างด้วยโทนสีจัดจ้านเสมือนแสงไฟนีออน และขับเคลื่อนด้วยจังหวะเร่งเร้าของโลกการแข่งขันยามค่ำคืน
TAG Heuer Monaco Chronograph ในมุมมองร่วมสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่กล้าท้าทาย เที่ยงตรงในสมรรถนะ และเปี่ยมพลังจากโลกของ Formula 1®
การสร้างตำนาน
นาฬิกา TAG Heuer Monaco เปิดตัวครั้งแรกในปี 1969 และได้ทลายกรอบแบบแผนของศาสตร์การบอกเวลา และกลายเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมสุดกล้าหาญ เม็ดมะยมด้านซ้าย และหน้าปัดสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากนาฬิกาอื่นในตลาด ปัจจุบันนาฬิกาคอลเล็กชันนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ และยังครองใจทั้งนักแข่งและนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก
TAG Heuer Monaco สืบทอดตำนานอย่างใกล้ชิดกับการแข่งขันรถยนต์และโลกภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการมีส่วนร่วมกับนักแสดงอย่าง Steve McQueen ในภาพยนตร์เรื่อง “Le Mans” ปี 1971 ตัวละครของ McQueen สวมนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco ซึ่งช่วยยืนยันสถานะของนาฬิกาในฐานะไอคอนด้านสไตล์และเสาหลักของวัฒนธรรมการแข่งขันรถยนต์

นอกจากชื่อเสียงในโลกภาพยนตร์แล้ว TAG Heuer Monaco ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละรุ่น โดยต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ปรับปรุงความแม่นยำและดีไซน์อันโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของโมเดลไอคอนนี้ ตั้งแต่ช่วงแรกที่ใช้วัดจังหวะความตื่นเต้นของโลกมอเตอร์สปอร์ต จนถึงเวอร์ชันสมัยใหม่ TAG Heuer Monaco ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบที่สร้างสรรค์ ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ยังคงยึดมั่นในมรดกแห่งการแข่งขันรถยนต์
จิตวิญญาณของนวัตกรรมนี้ยังคงดำเนินต่อในบทล่าสุดของ TAG Heuer Monaco ด้วยการตีความใหม่ที่ทรงพลัง ได้แรงบันดาลใจจากความตื่นเต้นของการแข่งขันในช่วงเวลากลางคืนและความสดใสสว่างไสวของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ช่วงเวลาแห่งการแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น
TAG Heuer Monaco Chronograph ถ่ายทอดบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของการแข่งขันในช่วงเวลากลางคืน ที่ความเร็วกลายเป็นการแสดงและแรงขับเคลื่อนโถมผ่านถนนสว่างด้วยแสงนีออน การออกแบบได้แรงบันดาลใจจากการแข่งขัน Formula 1® ช่วงกลางคืน ที่ทุกรอบเต็มไปด้วยความเร็วสูงและความเปรียบต่างที่ชัดเจน ด้วยรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันใหม่นี้ TAG Heuer Monaco ยิ่งตอกย้ำบทบาทของตนในฐานะสัญลักษณ์ของผู้กล้าที่ท้าทายกรอบเดิม ๆ การออกแบบโดดเด่นด้วยสีสันที่ชัดเจน มิติทางสถาปัตยกรรม และงานฟินิชชิ่งที่สะดุดตา

ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร ผลิตจากไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำ ทำให้ทั้งน้ำหนักเบาและทนทาน ส่วนกลางหน้าปัดสเกเลตันเผยให้เห็นกลไกภายใน พร้อมการไล่เฉดสีสดจากสีม่วงสู่สีน้ำเงินเข้ม สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากแสงพลบค่ำสู่กลางคืนเต็มรูปแบบ และถ่ายทอดบรรยากาศของเมืองขณะที่เข้าสู่โหมดการแข่งขัน
เพื่อเผยตัวตนที่แท้จริงในยามค่ำคืน นาฬิกาเรือนนี้ส่องสว่างอย่างโดดเด่นด้วยรายละเอียด Super-LumiNova® หลายสี สีฟ้าขับความโดดเด่นของฟังก์ชันโครโนกราฟและเข็มสีเทอร์ควอยซ์ Super-LumiNova® สีเขียว ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนร่วมกับเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีทองคำสีดำ ช่องวันที่แบบ SLN สีเขียวช่วยเสริมดีไซน์จานวันที่แบบเปิดให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในสภาวะแสงน้อย โครงสร้างสเกเลตันส่องสว่างจากภายใน โดยมี Super-LumiNova® สีม่วงในวงนาทีและ SLN สีฟ้าที่ขอบนอก สร้างเอฟเฟกต์เรืองแสงเป็นชั้น ๆ ด้วยสามโทนแสงในยามค่ำคืน ที่ฝาหลังเป็นกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ผ่านการเคลือบเมทัลไลซ์แบบมันวาวไล่เฉดจากสีน้ำเงินสู่สีม่วง ขยายพาเลตสีจากหน้าปัด สร้างประสบการณ์โครมาติกแบบต่อเนื่องที่เปลี่ยนไปตามแสงอย่างละเอียดอ่อน เสริมความเชื่อมโยงระหว่างการออกแบบกับการเคลื่อนไหว

นาฬิกาขับเคลื่อนโดยกลไกอัตโนมัติ Calibre TH20-00 ซึ่งออกแบบเพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพยาวนาน โดยกลไกและชิ้นส่วนภายในสามารถมองเห็นได้ทั้งจากหน้าปัดสเกเลตันและฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ มอบมุมมองที่ชัดเจนของวิศวกรรมอันประณีตให้กับนักสะสมนาฬิกา ปิดท้ายด้วยสายนาฬิกาที่ผสมผสานยางสีดำกับหนังลูกวัวปั๊มลาย ตกแต่งด้วยตะเข็บสีม่วงที่เข้ากับโทนสีของหน้าปัด โดยนาฬิกาแต่ละเรือนของรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นใหม่นี้มีหมายเลขประจำตัวเฉพาะตัว ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 600 เรือน ซึ่งมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ TAG Heuer Monaco ออกแบบพิเศษ ตกแต่งด้วยโทนสีม่วงเข้ากับตัวเรือน
TAG Heuer Monaco ไม่เคยหยุดท้าทายขนบเดิม โดยรุ่นนี้ถ่ายทอดจิตวิญญาณดังกล่าวสู่โลกของการแข่งขันกลางคืน สร้างขึ้นสำหรับผู้ที่หลงใหลในความเร็ว แสงสว่าง และการแสดงออกอย่างกล้าแสดง ไม่ใช่เพียงนาฬิกาที่สวมใส่ในยามค่ำคืน
แต่ TAG Heuer Monaco Chronograph คือภาพแทนของการแข่งขันกลางคืนบนข้อมือ
เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดยเอดูอาร์ด ฮอยเออร์ (Edouard Heuer) ณ เทือกเขาจูรา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มธุรกิจลักชัวรีชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองลาโชว์-เดอ-ฟงด์ (La Chaux-de-Fonds) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีโรงงานผลิตทั้งหมด 4 แห่ง พร้อมทีมงานกว่า 1,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.tagheuer.com ในบางประเทศ รวมถึงบูติกกว่า 260 แห่ง และจุดจำหน่ายกว่า 2,300 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทดำเนินงานภายใต้การนำของ อองตวน
ปิน (Antoine Pin) CEO ของ TAG Heuer
ตลอดระยะเวลากว่า 165 ปี TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลาในแบบอาวองการ์ดอย่างแท้จริง พร้อมยึดมั่นในนวัตกรรมด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลไก Oscillating Pinion สำหรับนาฬิกาจับเวลาเชิงกลในปี 1887 การเปิดตัว Mikrograph ในปี 1916 การเปิดตัวกลไกโครโนกราฟแบบไขลานอัตโนมัติรุ่นแรกของโลกอย่าง Calibre 11 ในปี 1969 และการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์หรูรุ่นแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชันหลักของแบรนด์ประกอบด้วยสองตระกูลไอคอนิกที่ออกแบบโดย แจ็ค ฮอยเออร์ (Jack Heuer) ได้แก่ TAG Heuer Carrera และ TAG Heuer Monaco เสริมด้วยคอลเลกชันร่วมสมัยอย่าง TAG Heuer Aquaracer, Formula 1, Link และ Connected
TAG Heuer ได้สะท้อนปรัชญาใหม่ “Designed to Win” (เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ) อย่างชัดเจน โดยสานต่อมรดกแห่งนวัตกรรมอันกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และสมรรถนะระดับสูง ความร่วมมือและแบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดังของแบรนด์ล้วนสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนในการฝ่าขีดจำกัด และพร้อมส่งมอบผลงานที่ยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลาสำคัญ
19 พ.ย. 2568
21 พ.ย. 2568
20 พ.ย. 2568