M.A.D.EDITIONS M.A.D.2 World Tour Edition

Last updated: 10 ธ.ค. 2568  |  30 จำนวนผู้เข้าชม  | 

M.A.D.EDITIONS M.A.D.2 World Tour Edition

M.A.D.2 ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการออกแบบโดยเพื่อนและดีไซเนอร์ที่รู้จักเป็นอย่างดี Eric Giroud โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมคลับและดีเจจากยุค 1990 ซึ่งรุ่นหน้าปัดสีส้มถูกสร้างขึ้นเฉพาะสำหรับสมาชิก Tribe และเพื่อน ๆ ส่วนรุ่นหน้าปัดสีเขียวเปิดให้ทุกคนร่วมลุ้นผ่านระบบจับฉลากนอกจากนี้ M.A.D.2 สีเขียวยังคว้ารางวัล Petite Aiguille จากงาน GPHG อันทรงเกียรติ

ล่าสุดกับการเปิดตัวรุ่นที่สามในโทนสีฟ้า สมาชิกใหม่ในคอลเลกชั่น: M.A.D.2 ‘World Tour’
ตามชื่อที่ระบุไว้ M.A.D.2 World Tour วางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย MB&F ทั่วโลก ในจำนวนจำกัด และอยู่ภายใต้
ดุลยพินิจของตัวแทนแต่ละราย โดยรุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของ MB&F และยังเป็นการยกย่องบทบาทสำคัญของตัวแทนที่มีต่อเครือข่ายของแบรนด์


The M.A.D.2
M.A.D.2 คือบทต่อไปจากเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยความสำเร็จเหนือความคาดหมายของ M.A.D.1 และเป็นเหมือนจดหมายรัก สื่อถึงจิตวิญญาณอิสระของวัฒนธรรมคลับในยุค 1990 โดย Eric Giroud และ Maximilian Büsser ผู้ก่อตั้ง MB&F ทั้งคู่มี
พื้นเพมาจากเมืองโลซานน์ ซึ่งในช่วงยุค 90 ทาง Eric มักใช้เวลาบนฟลอร์เต้นรำ เพลิดเพลินไปกับคลับชื่อดังอย่าง MAD (Moulin à Danses) และ Dolce Vita ในโลซานน์ ท่ามกลางนักดนตรี นักแสดง ศิลปิน… และดีเจ

หน้าปัดย่อยทรงนูนตรงกลางของ M.A.D.2 — แสดงเวลาชั่วโมงและนาที — ดูเหมือนแผ่นเทิร์นเทเบิลของเครื่องมิกซ์ดีเจ ร่องและโทนสีของหน้าปัดกลางจำลองลักษณะของแผ่นไวนิล โดยรอบเป็นแผ่นหมุนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแถบ stroboscopic ของเทิร์นเทเบิลรุ่นยอดนิยม Technics SL-1200 Mark 2 พร้อมเข็มเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่า ทุกการเคลื่อนไหวข้อมือจะทำให้แผ่นเริ่มหมุนได้จริง โดยโรเตอร์สำหรับขึ้นลานอัตโนมัติสามารถมองเห็นได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเรือน

ตัวเรือนสเตนเลสสตีลและแซฟไฟร์ขนาด 42 มม. ของ M.A.D.2 มีรูปทรงโค้งมนคล้ายก้อนกรวด พร้อมสัญลักษณ์บอกเวลาโลหะที่วางอยู่ตรงกลางหน้าปัด และยังมีเซอร์ไพรส์ด้านกลไกนาฬิกา คือโมดูลชั่วโมงกระโดดแบบหมุนได้สองทิศทางที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงาน MB&F ขับเคลื่อนด้วยกลไกสวิส La Joux-Perret G101 เดินด้วยความถี่ 4 เฮิร์ต และสามารถสำรองพลังงานได้ 64 ชั่วโมง

M.A.D EDITIONS
ในกรณีหากคุณพลาดจุดเริ่มต้น
M.A.D.Editions เกิดจากความคิดที่ว่า สมาชิกและเพื่อนสนิทหลายคนไม่สามารถเป็นเจ้าของนาฬิกา MB&F ได้ ทางแบรนด์อยากจะสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน แต่ในราคาที่เข้าถึงได้อย่างไร? ในปี 2021 จึงตัดสินใจเปิดตัวผลงานจากความคิดนั้นออกมาในรูปแบบของรุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือน สำหรับซัพพลายเออร์ที่รู้จัก “เพื่อน ๆ (Friends)” และลูกค้าที่สนับสนุนแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น (The Tribe) ข้อมูลของ M.A.D.1 ถูกส่งออกผ่านทางอีเมล ไม่มีแคมเปญโฆษณา ไม่มีโพสต์บนโซเชียลมีเดีย มีเพียงข้อความขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุน ไม่กี่วันต่อมาสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็เกิดขึ้น: ภาพของนาฬิกาหลุดออกไปบน Instagram และส่งต่อผ่านกลุ่มนักสะสมนาฬิกา ซึ่งต่างตื่นเต้นและให้ความสนใจ “จริงเหรอ? ในที่สุดก็มีนาฬิกาของแบรนด์นี้ที่สามารถซื้อได้ แต่กลับยังไม่มีวางจำหน่าย!” ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Maximilian Büsser ผู้ก่อตั้ง MB&F ออกมาอธิบายโปรเจ็กต์นี้ผ่านวิดีโอสั้น ๆ ว่า “นี่ไม่ใช่แบรนด์ใหม่ เป็นการผลิตเพียงครั้งเดียว แต่ทางเราได้รับฟังความคิดเห็น ให้เวลาสักครู่ เราจะทำสิ่งนั้นสำหรับคุณ” แทนที่จะให้ผู้คนมาต่อคิวหน้าบูติก MB&F เลือกใช้ระบบจับฉลาก ซึ่งยังคงดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน


หลังจากการเปิดตัว M.A.D.1 Blue รุ่นแรก ก็มีการนำเสนอรุ่นต่าง ๆ ตามมา ได้แก่ สีแดง สีเขียว มีการร่วมมือกับ Jean-Charles de Castelbajac ในโปรเจ็กต์ ‘Time to Love’ รุ่น M.A.D.1S ที่เพรียวบางและเรียบหรู ขับเคลื่อนด้วยกลไกสวิส รวมถึงความร่วมมืออีกครั้งในชื่อ ‘Grow Your Dreams’ กับ Yinka Ilori แฟน ๆ หลายพันคนได้ลงทะเบียนเข้าร่วมในแต่ละรอบของระบบจับฉลาก ในช่วงเวลานั้น M.A.D.Editions ยังคว้ารางวัลจาก Grand Prix d’Horlogerie de Genève (GPHG) มาได้ถึงสองรางวัล ได้แก่ M.A.D.1 Red ที่คว้ารางวัล Challenge Prize ในปี 2022 สำหรับนาฬิกาที่มีราคาต่ำกว่า 3,500 สวิสฟรังก์และ M.A.D.2 ที่ได้รับรางวัล Petite Aiguille ในปี 2025 สำหรับนาฬิกาที่มีราคาระหว่าง 3,000 ถึง 10,000 สวิสฟรังก์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้