CZAPEK & CIE. Quai des Bergues Sursum Corda

Last updated: 12 ธ.ค. 2568  |  339 จำนวนผู้เข้าชม  | 

CZAPEK & CIE. Quai des Bergues Sursum Corda

ในปีที่ Czapek & Cie เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของการเฉลิมฉลองครบรอบ 180 ปีแห่งการก่อตั้งโดย François Czapek ในเจนีวาเมื่อปี 1845 และครบรอบ 10 ปีแห่งการฟื้นคืนชีพของแบรนด์ในปี 2015 แบรนด์จึงประกาศเปิดตัว Quai des Bergues “Sursum Corda” (แก เด แบร์กส์ “เซอร์ซุม คอร์ดา”) ผลงานเรือนสุดท้ายของซีรีส์ 4 รุ่นที่รังสรรค์เพื่อฉลองวาระสำคัญของปี 2025 นาฬิกาที่เปรียบเสมือนการ “ปิดวงกลม” ของเรื่องราวสายธารประวัติศาสตร์ทั้งเก่าและใหม่อย่างงดงาม

ก่อนหน้านี้ Czapek เปิดม่านการเฉลิมฉลองด้วย Antarctique Tourbillon นาฬิกาทูร์บิญองเครื่องอินเฮาส์รุ่นแรกของไลน์ Antarctique ต่อด้วย Antarctique Plique-à-Jour ที่ตีความงานหัตถศิลป์ให้ร่วมสมัย และ Time Jumper รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้กลไกจักรกล คาลิเบอร์ 10 แบบชั่วโมงกระโดดหรือ jumping hour และในที่สุด นาฬิการุ่น “Sursum Corda” Czapek ก็หวนกลับสู่หัวใจดั้งเดิมของแบรนด์ คือการแสวงหาความงามและความเรียบง่ายที่ลุ่มลึกซึ่งเป็นตัวตนแท้จริงของเมซงนับตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม


คอลเลกชัน Quai des Bergues เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ตามชื่อเวิร์กช็อปดั้งเดิมของ François Czapek ที่ตั้งอยู่ริม Quai des Bergues ในเจนีวา ก่อนที่เขาจะขยายกิจการไปยังปารีสที่ Place Vendôme และกรุงวอร์ซอว์ ผู้ก่อตั้ง Czapek ยุคใหม่จมดิ่งลงสู่ประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 19 ศึกษานาฬิกาพกต้นแบบในคลังเอกสารเก่า รวมถึงเรือนอ้างอิงหมายเลข 3430 จากช่วงปี 1850 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของ Quai des Bergues รุ่นเริ่มต้น นาฬิกาข้อมือรุ่นผลิตจริงรุ่นแรก Quai des Bergues N° 33 ได้รับการตีความด้านความงามของนาฬิกาพกประวัติศาสตร์อย่างซื่อสัตย์ ด้วยตัวเลขโรมันทรงยาว หน้าปัดอีนาเมลแบบ grand feu และเลย์เอาต์แบบดูอัลซับไดอัลเยื้อง การแสดงวินาทีและพลังงานสำรอง บรรจุในตัวเรือนขนาด 42.5 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกเฉพาะที่พัฒนาร่วมกับ Chronode

ในปี 2016 โมเดล Quai des Bergues 33bis ยังได้รับรางวัล Public Prize จากงาน Grand Prix d'Horlogerie de Genève (GPHG) ตอกย้ำความสำเร็จของการผสมผสานระหว่างความซื่อสัตย์ต่อประวัติศาสตร์และงานสร้างสรรค์สมัยใหม่ นับตั้งแต่วันนั้น Quai des Bergues ได้กลายเป็นแก่นปรัชญาของ Czapek การเดินตามรอย François Czapek ในการแสวงหาความงามโดยไม่จำเป็นต้องนิยามมัน เว้นพื้นที่ให้เสน่ห์ของความงามที่สมบูรณ์แบบและไม่สมบูรณ์อยู่เคียงกันอย่างมีชีวิตชีวา


สำหรับรุ่นใหม่ “Sursum Corda” ที่งดงามในตัวเรือนโรสโกดล์ 18k จับคู่กับหน้าปัดกรองเฟอสีขาวบริสุทธิ์ นาฬิกาเรือนนี้ได้ชุบชีวิตรหัสการออกแบบความคลาสสิกของคอลเลกชัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคเคลือบสีลงยา ตัวเลขโรมัน และชุดเข็มอันประณีต แต่เพิ่มความลึกเชิงสัญลักษณ์เข้าไปอย่างงดงาม คำว่า “Sursum Corda” เป็นภาษาละตินแปลว่า “จงยกหัวใจขึ้น” ถูกประดับใต้ชั้นอีนาเมล เผยให้เห็นเพียงเมื่อแสงตกกระทบในมุมที่เหมาะสม ประโยคนี้เป็นถ้อยคำที่ Xavier de Roquemaurel ซีอีโอของแบรนด์ใช้ปลุกใจเสมอในช่วงเวลาที่ยากลำบากระหว่างเส้นทางการฟื้นคืนชีพของ Czapek จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็ง ความหวัง และแรงกระตุ้นในใจ ที่น่าประทับใจคือไอเดียการซ่อนประโยคนี้ไว้ในหน้าปัดไม่ได้มาจาก Xavier แต่เป็นแรงบันดาลใจจากหนึ่งในสมาชิกทีมของ Czapek เอง

ภายในหน้าปัดยังมีโลโก้ “10 / 180” ที่เลเซอร์แกะสลักเพื่อระลึกถึงการครบรอบ 10 ปีแห่งการกำเนิดใหม่ และ 180 ปีแห่งต้นกำเนิดดั้งเดิม อีกทั้งยังมีลายเซ็น “Czapek” แบบซ่อน ที่ถอดแบบมาจากลายเซ็นจริงของ François Czapek ที่เก็บไว้ในคลังเอกสารของเจนีวา ฝังอยู่ภายในหน้าปัดย่อยแสดงวินาที รายละเอียดเล็ก ๆ ที่มองเห็นบ้าง ซ่อนบ้างเหล่านี้ สะท้อนเจตจำนงของแบรนด์ที่ต้องการความงามแบบบริสุทธิ์ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความคิดละเอียดอ่อนสำหรับผู้ครอบครองให้ค้นพบ


นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานของ Czapek สายพันธุ์เดียวกับที่ใช้ใน Quai des Bergues รุ่นดั้งเดิม โครงสร้างแบบตลับลานคู่ให้พลังงานสำรองยาวนานถึง 7 วัน (168 ชั่วโมง) มอบทั้งความสะดวกในการใช้งาน และยังอ้างอิงขนบธรรมเนียมเก่าแก่ในศตวรรษที่ 19 ที่ผู้คนมักไขลานนาฬิกาพกทุกวันอาทิตย์หลังพิธีมิสซา กลไกนี้ยังสะท้อนสถาปัตยกรรมของนาฬิกาพกยุคกลางศตวรรษที่ 19 ด้วยตลับลานคู่ การจัดวางแบบสมมาตร และรอยหยักเปิดโล่ง พร้อมการขัดแต่งตามมาตรฐานนาฬิกาจักรกลชั้นสูง เช่น circular graining การตกแต่งพื้นผิวชิ้นส่วนของกลไกนาฬิกา โดยทำให้เกิดลวดลาย วงกลมซ้อนกันเป็นชั้น, การขัดขอบมุมบนสะพานยึดตลับลานด้วยมือ และพื้นผิวแบบพ่นทราย sand-blasted ทุกองค์ประกอบล้วนสืบทอดจิตวิญญาณประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็สอดรับความคาดหวังร่วมสมัยด้านงานฝีมือ

Quai des Bergues รุ่นใหม่นี้เปิดตัวด้วยขนาดตัวเรือน 40.5 มิลลิเมตร เป็นขนาดตัวเรือนที่เลือกมาอย่างตั้งใจเพื่อประสานความสมดุลระหว่างสุนทรียะคลาสสิกและความพอดีบนข้อมือยุคปัจจุบัน และจะเป็นขนาดมาตรฐานของคอลเลกชันในอนาคต แทนที่ขนาด 42.5 และ 38.5 มิลลิเมตรของรุ่นก่อนหน้า


พร้อมกันนี้ Czapek ยังเปิดตัว Quai des Bergues N° 33 รุ่นใหม่ในโรสโกลด์และหน้าปัดลงยาแบบกรองเฟอสีขาว และ N° 25 รุ่นผสานของสเตนเลสสตีลกับอีนาเมลกรองเฟอ ทั้งสองรุ่นเป็นการวิวัฒน์อย่างประณีตของ 33bis และ 25ter โดยปรับงานขัดแต่งให้ละเอียดมากขึ้น เช่น การทำพื้นผิวด้านข้างแบบพ่นทราย และเปิดโอกาสให้ผู้สั่งสามารถปรับแต่งรายละเอียด เช่น เลือกเข็มแบบคลาสสิก Fleur-de-Lys หรือแบบลูกศรร่วมสมัย รวมถึงเลือกใส่ “ประโยคลับ” ลงในหน้าปัดได้ กลไกที่สำรองพลังงานนาน 7 วันยังได้รับการตีความใหม่ โดยวางหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 4:30 ให้แสดงทั้งพลังงานสำรองและวันในสัปดาห์

“นาฬิกา Quai des Bergues ใหม่ทั้งสองเรือน ไม่ใช่เพียงผลงานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงโอกาสสำคัญเท่านั้น” Xavier กล่าว “แต่คือของสะสมแห่งอนาคต และเป็นการแสดงออกที่บริสุทธิ์ที่สุดของปรัชญาการออกแบบของ Czapek ผลงานนี้จะพูดแทนประวัติศาสตร์ของเรา ชุมชนของเรา และความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อที่หล่อหลอมเส้นทางทั้งหมดของเรา”


“Sursum Corda”, N° 33 และ N° 25 จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการปิดวงกลมฉลองครบรอบปี 2025 อย่างงดงาม จากการฟื้นคืนสู่การประกาศอัตลักษณ์อย่างมั่นใจอีกครั้ง ผ่านรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ มรดกทางประวัติศาสตร์ และกลไกที่เชื่อมสองศตวรรษเข้าด้วยกัน Czapek เชื้อเชิญชุมชน “Rare People” ของแบรนด์ให้ร่วมเฉลิมฉลองพลังแห่งความเพียรพยายาม งานฝีมือ และความรักในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา หัวใจสำคัญของการเกิดใหม่ของเมซงนับตั้งแต่วันแรก

ทั้งสามรุ่นจะวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลก ร้านแฟลกชิพในเจนีวา และทางเว็บไซต์ Czapek.com

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้