LAURENT FERRIER Classic Origin

Last updated: 3 ธ.ค. 2568  |  31 จำนวนผู้เข้าชม  | 

LAURENT FERRIER Classic Origin

เมื่อห้าปีก่อน Laurent Ferrier ได้เฉลิมฉลองครบรอบสิบปีด้วยการเปิดตัว Classic Origin เรือนเวลาที่สะท้อนวิสัยทัศน์อัน ชัดเจนและปรัชญาการออกแบบที่มุ่งสร้างผลงานที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวผ่านความสมดุลเหนือกาลเวลา มากกว่าความหวือหวาและในวันนี้ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบสิบห้าปี เมซงได้เผยโฉมผลงานใหม่ที่ได้จากนําผลงานต้นแบบนั่นมาผ่านการตีความ ใหม่ ในชื่อ Classic Origin Beige

ความงามร่วมสมัยที่เหนือกาลเวลา
Classic Origin Beige ผสานเส้นสายโค้งมนอันคุ้นตาของตัวเรือน Classic ขนาด 40 มม. ที่ชวนให้นึกถึงก้อนหินซึ่งถูก สายน้ําขัดเกลาอย่างนุ่มนวลเป็นเวลายาวนานจนมีความกลมมน และเป็นครั้งแรกใน LF คอลเลกชันที่ผลงาน Classic Origin ปรากฏในรูปลักษณ์ที่เปล่งประกายแวววาว ด้วยวัสดุเรดโกลด์ 5N ประกายสีแดงอบอุ่นสุกปลั่ง เมื่อจับคู่กับหน้าปัดสีเบจ


ใหม่ จึงเกิดเป็นเรือนเวลาที่สะท้อนทั้งย้อนความทรงจําและความร่วมสมัย ราวกับเสียงสะท้อนอันแผ่วเบาจากอดีต โทนสี อบอุ่นที่สมดุลอย่างประณีตเผยความนุ่มนวลเหนือกาลเวลา สร้างความกลมกลืนระหว่างมรดกที่สืบทอดและปัจจุบันได้อย่างแยบยล

เหนือสิ่งอื่นใด Classic Origin Beige คือเรือนเวลาที่สะท้อนมินิมอลสปิริต อันเป็นจิตวิญญาณที่ยืนหยัดในความเรียบหรูลง ตัวซึ่ง Laurent Ferrier ยึดถืออย่างลึกซึ้ง หน้าปัดสีเบจที่แฝงโทนอบอุ่น เคลื่อนไหวไปตามจังหวะของสีน้ําตาลหลักแสดง หน่วยนาทีแบบเส้นรางรถไฟสีน้ําตาล แนวเส้นกากบาทที่กึ่งกลางหน้าปัด และหลักชั่วโมงที่จัดวางอย่างประณีต ความ ชัดเจนในการอ่านค่า ซึ่งเป็นคุณค่าที่แบรนด์ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาแห่งเจนีวาให้ความสําคัญเสมอ ถูกขับเน้นด้วยตัวเลขสี

แดงที่สลับสับหว่างอยู่บนแนวเส้นหน่วยนาทีแบบรางรถไฟ เช่นเดียวกับหน่วยวินาทีที่หน้าปัดย่อยที่ตําแหน่งหกนาฬิกา และที่กึ่งกลางหน้าปัด เข็ม Assegai ทองคํา 18 กะรัตอันเป็นเอกลักษณ์ เคลื่อนผ่านพื้นผิวโอพาลีนเงาวาวของหน้าปัดด้วย ความสง่างามราวกับคุ้นเคยกับเรื่องราวของเวลาเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ เม็ดมะยม ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องกล่าวถึง แม้จะเป็นรายละเอียดที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงองค์ประกอบรอง แต่แท้จริงแล้วไม่เคยเป็นเช่นนั้น รูปทรงกลมมนราวลูกบอลสะท้อนความสําคัญได้มากมาย ไม่ใช่แค่เป็นซิกเนเจอร์ของแบ รนด์ที่เป็นที่จดจํา แต่คือเจตนารมณ์ของ Laurent Ferrier ที่ตั้งใจออกแบบให้เม็ดมะยมนี้ดูเอื้อเฟื้อและเชื้อเชิญ เพื่อให้ทุกครั้ง ที่ผู้ที่ได้ครอบครองได้ทําการไขลาน จะไม่ใช่เพียงการกระทําเชิงกลไก แต่กลายเป็นช่วงเวลาแห่งประสบการณ์ที่มอบ ความสุขอย่างแท้จริง

กลไกแห่งกาลเวลา
ภายใต้ฝาหลังแซฟไฟร์คือกลไก LF116.01 calibre ระบบขึ้นลานด้วยมือ ซึ่งทําหน้าที่เป็นหัวใจสําคัญในการทํางานของ Classic Origin Beige สร้างสรรค์ขึ้นด้วยมาตรฐานความประณีตอย่างไร้การประนีประนอมเช่นเดียวกับทุกกลไกที่เมซงสร้างสรรค์ขึ้น

หัวใจการทํางานของกลไกอยู่ที่สกรูบาลานซ์ที่เคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา ภายใต้การควบคุมของบาลานซ์สปริงแบบ Breguet overcoil การจับคู่เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะมันช่วยเพิ่มความเที่ยงตรง ลดความคลาดเคลื่อนจากตําแหน่ง และ ช่วยให้การทํางานมีความเสถียร สม่ําเสมอ ให้ทุกวินาทีเคลื่อนผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความแม่นยําไม่ต่างจากวินาทีแรก


ทว่ากลไกนี้ยังซ่อนอีกหนึ่งความลับที่นักสะสมผู้คร่ําหวอดในแวดวงต่างยกย่อง นั่นคือ long-blade ratchet pawl อันเป็น เอกลักษณ์ ซึ่งผ่านการขัดแต่งและเจียรมุมด้วยมืออย่างประณีต มอบสัมผัสเฉพาะตัวในยามไขลาน ให้เสียง “คลิก” ที่ชัดเจน และไม่ผิดเพี้ยน ดังก้องเป็นเอกลักษณ์ราวกับบ่งบอกความเป็นเรือนเวลาชั้นสูง และเมื่อไขลานจนเต็ม นาฬิกาจะมอบ พลังงานสํารองยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง

แม้กลไก LF116.01 calibre จะดูเรียบง่ายกว่ากลไกชุดอื่นๆ ของเมซง แต่ยังคงมาตรฐานงานตกแต่งที่พิถีพิถันไม่ต่างกัน สะพานจักรถูกแต่งผิวด้วยเทคนิคขัดพ่นทรายละเอียดและเคลือบโรเดียมสีดํา ขณะที่ทุกขอบมุมผ่านการขัดเงาด้วยมืออย่าง ประณีต ตัดกับสกรูที่ขัดเงาจนสะท้อนแสงราวกับดวงดาว งานขัดแต่งทั้งหมด รวมถึงมุมภายในของสะพานยึดชิ้นส่วนเอส เคปเมนท์ที่ทําขึ้นด้วยมือ สะท้อนทักษะและความอดทนของช่างฝีมือเมซง ทุกชิ้นส่วนถูกขัดแต่งด้วยมือภายในเวิร์กช็อป ไม่ มีสิ่งใดถูกปล่อยปละหรือมองข้าม แม้ในส่วนที่ไม่ปรากฏต่อสายตาก็ยังได้รับการขัดแต่งอย่างประณีต

องค์ประกอบทั้งหมดถูกเติมเต็มอย่างกลมกลืนด้วยสายหนังนูบัคสีน้ําตาลมอคค่าที่บุด้วย Alcantara ตัวล็อกแบบหัวเข็มขัด วัสดุเรดโกลด์ 5N สีแดงอบอุ่นสะท้อนตัวเรือนด้วยความสง่างามและความละเมียดละไม ถ่ายทอดจิตวิญญาณของเรือนเวลา นี้ลงไปในทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง


Classic Origin Beige ไม่ได้เป็นเพียงแค่นาฬิกา หากแต่เป็นประจักษ์พยานแห่งเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อสิบห้าปีก่อน เป็น ผลงานทีกลั่นกรองมรดกนั้นและนํามาสู่ปัจจุบัน และที่สําคัญเหนือสิ่งอื่นใด เรือนเวลานี้สะท้อนความจริงอันเรียบง่ายแต่ไม่ เคยเปลี่ยนแปลงความงดงามบางอย่างเป็นอมตะ ไม่มีวันเลือนหาย และไม่ได้เพียงแค่ยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลา แต่ยังทําให้ เวลาเป็นเรื่องราวที่เล่าขานด้วยตัวเอง

PENDULUM
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 ในฐานะผู้แทนจําหน่ายนาฬิกาหรูแห่งแรกในประเทศไทย และมีบูติกทั้งสิ้น 4 แห่งในปัจจุบัน ซึ่ง ล้วนตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสําคัญๆ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้ Pendulum เป็นตัวแทน จําหน่ายนาฬิกาหรูมากกว่า 40 แบรนด์ ทั้งภายในบูติกของตนเองและช่องทางการจัดจําหน่ายอื่นๆ ตอบโจทย์ความชื่น ชอบชื่นชมที่หลากหลายของคนรักนาฬิกา ความหลากหลายของแบรนด์ชั้นนํานี้เอง ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นําของ Pendulum ในตลาดค้าปลีกนาฬิกาหรูในประเทศไทย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้