MUNEHISA SHIBASAKI

Grand Seiko เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สะท้อนความหมายของ “เรือนเวลาแห่งความเที่ยงตรงและศิลปะแห่งญี่ปุ่น” อย่างแท้จริงจากจิตวิญญาณแห่งความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียด ความเที่ยงตรงที่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีเพียงหนึ่งเดียวอย่างกลไก Spring Drive สะท้อนความสมดุลแห่งนวัตกรรมและงานหัตถศิลป์ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ Grand Seiko ได้รับการยกย่องจากนักสะสมทั่วโลก ไม่นานมานี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์อย่าง Munehisa Shibasaki ผู้อำนวยการและรองประธานอาวุโสฝ่ายแกรนด์ไซโก โกลบอลดิวิชั่น โดยเขาได้เล่าถึงความเคลื่อนไหวเล็กน้อยที่จะเกิดขึ้นในงาน Watches and Wonders Geneva ในปีหน้า ไปจนถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ ความท้าทายในตลาดนาฬิกายุคปัจจุบัน และแนวทางการสื่อสารกับนักสะสมชาวไทย

Grand Seiko เตรียมพร้อมเข้าร่วมงาน Watches & Wonders ปีหน้าอย่างไร และทราบว่าจะมีแบรนด์ Credor เข้าร่วมด้วยใช่หรือไม่?
ใช่ครับ ปีนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ เรามองว่า Watches & Wonders คือเวทีระดับโลกที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ญี่ปุ่นได้แสดงศักยภาพเทียบเท่าแบรนด์สวิส แม้เราจะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้ใหญ่หากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ แต่การเตรียมงานไม่ง่ายเลย เพราะเราต้องการนำเสนอบูธที่สะท้อนจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่น มีความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรายละเอียด มีการปรับดีไซน์บูธใหม่ให้มีความอบอุ่นและสะท้อนธรรมชาติมากขึ้น เช่น การใช้พื้นผิวไม้และแสงที่จำลองแสงอาทิตย์ของฤดูกาลในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจหลักของ Grand Seiko ในส่วนของแบรนด์ Credor ก็จะแยกไปอยู่อีกบูธหนึ่งในโซนของนาฬิกาอิสระ

อยากทราบว่าในมุมมองของคุณถึงจุดแข็งของ Grand Seiko คืออะไร?
ผมคิดว่าจุดแข็งที่สุดของเราอยู่ที่ “ความเที่ยงตรง” และ “ความงดงามในรายละเอียด” ซึ่งสะท้อนแนวคิดแบบญี่ปุ่นที่ว่า ความสมบูรณ์ไม่ได้อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ แต่อยู่ในความพิถีพิถันเล็กๆ ในทุกรายละเอียด เรามีสี่เสาหลักของแบรนด์ ได้แก่ ความเที่ยงตรง ความงดงาม การอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน และความทนทาน ทั้งหมดนี้ถูกหลอมรวมกันด้วย “สมดุลระหว่างนวัตกรรมและงานฝีมือ” อย่างเทคโนโลยี Spring Drive ก็เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของเรา เพราะเป็นระบบขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างพลังงานกลกับระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การเคลื่อนไหวของเข็มวินาทีลื่นไหลอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่สะดุดเลยแม้แต่น้อย

หลายแบรนด์เลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ในการสื่อสารภาพลักษณ์ ทำไม Grand Seiko ถึงยังไม่ใช้แนวทางนั้น?
เรามองว่าช่วงเวลานี้ยังเร็วเกินไปครับ Grand Seiko ยังอยู่ในช่วงสร้างตัวตนให้คนจดจำในฐานะแบรนด์ที่มีคุณค่าทางศิลปะและเทคโนโลยีมากกว่าแค่ภาพลักษณ์ ถ้าใช้แอมบาสเดอร์เร็วเกินไป ผู้คนอาจจดจำแต่บุคคล ไม่ใช่แบรนด์ แต่เราก็ไม่ได้ปฏิเสธแนวทางนี้นะครับ หากวันหนึ่งเราพบคนที่มีคุณค่าตรงกับจิตวิญญาณของ Grand Seiko ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสุภาพ ละเอียดอ่อน และมีความจริงใจต่อสิ่งที่ทำ เราอาจจะได้ร่วมงานกับบุคคลนั้นอย่างแน่นอน

อยากทราบว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Grand Seiko ใช้กลยุทธ์การสื่อสารอย่างไร?
เราเน้น “ประสบการณ์” มากกว่าการโฆษณา เราจัดงานเล็กๆ สำหรับนักสะสม จัดเวิร์กช้อป และจัดแสดงงานฝีมือของช่างฝีมือชาวญี่ปุ่น เพื่อให้คนได้สัมผัสถึงความละเอียดของแบรนด์ เราใช้สื่อดิจิทัลควบคู่กันไป เพื่อขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจนาฬิกาคุณภาพ ส่วนในประเทศไทย ผมต้องยอมรับว่าแฟน Grand Seiko มีความรู้ลึกและมีความหลงใหลจริงๆ ผมเคยเจอคนที่สะสมรุ่นวินเทจของเราและรู้เรื่องรายละเอียดมากกว่าที่ผมคาดไว้เสียอีก (หัวเราะ) ความเข้าใจของนักสะสมไทยทำให้ผมเชื่อมั่นว่าตลาดนี้ยังมีศักยภาพสูงมาก

ในตอนนี้ตลาดนาฬิกาทั่วโลกดูเหมือนจะเผชิญความท้าทาย ทั้งในแง่เศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค Grand Seiko ได้รับผลกระทบมากไหม?
แน่นอนครับว่าตลาดโดยรวมชะลอตัว แต่ Grand Seiko ยังมั่นคง เพราะเรามีฐานลูกค้าที่ชัดเจน และเป็นกลุ่มที่มองหาคุณค่า ไม่ใช่แค่โลโก้ สิ่งที่เราโฟกัสในตอนนี้คือการสร้าง “รุ่นหลัก” หรือ icon model ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้ดีที่สุด เราอาจจะลดจำนวนรุ่นลิมิเต็ดลง แต่จะเพิ่มความแข็งแรงของซีรีส์หลักแทน เพื่อให้ Grand Seiko มีภาพจำที่ชัดเจนและยั่งยืนกว่าเดิม

ในแง่ของเทคโนโลยี เราจะได้เห็นอะไรใหม่จาก Grand Seiko ในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่?
แน่นอนครับ เรามีการพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่อยู่เสมอ และปีนี้เราก็เพิ่งเปิดตัวกลไกใหม่ที่ได้รับเสียงตอบรับดีมาก โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ระบบสปริงไดรฟ์รุ่นปรับปรุง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาและแสงของฤดูกาลในญี่ปุ่น ผมเชื่อว่าความงามของ Grand Seiko อยู่ตรงที่ “ความสงบ” ของเวลา มันไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องเปล่งเสียง แต่มีพลังในความนิ่ง เราอยากให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงความสงบแบบญี่ปุ่นทุกครั้งที่มองนาฬิกา

สุดท้าย อยากให้ฝากข้อความถึงแฟนชาวไทยสักเล็กน้อย?
อยากจะขอบคุณแฟนๆ Grand Seiko มากครับ แฟนชาวไทยให้การสนับสนุนเรามาโดยตลอด ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า Grand Seiko จะยังคงสร้างสรรค์นาฬิกาที่งดงามและเที่ยงตรงที่สุดต่อไป เพื่อให้ทุกวินาทีของคุณมีคุณค่าเสมอ